“เศรษฐา” มองเปิดประเทศไปได้สวย ถึงเวลาไปสู่ ‘นาวนอร์มอล’ แนะเตรียมรับมือโควิดรอบใหม่

‘เศรษฐา’ ประเมินเปิดประเทศไปได้สวย ถึงเวลาเดินหน้าแบบนาวนอร์มอล’ แนะรัฐรับมือโควิดรอบใหม่ ย้ำปากท้องสำคัญ

วันที่ 3 พฤศจิกายน เมื่อเวลา 10.10 น.นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายในงานสัมนา BOOST UP THAILAND 2022 ช่วงสนทนาพิเศษเรื่อง “มุมมองเอกชน…อนาคตธุรกิจ 2022” โดยมีนายสรกล อดุลยานนท์ นักเขียนชื่อดังเจ้าของนามปากกา “หนุ่มเมืองจันท์” เป็นผู้ดำเนินรายการ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เชื่อว่าทุกคนหรืออย่างน้อยคนส่วนมากรอคอยวันนั้น จึงถือเป็นนิมิตหมายอันดี รวมถึงมองว่าเป็นสิ่งที่สมควรต้องทำ เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้ ไทยได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะวัคซีน ที่ได้เร่งรัดฉีดครอบคลุมมากขึ้นแล้ว จึงถึงเวลาต้องเดินหน้าต่อไป ขอใช้คำว่า “นาวนอร์มอล”

โดยหลังจากวันที่ 1 พฤศจิกายน ภาพการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น ประเมินผลที่เกิดขึ้น ถือว่าไม่ได้มีอะไรที่เป็นลบ เนื่องจากพิจารณาการเข้ามาของนักท่องเที่ยว ไม่ได้มีการคอมเพลนกลับมามากนัก เรื่องการเปิดร้านอาหาร ใช้ชีวิตประจำวันเริ่มกลับมาได้มากขึ้น ที่แย่เล็กน้อยคือ รถเริ่มติดแล้ว จึงมองว่าน่าจะไปได้ดี

กรณีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า จะมีมาตรการออกมาเรื่อยๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติมากที่สุด แต่อย่าการ์ดตก ต้องดูแลปกป้องตัวเอง รักษาระยะห่าง และไม่ประมาทนั้น ซึ่งถือเป็นคำแนะนำที่เหมาะสม แต่อยากขอแถมเพิ่มเติมเล็กน้อย ว่า ระบบสาธารณสุขและการแพทย์ของประเทศไทยมีความแข็งแกร่ง หมอ พยายาล และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข ทำงานหนักอย่างเต็มที่มาตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา จึงไม่อยากให้มีใครไปด้อยค่าตรงนี้ เนื่องจากปัญหาการระบาดระลอกใหม่ๆ ที่ผ่านมา เกิดขึ้นจากความผิดพลาดอย่างที่รู้กันอยู่คือ ปัญหาการฉีดวัคซีน ซึ่งตรงนี้มองว่าต้องยอมรับให้ได้

อย่างไรก็ตาม อยากให้รองนายกฯ พูดถึงการรับรองการนำเข้าวัคซีนสำหรับกระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็ม 3-4 ด้วย จัดเตรียมให้พร้อมสำหรับการระบาดโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยหวังว่าการซื้อวัคซีนเข้ามาเพิ่มจำนวนมากขึ้นของรัฐบาล จะเป็นเรื่องจริง เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากพิจารณาภาพที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ อาทิ สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่หลัก 50,000 คนต่อวัน แต่อัตราการเสียชีวิตน้อยมาก

“มีความเป็นไปได้ที่โควิดระลอกใหม่จะเกิดขึ้น หากฟังจากที่นายกฯ พูดนั้นค่อนข้างสั้นเกินไป เพราะพอบอกว่า อาจเกิดการเปิดๆ ปิดๆ ขึ้น ตรงนี้มองว่าไม่ใช้ตู้เย็น เราคงทำอย่างนั้นไม่ได้ หากเกิดการระบาดโควิดขึ้นในโซนใด หรือมีโซนใดเกิดการติดเชื้อมากเป็นพิเศษ อาจต้องมีมาตรการพิเศษออกไป ไม่ควรใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ และไม่ควรทำอะไรที่เกิดการหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วประเทศพร้อมกัน เพราะอย่าลืมว่า เรื่องของปากท้อง หากคนไม่มีกินไม่มีใช้ก็ตายได้เช่นกัน” นายเศรษฐา กล่าว