สธ.ตอบปมฉีดบูสเตอร์เข็ม 3 ให้บุคลากรด่านหน้า ส่วนคนฉีดซิโนแวค 2 เข็มรอก่อน

สธ.ชี้ การฉีดบูสเตอร์วัคซีนเข็ม 3 ในบุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรด่านหน้า พร้อมเมื่อไหร่ดำเนินการทันที ส่วนคนที่ได้รับซิโนแวค 2 เข็ม ขอให้รอก่อน

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวตอนหนึ่งจากการแถลงข่าวถึงประเด็นการพิจารณาฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่ 3 ให้บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคไปก่อนหน้า ว่า สำหรับวัคซีนบริจาคจากสหรัฐอเมริกา ไฟเซอร์ ยังไม่ได้ส่งมอบอยู่ระหว่างการหารือรายละเอียดจำนวน วันเวลาการส่งมอบ

ส่วนการฉีดบูสเตอร์โดส หากจะดำเนินการจะใช้เอสตราเซนเนกา ในบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า เมื่อมีความพร้อมจะดำเนินการได้ทันที ส่วนการฉีดบูสเตอร์ในบุคคลทั่วไปที่ฉีดซิโนแวคไปแล้วจะเป็นลำดับต่อไป และดูข้อมูลต่างๆ เพื่อพิจารณาบูสเตอร์ต่อไป

ทั้งนี้ ช่วงเช้าวันนี้ (12 ก.ค.64) คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีข้อสรุป เห็นชอบการฉีดวัคซีนโควิด 19 สลับชนด โดยเข็ม 1 คือ ซิโนแวค และเข็ม 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า ระยะเวลาห่าง 3-4 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา โดยจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสในระดับที่สูงและเร็วมากยิ่งขึ้น รพ.ดำเนินการได้ทันที

รับทราบการฉีดบูสเตอร์โดสบุคลากรการแพทย์ด่านหน้า ในการให้วัคซีนเข็ม 3 ห่างจากเข็มสองระยะ 3-4 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าส่วนใหญ่รับสองเข็มแรกเกิน 4 สัปดาห์แล้ว จะดำเนินการฉีดบูสเตอร์โดสได้เลยทันที เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันสูงและเร็วที่สุด บุคลากรด่านหน้าที่เสี่ยงเชื้อโควิดจากการปฏิบัติงานประจำดูแลผู้ป่วย ซึ่งเชื้อกลายพันธุ์เดลตา มีความจำเป็นต้องฉีดบูสเตอร์โดสเพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยบุคลากรดูแลผู้ป่วยได้เต็มที่ โดยบูสเตอร์โดสจะเป็นแอสตร้าฯ เป็นหลัก มีข้อมูลวิชาการว่าการให้คนละชนิดในเข็มกระตุ้นมีผลดีสร้างภูมิคุ้มกันในบุคคลเพื่อป้องกันโรคโควิด 19