ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/’ฮอนด้า HR-V’-‘ฮาวาล JOLION’ ตลาด ‘เอสยูวี’ เล็ก-เดือดอีกรอบ

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

 

‘ฮอนด้า HR-V’-‘ฮาวาล JOLION’

ตลาด ‘เอสยูวี’ เล็ก-เดือดอีกรอบ

 

ปังปุริเย่จริงๆ กับค่ายรถน้องใหม่ของไทยอย่าง “เกรท วอลล์ มอเตอร์” (GWM) เพราะแม้จะมาจากแดนมังกรแต่เทคโนโลยี และการออกแบบสั่นสะเทือนไปทั้งวงการยานยนต์

ที่สำคัญการตั้งราคามาจูงใจผู้บริโภคสุดๆ

จนทำให้โมเดลแรก “ฮาวาล H6” กวาดยอดขายเป็นกอบเป็นกำและยังขึ้นเป็นแชมป์ของเซ็กเมนต์ได้ด้วย

หรือในโมเดลต่อมา “ออร่า กู๊ดแคท” (ORA Good Cat) เก๋งไฟฟ้า 100% สร้างกระแสยอดจองกระหึ่มเมือง

ล่าสุดส่งรุ่นใหม่ “ฮาวาล โจไลออน” (JOLION) เอสยูวี กลุ่มบี-เซ็กเมนต์ เข้ามาต่อยอด โดยเพิ่งอวดโฉมกับสื่อมวลชนไปไม่นาน และรอเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเจ้าตลาดเอสยูวี บี-เซ็กเมนต์ “ฮอนด้า เอชอาร์-วี” เพิ่งเปิดตัวโมเดลใหม่กับสื่อมวลชนเช่นกัน

เรียกว่าซัดกันหมัดต่อหมัด

 

มาเริ่มที่ “ฮอนด้า เอชอาร์-วี” รุ่นล่าสุดมีแต่เครื่องยนต์ฟูลไฮบริด e:HEV ทั้งหมด นัยว่าเป็นไปตามกระแสรักษ์โลก

ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ที่เปิดตัวเอชอาร์-วี เจเนอเรชั่นที่ 2 โดยชื่อเรียกเต็มๆ คือ “ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี” ใหม่

ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม ตัวถังปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีเดียวกับตัวรถ เชื่อมต่อกับไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED มีระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ

กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมด้วยไฟท้ายแบบ LED Light Strip ที่เชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น

สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต เสาอากาศครีบฉลาม ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว

ขณะที่รุ่นแต่งพิเศษ “RS” เปิดตัวมาพร้อมๆ กันเลย ซึ่งเป็นแนวทางการทำตลาดของฮอนด้า ในช่วงหลังๆ

รุ่น “RS” ไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่ได้เห็นตัวเป็นๆ

กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS สัญลักษณ์ AMP UP บนกันชนหน้าด้านล่าง กันชนหน้า-หลัง พร้อมชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยโครเมียม

ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke

ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว

หลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof)

ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ

 

ภายในพวงมาลัยทรงสปอร์ตสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมระบบเครื่องเสียง ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ และปุ่มควบคุมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ตโฟน

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว

เบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต ด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต

ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ลำโพง 8 ตำแหน่ง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System โดยช่องปรับอากาศดีไซน์ใหม่ พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง

อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)

ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด-ปิดแบบสัมผัส

เบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ เพื่อความสะดวกในการเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ

 

ขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive)

เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU)

มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว กำลังสูงสุด 131 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร

ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เปลี่ยน 3 โหมด คือมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

ส่วนการขับขี่เลือกได้ 3 โหมดเช่นกันทั้ง ECON Mode, Normal Mode และ Sport Mode

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนน

ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ อาทิ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ ฯลฯ

ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้าในไทย กับระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control : HDC) ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย

ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ราคาประมาณการต่ำกว่า 990,000-1,200,000 บาท

ที่ใช้ประมาณการเพราะช่วงที่เขียนต้นฉบับยังไม่เปิดราคาอย่างเป็นทางการ

 

ส่วนคู่ท้าชิงที่ต้องบอกว่าสมน้ำสมเนื้อไม่น้อย เพราะรุ่นพี่อย่าง “ฮาวาล H6” ทำยอดขายขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของกลุ่ม “ซี-เซ็กเมนต์” มาแล้ว

ใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON เช่นเดียวกับ Haval H6 และ ORA Good Cat

กระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Star Matris สีดำ-เทา พร้อมโลโก้ Haval สีเงิน ไฟหน้าเป็นแบบ Full LED พร้อม Daytime Running Light มีระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อก และไฟ Follow me Home

สปอยเลอร์ท้ายดีไซน์ไฟท้าย-ไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลังแบบ LED

เสาอากาศแบบครีมฉลาม ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว

ภายในให้อารมณ์ใกล้เคียงกับ “ฮาวาล H6” เน้นความหรูหรา กว้างขวาง สะดวกสบาย ตกแต่งด้วยสีแบบทูโทนตัดด้วยลายเส้นสีโรสโกลด์

พวงมาลัยทรงสปอร์ตระบบมัลติฟังก์ชั่น เรือนไมล์ Multi Information Display ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว พร้อม Head-up Display แสดงผลที่กระจกหน้าด้วย

หน้าจอกลางแบบ Touch Screen ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง

ระบบปรับอากาศ แยกอิสระซ้าย-ขวา โดยมีระบบกรองอากาศที่จัดการกับฝุ่น PM 2.5

ระบบเกียร์ไฟฟ้าทรงกลมสีไฮ-กรอส ไม่ต่างจากรุ่นพี่

เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ระบบไฮบริดทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์แบบ DHT

ส่วนระบบความปลอดภัยและสะดวกสบายต่างๆ น่าจะจัดเต็มไม่น้อยหน้าใคร

บอกกันแบบคร่าวๆ เพราะยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ที่แน่ๆ มั่นใจได้เลยว่าทำราคาน่าสนใจแน่นอน

เพราะมีตัวอย่างจาก “Haval H6” ให้เห็นแล้วว่าหากสวยจริง ออปชั่นล้นจริง และทำราคาได้เหมาะสม

คนไทยพร้อมเปิดรับแม้จะเป็นค่ายน้องใหม่ก็ตาม