เผยแพร่ |
---|
“ปารีณา” น้ำตาร่วง จวก “วิรัช” เสร็จศึกฆ่าขุนพล เปรียบเป็นนักรบออกไปรบ แต่กลับเข้าบ้าน แม่ทัพกลับใช้มีดฟันคอหลุด แฉซ้ำเคยพูดในที่ประชุมพรรค แค่ให้ ‘ปารีณา’ เป็น กมธ. สภาก็ ‘หยี๋’ แล้ว ชี้เป็นการดูถูกตัวเองด้วย
วันที่ 25 มิถุนายน 2564 นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่โพสเฟซบุ๊กโดยมีการติด แฮชแทคตัวย่อ ว่าเป็นการโพสถึงผู้ใหญ่คนนึงในพรรคที่รังแกตนเองโดยไม่ขอระบุชื่อว่าพูดถึงใคร ส่วนที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ออกมาระบุว่านางสาวปารีณาเคยเป็นอดีตเด็กในสังกัดและมีปัญหามาโดยตลอดนั้น ยืนยันว่าไม่เคยอยู่ในสังกัดนายวิรัชเพราะไม่นิยมที่ผ่านมาเข้าใจว่านายวิรัชพยายามตั้งสังกัดมาโดยตลอด
นางสาวปารีณา ยังกล่าวว่า ตนเองทำงานในสภามานานแล้วแต่ไม่เคยมีตำแหน่งอะไรเลยตั้งแต่ถูกดำเนินคดีก็สูญเสียธุรกิจที่มีทุกอย่างและยังถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่
พร้อมระบุว่าปัญหาของตัวเองเรื่องที่ดินเป็นปัญหาเดียวกับประชาชนหลายคน โดยเฉพาะพื้นที่ในต่างจังหวัดแตกต่างกับคดีทุจริตที่นายวิรัชกำลังถูกดำเนินคดีอยู่เพียงแค่อัยการยังไม่ได้สั่งฟ้อง ซึ่งตนเองและนายวิรัสมีปัญหาที่แตกต่างกันไปแต่มองว่าไม่ควรเหยียบย่ำกัน
และที่ผ่านมาทุกคน เห็นแล้วว่าตัวเองเปรียบเสมือนนักรบ คนที่นั่งอยู่เฉยๆไม่ออกมาย่อมไม่มีบาดแผล แต่พอนักรบออกไปรบและได้รับบาดเจ็บกลับเข้ามาในบ้านแม่ทัพบางคนกลับใช้มีดฟันคอจนหลุด เหมือนกันเสร็จศึกฆ่าขุนพล พร้อมตั้งคำถามว่า นี่คือพฤติกรรมของลูกผู้ชายที่อยู่โคราชหรือไม่
นางสาวปารีณา พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ร่ำไห้และวันนี้เพื่อนส.ส.ในสภาเห็นตนเองมานาน เห็นนั่งร้องไห้ ไม่ใช่เพียงแค่นายวิรัช ออกมากระทืบวันนี้ จึงขออย่าอ้างคำว่าผู้ใหญ่ที่บอกว่า ตนเองไม่เหมาะสมขาดวุฒิภาวะ การที่มาอ้างว่าตนมีคดีและไม่เหมาะสมขอให้นายวิรัชย้อนดูตัวเองด้วย ว่าในคณะอนุกรรมการงบประมาณมีทั้งภรรยาและน้องสาวภรรยา ซึ่งทุกคนต่างมีคดี นางสาวปารีณายอมรับว่าตนเองอยู่ในช่วงจิตใจไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่ลูกเมียของนายวิรัช จึงไม่มีที่ยืนและไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ตำแหน่งอะไรหรือไม่ พร้อมขออย่าเหยียบย่ำกันมากกว่านี้
ส่วนการที่ นางสาวปารีณา ออกมาให้ข่าววันนี้เป็นเพราะอยากเข้าไปเป็นอนุกรรมาธิการหรือไม่นั้น นางสาวปารีณา ระบุว่า เป็นเรื่องของสัจจะเพราะผู้ใหญ่เคยบอกไว้แล้วประมาณ5ครั้งว่า ปารีณาน่าสงสารและเมตตาให้ทำและตำแหน่งนี้ก็เป็นเพียงตำแหน่งกระจอกไม่ใหญ่โต และหลักๆก็เป็นเรื่องความรู้สึก ว่าในวันที่ตนเองล้มมีใครบ้างที่รุมกระทืบตัวเอง ส่วนประเด็นที่เจ็บใจที่สุด คือ นายวิรัชเคยพูดในที่ประชุมพรรคว่า แค่ให้ปารีณาเป็นกรรมาธิการสภาก็ ‘หยี๋’ แล้ว ซึ่งเป็นการดูถูกตัวเองทั้งที่นายวิรัชและภรรยาไม่เคยแสดงความเห็นหรืออภิปรายอะไรในที่ประชุมกรรมาธิการอย่าคิดว่าตนเองดีและดูถูกคนอื่น เพราะตนเองทุกข์ใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น