ต่างไม่มีศรัทธาต่อกัน/เมนูข้อมูล นายดาต้า

เมนูข้อมูล

นายดาต้า

 

ต่างไม่มีศรัทธาต่อกัน

 

หากติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด จะพบว่าเมื่อมาถึงวันนี้แทบไม่เหลือคนที่ไม่เชื่อว่าพี่น้อง “3 ป.” ที่ครองอำนาจนำประเทศมายาวนานจะไม่แตกคอกัน

แม้การวิพากษ์วิจารณ์จะโฟกัสไปในความสัมพันธ์ระหว่าง “ป.ประยุทธ์-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” กับ “ป.ป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ว่าอยู่ร่วมกันได้ยากแล้ว เหมือนว่า “ป.ป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” จะไม่เกี่ยว

ทว่าทุกครั้งที่มีการพูดถึงความขัดแย้ง “ป๊อก” มักถูกวางไว้ข้าง “ตู่ ประยุทธ์”

เป็นไปในแบบ “ป้อม” ถูกผลักออกไปให้อยู่โดดเดี่ยว “น้องๆ” ไม่เห็นคุณค่าอะไรอีกแล้ว ภาพถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเล่นเกมถล่ม “ตู่” โดยให้ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” เป็นผู้แสดงหน้าฉาก

ภาพของ “ป้อม” ถูกกระหน่ำหนักด้วยว่า ทั้งที่รู้ดีอยู่เบื้องหลัง แต่เมื่อถึงเวลาต้องเด็ดขาดกลับสั่งถอยทัพจนพ่ายแพ้ยับเยิน กระทั่ง “ธรรมนัส” ต้องเผชิญชะตากรรมถูกเด็ดทิ้งแบบไม่ให้ราคา

หลังสภาผู้แทนราษฎรโหวตผ่านญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจให้ “ผู้ที่ถูกอภิปรายทำงานต่อไป” เหมือน ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลไม่สนใจว่าประชาชนรู้สึกอย่างไร

 

“นิด้าโพล” ได้สำรวจเรื่อง “นายกรัฐมนตรีกระชับอำนาจ”

เมื่อถามถึงการให้รัฐมนตรีสองคนออกจากตำแหน่ง ร้อยละ 23.99 บอกว่าเหมาะสมแล้ว, ร้อยละ 23.54 เห็นว่าพี่-น้อง 3 ป.แค่เล่นเกมการเมือง ไม่มีการแตกแยกกันจริง, ร้อยละ 17.16 เห็นว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่เหมาะสม, ร้อยละ 16.70 บอกพรรคพลังประชารัฐจะแตกกันมากขึ้น, ร้อยละ 11.92 เห็นว่านายกฯ จะได้คะแนนนิยมทางการเมืองน้อยลง, ร้อยละ 7.67 บอกนายกฯ และรัฐบาลจะมีความมั่นคงน้อยลง, ร้อยละ 4.10 บอกพี่-น้อง 3 ป.กำลังแยกออกจากกัน, ร้อยละ 3.11 เห็นว่านายกฯ จะได้คะแนนนิยมเป็นปึกแผ่นมากขึ้น, ร้อยละ 1.52 บอกพรรคพลังประชารัฐเป็นปึกแผ่นมากขึ้น, ร้อยละ 17.69 ไม่มีคำตอบ

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ร้อยละ 56.11 บอกว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งเลย, ร้อยละ 21.56 บอกไม่ต้องเป็นหัวหน้า แต่ต้องคุมพรรคให้ได้, ร้อยละ 16.33 บอกว่าควรเป็น และไม่มีคำตอบให้ร้อยละ 6.00

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรตั้งพรรคของตัวเองเพื่อเตรียมการเลือกตั้งสมัยหน้าหรือไม่ คำตอบร้อยละ 58.24 คือไม่เห็นด้วย โดยเหตุผลชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์บริหารงานล้มเหลว ขาดภาวะผู้นำ ไม่มีศักยภาพ ไม่สามารถแก้ปัญหาภายในประเทศได้ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ถึงเวลาที่ควรยุติบทบาท ขณะที่ร้อยละ 19.97 เท่านั้นที่บอกว่าเห็นด้วย เพราะเป็นผู้มีความสามารถในการบริหาร เด็ดขาด กล้าตัดสินใจได้ดี คาดว่าจะดูแลสมาชิกพรรคได้ มีร้อยละ 10.10 ที่ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะทำให้ประเทศสงบสุข ไม่มีความขัดแย้ง ถ้าสามารถเลือกสมาชิกพรรคที่มีคุณสมบัติและความสามารถที่จะพัฒนาประเทศได้ดียิ่งขึ้น, ร้อยละ 7.82 ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะผลงานที่ผ่านมาไม่ดี แก้ปัญหาได้ล่าช้า ควรเปิดโอกาสให้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหาร

และร้อยละ 3.87 ไม่มีคำตอบให้

 

มองผ่านผลโพลนี้ย่อมสรุปไปอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์หมดลงแล้ว หรือเหลือน้อยเต็มที

ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะแม้จะเปลี่ยนพฤติกรรมจากเอาแต่ WFH ทำงานที่บ้าน ปฏิเสธทำงานในวันหยุด มาเป็นลงพื้นที่ดูแลสมาชิกพรรคเอง

แต่เสียงตอบรับกลับเป็นไปในทาง จะได้สักกี่น้ำ คนที่ไม่เคยดูแลใคร เอาแต่อาศัยการดูแลของคนอื่น จะฝืนแสดงในบทที่ตัวไม่ถนัดได้นานแค่ไหน และจะทำเป็นหรือไม่

แม้มีบางส่วนจะเชื่อว่าคนแบบ พล.อ.ประยุทธ์นั้น มีแต่จะลุยไปข้างหน้า เป็นจำพวกบ้าพลัง

แต่ถึงที่สุดแล้ว ก็ต้องไป

เพราะหากเลือกเดินในเส้นทางที่อาศัยอำนาจประชาชน แล้วขาดศรัทธา

ย่อมยากที่จะไปต่อได้