ปลอดประสพ ถามนายกฯทำไมเหลาะแหละ ช่วงหน้าสิ่งหน้าขวาน ทำไมไม่ใช้วิธีพิเศษซื้อATK

นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ท่านนายกทำไมเหลาะแหละ ระบุว่า

ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมในยามหน้าสิ่วหน้าขวานทุกนาทีมีความหมายถึงชีวิตผู้คน การจัดหาวัสดุเวชภัณฑ์ เช่น Antigen Rapid Test Kit / ATK (เครื่องตรวจ COVID แบบเร่งด่วน) รัฐบาลไม่ใช้วิธีพิเศษ กระทรวงสาธารณสุขให้องค์กรเภสัชกรรมดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ทำให้จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้

เมื่อเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขนาด 9.2 แมกนิจูดที่ปลายเกาะชวาในปี 2547 ทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าชายหาดภาคใต้ทางด้านภูเก็ตพังงา มีนักท่องเที่ยวตายสองหมื่นกว่าคนและส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศ เพื่อรักษาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย รัฐบาลจึงต้องรีบจัดตั้งศูนย์เตือนภัยพิบัติเเห่งชาติให้ได้โดยเร็วที่สุด ผมได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานนี้ โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุญาตให้ใช้วิธีพิเศษดำเนินการ ต้องขอบคุณท่านสมิทธ ธรรมสาโรจน์ ผช.รมต.ได้มาช่วยในด้านวิชาการเพราะท่านเคยเป็นอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

พล.อ.อ.อนุพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบ.สูงสุด ซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียนกรุงเทพคริสเตียนกับผมมาตั่งแต่เด็ก ก็ได้อาสามาช่วยทางด้านการปฏิบัติการ ท่านเก่งและเฉลียวฉลาดว่องไวเพราะเป็นนักบินเก่า และมีลูกศิษย์ผมคือดร.เชิดศักดิ์ วีระพัฒน์ ปัจจุบัน เป็นDGของ The Centre on Integrated Rural Development for Asia and the Pacific, CIRDAP ประจำอยู่ที่ประเทศบังคลาเทศก็มาช่วยผ่อนแรง เราทำเสร็จภายใน 2 เดือน ก่อนทุกประเทศในภูมิภาคนี้ วันเปิดนายกรัฐมนตรีทักษิณได้เชิญทูตานุทูตมาดูความสำเร็จของคนไทยเพราะทำกันเองจริงๆในช่วงสุดท้ายของพิธีเปิด ผมได้กล่าวว่าท่านนายกครับ กรุณาอย่าลืมจ่ายเงินผมด้วย เพราะทั้งหมดนี้ (อาคาร,โต๊ะ,เก้าอี้,เครื่องใช้เท่าที่จำเป็น) ผมออกสตางค์ส่วนตัวไปก่อนทั้งสิ้น (หลายล้านครับ) นี่ไงครับวิธีพิเศษคือทั้งระเบียบและความตั้งใจ

ปี 2554 เกิดน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 100 ปีรัฐบาลต้องทำ 3 งานใหญ่ๆ งานเเรกเร่งด่วนคือช่วยราษฎร งานที่สองระยะกลาง คือต้องหาเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถคาดการณ์นำ้ท่วมและการระบายน้ำ งานสุดท้ายคือประเทศไทยจะสู้หรือหนีน้ำท่วมได้อย่างไร คณะรัฐมนตรีซึ่งท่านยิ่งลักษณ์เป็นนายก มีมติให้ใช้วิธีพิเศษเพราะเห็นเป็นเรื่องเร่งด่วน ยกเว้นเรื่องวางแผนระยะยาวแก้ไขปัญหาน้ำท่วมผมขอให้ค่อยๆทำไปตามขั้นตอน ในการนี้ผมได้มอบหมายให้ ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.GlSTDA เป็นผู้รับผิดชอบ สั่งซื้อเครื่องมือที่เรียกว่า เครื่องตรวจวัดคลื่นและกระแสนำ้ด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง(HF-Radar) มาจากสหรัฐอเมริกาเพราะเห็นว่าหน่วยงานอวกาศและมหาสมุทรของสหรัฐ (NOAA) เขาใช้ได้ผล ราคาหลายร้อยล้านโดยวิธีใช้พิเศษครับ เจาะจงไปเลยเพราะรู้และมั่นใจในประสิทธิภาพ จำได้ว่ามีนักการเมืองมาหา มาวิ่งเต้นจะเปลี่ยน ผมจึงตอบไปว่า ไปที่อื่นเถอะอย่ามายุ่งกับผม เรื่องนี้เป็นชีวิตคนไม่ใช่ที่หาเงิน

อีกเรื่องที่ผมติดใจมากก็คือ งบประมาณและความต้องการเป็นของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐในกำกับของกระทรวงสาธารณะสุขมี รมต. เป็นประธานคณะกรรมการ เหตุไฉนหน่วยงานนี้จึงจัดหา จัดซื้อจัดจ้างเองไม่ได้ ผมเห็นที่กระทรวงวิทยาศาสตร์มีหน่วยงานชื่อ สวทช. เป็นหน่วยงานในกำกับเหมือนกัน ได้รับงบประมาณปีละประมาณ 4000ล้าน บริหารด้วยบอร์ด(ผมนี่แหละเคยเป็นประธาน) เขาก็จัดซื้อจัดจ้างทุกอย่างได้เองแล้วทำไม กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องให้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้จัดซื้อแทน สปสช. (กลัวจะเร็วไป กลัวจะถูกไปหรือไง)

ท่านนายกประยุทธ์ต้องแก้เรื่องเหล่านี้ให้ได้ผมเป็นแค่รองนายกยังทำได้ ท่านใหญ่โตและยังมีอำนาจตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ในมือ เหตุใดจึงไม่กล้า ท่านโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจคราวนี้ผมเองก็รู้สึกสงสารเหมือนกันเพราะภาษาที่พรรคพวกผมเขาใช้มันรุนแรงมาก เรียกว่าตอบได้หรือไม่ได้ก็แทบเสียคนเชียวล่ะ ท่านลองทบทวนดูท่านทำตัวเองหรือเปล่า