เครื่องเสียง/พิพัฒน์ คคะนาท/Sony WF-1000XM4 มาแรงตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว

เครื่องเสียง/พิพัฒน์ คคะนาท [email protected]

Sony WF-1000XM4

มาแรงตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว

 

ช่วงนี้มีชุดหูฟังแบบ In-Ear (ที่ใช้งานแบบสอดเข้าหู ซึ่งหลังๆ มักจะเรียกกันว่า Earbuds) ที่น่าจับตามองออกสู่ตลาดกันค่อนข้างหนาตานะครับ

ที่นำมาพูดคุยไปบ้างแล้วก็มีอย่าง B&W PI7 ซึ่งเป็น TWS : True Wireless Stereo กับ Sennheiser IE 900 ที่เมินเฉยหรือหันหลังให้กับกระแส ‘ไร้สาย’ แบบไม่ไยดี เที่ยวนี้ตั้งใจว่าจะชวนคุยเรื่องที่น่าสนใจและเชื่อว่าจะเป็นกระแส หรือ Trend ใหม่ของลำโพงฟังเพลงในห้อง ก็มาได้ ‘ข่าวหลุด’ ว่ากำลังจะมีชุดเอียร์บัดส์ระดับ ‘มหาเทพ’ ออกมาอีกแล้ว ก็เลยนำมาบอกกล่าวแบบเกริ่นๆ กันไว้ก่อน

เผื่อใครกำลังมองหาชุดหูฟังแบบนี้อยู่ จะได้อดใจรอสักนิดเพื่อสัมผัสของจริงแบบได้ลองกับตัวเป็นๆ เผื่อจะตัดสินใจกับอะไรได้แบบไม่ต้องมานั่งโกรธตัวเองทีหลัง

เพราะว่าอีกไม่นานก็คงเข้ามาบ้านเราแน่นอน

 

ชุดหูฟังที่ว่าก็คือที่จ่าหัวเอาไว้นั่นแหละครับ ส่วนที่บอกว่า ‘มหาเทพ’ ก็เนื่องเพราะต้นแบบตั้งแต่เจนแรก ยันพัฒนาการล่าสุด คือ Model WF-1000XM3 นั้น ล้วนได้รับการยกย่องว่าคือหนึ่งไม่เป็นสองรองใครในบรรดาชุดหูฟังประเภทเดียวกันนี้ โดยมีจุดแข็งอย่างเป็นสำคัญก็คือระบบตัดเสียงรบกวนที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะ และเป็นเอกลักษณ์ของชุดหูฟังระดับพรีเมียมของ Sony

ซึ่งก็คือระบบ ANC : Active Noise Canceling System ที่ไม่ว่าสื่อรายไหนทั้งในยุโรป อเมริกา ตลอดจนเอเชีย เมื่อใดก็ตามหากได้พูดถึง The Best ของชุดหูฟังประเภทนี้แล้วละก็ ชื่อ Sony WF-1000XM Series ไม่เคยหลุดโผเลยตั้งแต่เจนแรกโน่นแล้ว

และกับที่ว่าเป็นพัฒนาการล่าสุด ซึ่งกำลังจะออกตลาดมาในอีกไม่ช้านั้น ถึงกับมีข่าวในนิตยสารแถวหน้าของวงการอย่าง What Hi-Fi? UK ได้ออกปากเชิงตั้งเป็นคำถามถึงว่า สิ่งที่ดีที่สุดกำลังจะดียิ่งขึ้นไปกว่าในอีกไม่ช้านี้แล้วหรือไร นั่นเทียว

แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เรียกว่าเป็นเอียร์บัดส์ระดับ ‘มหาเทพ’ ได้ไงเล่า

จากรุ่นต้นแบบจนมาถึงเจนสาม ที่ยังคงเป็น Current Model อยู่ ดูเหมือนโครงสร้างภาพลักษณ์หรือหน้าตาของเอียร์บัดส์ซีรีส์นี้แทบจะไม่แตกต่างกันสักกี่มากน้อย จนบางครั้งมองเผินๆ แทบแยกไม่ออกด้วยซ้ำ ว่าเจนไหนเป็นเจนไหน กระทั่งมาเห็นรูป ‘หลุด’ ของเจนสี่ ที่กำลังจะเป็นพัฒนาการล่าสุดออกมานี่ละ ที่ผิดหูผิดตาไปจากรุ่นพี่ๆ อย่างสิ้นเชิง

เพราะจากแต่เดิมที่มีลักษณะโค้งมนแบบแคปซูลอ้วนๆ รุ่นใหม่นี้เมื่อสอดใส่เข้าในหูแล้ว โครงสร้างด้านนอกที่เห็นจะมีลักษณะกลม แบน เหมือนเม็ดกระดุม ดังที่เห็นภาพนางแบบสวมใส่อยู่นั่นแหละครับ แต่ยังมีสีสันให้เลือกสองสีเหมือนเดิม คือ สีดำกับสีเทานวล ที่ต่างก็โดดเด่นด้วยการขลิบทองบริเวณบางส่วนของพื้นผิว

ทำให้แลดูเรียบหรูทรงคุณค่าเหมือนรุ่นที่ผ่านๆ มา

 

