หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๙๕.๓)/บทความพิเศษ ฟ้า พูลวรลักษณ์

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ

ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๙๕.๓)

 

ในสมัยโบราณ คนจีน ผู้ชายมีแซ่ ผู้หญิงมีสี ผู้ชายมีลูกชาย ใช้แซ่ตามพ่อ หากมีลูกสาว ใช้สีตามแม่ แต่ต่อมา เพศชายเป็นใหญ่ เวลามีลูก ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ก็จะใช้แซ่ตามพ่อ ไม่มีคนใช้สีอีกแล้ว

คิดดู นามสกุลก็เหมือนกัน ทุกวันนี้ เรายังหลงเหลือร่องรอยของเพศชายเป็นใหญ่ ลูกๆ จะสืบทอดนามสกุลจากพ่อ ไม่ว่าคุณจะเป็นชายหรือหญิง

แต่หากสังคมปรับเปลี่ยนใหม่ ให้ลูกชายตามนามสกุลของพ่อ และลูกสาวตามนามสกุลของแม่ แบบนี้สังคมจะสมมาตร เพศชายและเพศหญิงจะมีความสำคัญเสมอกัน

ประเด็นนี้เล็กนิดเดียว คงไม่มีใครในสังคมจะไปเปลี่ยนแปลงมันได้ และคงไม่มีใครคิดทำ ยกเว้นแต่ว่าผู้นำคนนั้น เป็นผู้มีสภาวะกวีสูงสุด และมีอำนาจสั่งการได้ สังคมจะ Shift นิดหนึ่ง

การเปลี่ยนแปลงนิดเดียวนี้ ดั่งการกระพือปีกของผีเสื้อ

 

หากฉันเดินทางกลับอดีตได้ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ ฉันจะกลับไป

๑ ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ทำเหมือนเดิมทุกอย่าง

๒ เปลี่ยนแปลงเพียงนิดๆ

๓ เปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง

ฉันจะทำทั้งสามอย่าง ในกรณีที่แตกต่างกัน บางเรื่องฉันจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย บางเรื่องจะเปลี่ยนแปลงแค่นิดๆ บางเรื่องฉันจะทำเป็นตรงกันข้าม

คิดดูน่าสนุก อยากรู้เหมือนกันว่า จะเกิดผลอย่างไร และเรื่องไหนบ้างที่ฉันจะไม่เปลี่ยนแปลงเลย เรื่องไหนบ้างที่ฉันจะเปลี่ยนแปลงเพียงแค่นิดๆ

และเรื่องไหนบ้างที่ฉันจะปฏิวัติ

 

ถ้าหากฉันรู้อนาคตหนึ่งร้อยปี และเป็นนักการเมือง ฉันจะกลายเป็นรัฐบุรุษที่ยิ่งใหญ่ ด้วยเพราะว่า ฉันจะรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงของโลก จะดักหน้า จะวางแผน จะทำการงานใดๆ ได้อย่างทันท่วงที เป็นยอดคนเลยทีเดียว

วิธีคิดง่ายๆ สมมุติฉันเดินทางย้อนกาลเวลา กลับไปหนึ่งร้อยปี คือย้อนไปปี 1921 จะไปเป็นนักการเมือง ที่ประเทศใดก็ช่าง ฉันก็จะเป็นรัฐบุรุษในประเทศนั้น โดยอาศัยความรอบรู้ของปี 2021 เป็นประโยชน์

หรือหากฉันเป็นพ่อค้า นักธุรกิจ การมีความรู้ในหนึ่งร้อยปีข้างหน้าก็มีประโยชน์มหาศาล เรียกได้ว่า ฉันจะร่ำรวยมหาศาล ฉันจะเป็น Bill Gate ควบ Steve Job ที่เดินทางไปทำงานในอดีตหนึ่งร้อยปีก่อน

แต่ที่แปลกก็คือ หากว่าฉันเป็นศิลปิน หรือกวี การรู้ล่วงหน้าหนึ่งร้อยปีกลับไม่ค่อยมีประโยชน์

