เสียงระทมทุกข์ที่เบาเกินไป/เมนูข้อมูล นายดาต้า

เมนูข้อมูล

นายดาต้า

 

เสียงระทมทุกข์ที่เบาเกินไป

 

นับวันยิ่งชัดเจนว่าประเทศเราถึงเวลาที่ต้องการผู้บริหารที่ชาญฉลาด

ที่สำคัญควรจะมีผู้นำที่อยู่กับสติปัญญามากกว่าเอาแต่ปล่อยความคิดให้เตลิดไปตามแรงชักนำของความเคยชินอันเกิดจากปมในใจ

อย่างเช่น เมื่อรับรู้การแสดงออกของผู้ประกอบการรถขนส่งสินค้า ควรจะรู้ว่าเป็นการเรียกร้องเพื่อให้ช่วยเหลือแก้ไขราคาน้ำมันที่แพงหูดับตับไหม้ ไม่บันยะบันยังขึ้นทุกที

ไม่ใช่เรื่องไม่มีรถขนส่งสินค้าที่จะต้องเอารถทหารมาทำหน้าที่ แต่เป็นเรื่องทำมาหากินลำบากหากจะไม่ขึ้นค่าขนส่งให้กระทบราคาสินค้าซึ่งจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน

ซึ่งวิธีแก้ปัญหามีมากมาย แค่เอาโครงสร้างราคาน้ำมันมาดูว่าจะปรับจูนตรงไหนลงได้บ้าง หรือหากไม่ได้จริงๆ ก็ต้องบอกกล่าวให้ประชาชนเข้าใจเพื่อรับภาระที่จะต้องขึ้นราคาสินค้า

ไม่ใช่หันมาใส่คนทำมาหากิน ด้วยประกาศจะเอารถทหารมาขนส่งแทน ซึ่งสะท้อนว่าบริหารด้วยความเคยชินกับการใช้อำนาจ

ผู้นำที่ออกอาการเช่นนี้แทบทุกครั้งที่ประชาชนมีปัญหา

 

ในสถานการณ์ที่สถานะของประเทศคือการจัดเก็บรายได้ของปีงบประมาณ 2564 ที่เก็บได้ทั้งสิ้น 2.369 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 3.07 แสนล้านบาท หรือ 11.5% โดยมีหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 เท่ากับ 9,337,643 ล้านบาท หรือ 58.15% ของจีดีพี (16,058,285 ล้านบาท)

ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดเผยตัวเลขเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 เท่ากับ 14,272,588 ล้านบาท หรือ 89.3% ของจีดีพี

เอกสารแถลงข่าวของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง “ภาวะสังคมไทยไตรมาสสาม ปี 2564” ระบุว่า ผู้มีงานทำมีจำนวนทั้งสิ้น 37.7 ล้านคน ลดลงร้อยละ 0.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

การว่างงานเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่มีการระบาดของ COVID-19 โดยมีผู้ว่างงาน 8.7 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงานที่ร้อยละ 2.25 นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่มีการศึกษาระดับอุดมศึกษามีอัตราการว่างงานสูงสุดร้อยละ 3.63 รองลงมาเป็น ปวส. ร้อยละ 3.16

ภาระค่าครองชีพที่อาจปรับเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ราคาสินค้าหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้นได้ในอนาคต และกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน โดยเฉพาะผู้ว่างงานชั่วคราวที่ไม่ได้รับค่าจ้าง ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 7.8 แสนคน ทำให้แรงงานกลุ่มนี้มีปัญหาในการดำรงชีพ

ขณะที่คดีอาญาโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3 จากไตรมาสเดียวกันของปี 2563 โดยคดียาเสพติดเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 และคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.3

 

ตัวเลขเหล่านี้เป็นภาพสะท้อนว่าประเทศเรากำลังมีปัญหาหนัก มีแนวโน้มว่าจะรุนแรงขึ้น หากไม่มีการบริหารจัดการที่ชาญฉลาด ด้วยสติปัญญาของผู้นำ

แน่นอนว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นปัญหาปากท้อง ซึ่งกลุ่มคนที่จะเดือดร้อนคือคนระดับล่าง

ช่องว่างความเหลื่อมล้ำที่ถ่างออกไปเรื่อยๆ ชนชั้นนำของสังคม โดยเฉพาะผู้ที่กินเงินเดือนที่มาจากภาษีของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ หรือประชาชนย่อมไม่อยู่ในข่ายของผู้จะต้องเดือดร้อนไปด้วย

คนกลุ่มใหญ่ที่ไร้สิทธิไร้เสียง กับคนกลุ่มเล็กที่เสียงดังกว่า

ด้วยเหตุนี้แม้ความเดือดร้อนจะเกิดขึ้นทุกหย่อมย่าน เสียงเรียกร้องขอให้มีการบริหารประเทศที่ชาญฉลาดด้วยสติปัญญา

แต่ความดังของเสียงมักไม่อยู่ในระดับที่ผู้นำและชนชั้นที่เหนือกว่าจะได้ยินเสมอ