อาจมีบ้างแค่ผิวเผิน อาจทำให้ฉันเขียนหนังสือได้แน่นขึ้น กระชับขึ้นนิดหน่อย บางเล่มเขียนได้เร็วขึ้น

แต่โดยแก่นสารแล้ว ก็ไม่แตกต่าง อาจเพราะสิ่งที่เป็นแก่นสารของศิลปินนั้น คือความสมบูรณ์พร้อมของห้วงขณะนั้น

ชีวิตของศิลปินจึงแตกต่างจากนักการเมืองมากนัก เช่น ความสุขสูงสุดของนักร้อง คือการได้ร้องเพลง ที่ไพเราะสูงสุดในห้วงขณะนั้น มันไร้กาลเวลา จะร้องเพลงนั้นในร้อยปีก่อน หรือร้อยปีข้างหน้า ก็มีค่าเท่ากัน

 

๑๐

การเป็นรัฐบุรุษ ทำให้ฉันเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ มีผลต่อพัฒนาการของมนุษยชาติ แต่เป็นเรื่องของอำนาจ มันย่อมต้องไปกระทบชีวิตอื่น บางครั้งอาจต้องไปทำลายชีวิตอื่น

อย่างพระเจ้าตาก ท่านเป็นรัฐบุรุษ แต่ท่านก็ต้องฆ่าคนมากมาย

ศิลปินย่อมทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ด้วยมันขัดแย้งกับพื้นฐานทางจิต ศิลปินจึงเป็นนักการเมืองที่เลว เป็นนักปกครองที่ใช้ไม่ได้

ในทำนองเดียวกัน นักธุรกิจที่สามารถมาก ต้องเป็นคนที่มีธุระมาก ยุ่งวุ่นวายตลอดเวลา สิ่งนี้ขัดแย้งกับความสงบของกวี ที่สำคัญ จะเอาเงินทองเยอะแยะไปทำไม ไม่มีสาระแต่อย่างใดเลย

๑๑

ศิลปินมีความสุขในสิ่งเล็กๆ และเพียงพอ เช่น มีความสุขในอาหารคำเดียว หรือเสื้อผ้าชิ้นเดียว โปสเตอร์แผ่นเดียว เพลงแค่เพลงเดียว หรือกวีแค่บทเดียว

นี้คือจิตวิญญาณของศิลปิน มันคือความน่ารักสูงสุด ความมหัศจรรย์ยิ่งใหญ่ของการเป็นศิลปิน

แต่ทว่ามันก็เปิดจุดอ่อนมากมายมหาศาล หากเขาเป็นวณิพกเร่ร่อน ก็ปลอดภัยดี แต่หากเขาเป็นกษัตริย์ ราชวงศ์นั้นก็อาจล่มจม ชาตินั้นก็อาจดับสลาย

ในประวัติศาสตร์เราเห็นมามากแล้ว กษัตริย์ที่เป็นศิลปิน ทำให้ประเทศชาตินั้นล่มสลาย

 

๑๒

หากฉันเดินทางย้อนกาลเวลา สำหรับฉัน คือ ๖๘ ปี ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ฉันจะยังทำในสิ่งที่ได้ทำไหมนะ หรือจะปรับเปลี่ยน แต่จะเปลี่ยนไปทำอะไร แม้ทุกวันนี้ฉันจะรู้สึกชีวิตตัวเองจ่ายราคาให้กับสภาวะกวีมากเกินไปมาก แต่กระนั้น ฉันก็ยังรักมันอยู่ดี จะให้ฉันไปเป็นอื่น เป็นอะไรหรือ สภาวะกวีจะกลับมาห้อมล้อมตัวฉัน เป็นด่านที่เหนียวแน่น

๑๓

เช่น หากฉันกลับไปมหาวิทยาลัย ฉันจะพักที่หอพักเดิมไหม เจอเพื่อนฝูงในหอที่ฉันเคยอยู่มาแล้ว หรือไปหอใหม่ เจอเพื่อนกลุ่มใหม่ ฉันอาจเลือกที่ใหม่ได้โดยง่าย แต่เวลาทำแล้ว จะรู้สึกอึดอัด เหมือนปีนเขา มันยากลำบาก ทรมาน ท้ายสุดฉันจะโดนดึงดูดให้กลับมาหอเดิม การเปลี่ยนแปลง อาจเย้ายวน แต่มันคือการต้านแรงโน้มถ่วงของโลก

๑๔

หรือฉันจะเปลี่ยนบุคคิกของตัวเอง เปลี่ยนนิสัยใจคอ ที่จริงในอดีตฉันก็เคยทำมาแล้ว มันไม่ได้ผล เหมือนเปลี่ยนเส้นทางเดิน แต่เดินได้ไม่สุด เพราะนิสัยใจคอใหม่ มันไม่ใช่ตัวตนของฉัน อาจหลอกคนอื่นได้สั้นๆ อาจทำให้ฉันได้เพื่อนใหม่บางคน แต่ก็ไม่ลึกซึ้ง มีแต่ย้อนกลับมาเป็นตัวเองตามเดิม ฉันจึงจะเดินได้สุด

๑๕

ฉันมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่ไม่ค่อยน่าคบ เขาเห็นแก่ตัว และพร้อมจะหักหลังฉัน ในอดีตฉันรู้สึกตัว แต่ก็คบเขา มามองในวันนี้ ฉันควรคบเขาไหมนะ เขาเหมือนงูเห่า แต่ทว่า หากไม่คบ ฉันจะเข้าใจชีวิตหรือ หากฉันคบแต่เพื่อนดีๆ ฉันจะเข้าใจความจริงหรือ

โดยสรุป แม้ย้อนกลับไป ฉันก็คงต้องทำตัวแบบเดิม ยังคงคบเขา หากเปลี่ยนแค่เล็กน้อย ทุกวินาทีที่อยู่กับเขาจะซึ้งใจยิ่งนัก

 

๑๖

แม้จะย้อนกลับไปเป็นชีวิตใหม่ครั้งที่สอง แต่ส่วนใหญ่ฉันก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม หรือคล้ายเดิม และนี่คือความลึกซึ้งของชีวิต สิ่งที่ฉันไม่ทำ ก็ยังไม่ทำ และสิ่งที่ฉันทำไม่ได้ ก็ยังคงทำไม่ได้ การไปเปลี่ยนมันนั้น มันปวดร้าวเหลือจะรับได้

๑๗

หนึ่งใน Fake News คือการย้อนกาลเวลา เอาคอนเซ็ปต์ของยุคนี้ไปใส่ยุคนั้น แล้วคิดใหม่ ตีค่าใหม่ ซึ่งในความเป็นจริงทำไม่ได้ การศึกษาประวัติศาสตร์ทำให้ฉันรู้ว่า โลกในอดีตแตกต่างกับวันนี้มาก และเป็นความแตกต่างที่เราไปแก้มันตามใจชอบไม่ได้เลย ไปคิดเองเออเองไม่ได้ มันง่ายที่จะคิดเช่นนั้น แต่นี้คือ Fake News

๑๘

แต่ Fact นี้ลึกซึ้งยิ่งนัก และยิ่งมีคุณค่า หากตรวจสอบซ้ำสอง ซ้ำสาม

๑๙

แต่แน่ละ มีบางเรื่องที่ฉันจะเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง แม้จะรู้ว่าเสี่ยง และฉันจะไม่รู้เลยว่าผลของมันจะเป็นอย่างไร

คงเพราะตัวชีวิตเอง ถึงที่สุดจะมีธาตุเสี่ยงอยู่ ฉันจะทำแม้ว่าจะเจ็บปวดทรมานมาก และเสี่ยงต่อการสูญเสียทั้งจิตวิญญาณ