ข่าวหลุดที่ว่า Sony WF-1000XM4 จะออกตลาดมาในอีกไม่ช้าไม่นาน (ไม่แน่ว่าเมื่อบทความนี้ตีพิมพ์ อาจจะมีวางขายแล้วก็ได้ เพราะในข่าวประเมินกันว่าน่าจะออกตลาดได้ช่วงสัปดาห์แรกๆ ของเดือนนี้นี่ละ) นั้น ก็เนื่องเพราะเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีข่าวออกมาว่าผลิตภัณฑ์ของ Sony ภายใต้รหัส YY2948 ซึ่งเชื่อกันว่าก็คือ Model WF-1000XM4 นี่ละ ได้ผ่านการรับรองของกลุ่มดูแลผลประโยชน์พิเศษอันเนื่องมาจากการใช้งานเทคโนโลยีบลูทูธ หรือ Bluetooth SIG : Special Interest Group

รวมทั้งยังได้ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร หรือ FCC : Federal Communications Commission ของสหรัฐอเมริกา เรียบร้อยแล้วด้วย

ซึ่งในวงการทราบกันดี ว่านั้นเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็จะมีการเปิดตัว แล้วนำไปสู่การทำตลาดในที่สุดนั่นเอง

มาดูกันครับ ว่าสเป๊ก (เท่าที่หลุดออกมา) แบบคร่าวๆ ของ Sony WF-1000XM4 เป็นอย่างไร และมีอะไรที่พอจะบ่งชี้ได้ว่าเหนือกว่ารุ่นปัจจุบันที่ใครต่อใครก็บอกว่ายอดเยี่ยมนักหนาแล้วบ้าง

 

สิ่งแรกเลยเห็นจะเป็นการนำเทคโนโลยีที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของตนเอง คือ LDAC มาใช้ในการทำงานแบบไร้สายร่วมกับบลูทูธครับ เพราะให้การทำงานที่เหนือกว่า aptX HD ที่นิยมใช้กันในผลิตภัณฑ์บลูทูธรุ่นใหม่ๆ เนื่องเพราะ aptX HD นั้น Bit-Rate สูงสุดอยู่ที่ 576kps ขณะที่เทคโนโลยี LDAC ซึ่ง Sony พัฒนามาเพื่อใช้กับบลูทูธโดยเฉพาะนั้น มันสามารถทำงานได้เร็วถึงระดับ 990kps คือสูงกว่าเกือบเท่าตัว ทำให้การทำงานร่วมกับไฟล์เสียงความละเอียดสูงแบบ Hi-Resolution Audio นั้น จะให้คุณภาพเสียงออกมาได้ดีกว่าเดิม

โดยเทคโนโลยี LDAC นี้ ที่ไม่ได้ใส่เอาไว้ในเอียร์บัดส์รุ่นก่อนนั้น วิศวกรผู้ออกแบบให้ความเห็นว่าเนื่องเพราะมันใช้พลังงานมากเกินไป แต่ก็ได้มีใช้หรือใส่เอาไว้ในชุดหูฟังแบบครอบหู Model WH-1000XM4 ที่ออกตลาดมาพร้อมๆ กับเอียร์บัดส์ Model WF-1000XM3 เมื่อสามปีที่แล้ว

และเมื่อพูดถึงการใช้พลังงานแล้ว แบตเตอรี่ที่ใช้ในรุ่นใหม่จะมีความจุมากกว่า สามารถใช้งานติดต่อกันได้นานกว่า เพราะเป็นแบบ 5V/140mA (รุ่นก่อนใช้แบบ 5V/120mA) ทำให้รุ่นใหม่สามารถใช้งานขณะเปิดระบบ ANC ได้นานถึง 8 ชั่วโมง มากกว่ารุ่นก่อนสองชั่วโมง และหากใช้งานโดยไม่เปิดระบบตัดเสียงรบกวน ก็จะใช้งานได้นาน 12 ชั่วโมง ทำให้เมื่อประจุไฟผ่านกล่องบรรจุ (ที่เรียกกันว่า Battery Case) สองรอบ ก็จะใช้งานได้นานสูงสุดถึง 24 ชั่วโมง และ 36 ชั่วโมง ตามลำดับ

โดยตัวแบตเตอรี่เคสนี้รองรับการประจุไฟแบบไร้สายตามมาตรฐาน Qi จึงสามารถจ่ายพลังงานให้กับอุปกรณ์อื่นที่รองรับมาตรฐานนี้ได้ด้วย อาทิ สมาร์ตโฟน Xperia รุ่นใหม่ๆ ของ Sony เอง

 

คุณสมบัติทางเทคนิคนอกจากใส่ LDAC เข้ามาแล้ว เอียร์บัดส์รุ่นใหม่นี้ยังใช้ชุดประมวลผลในการตัดเสียงตัวใหม่ด้วย คือ Integrated V1 Processor ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนได้ดีกว่าเดิม อีกทั้งยังใช้ชุดตัวขับเสียงแบบใหม่ และใช้ระบบ Up-Scale เสียงตัวใหม่ที่เป็นแบบ DSEE Extreme ด้วย ทางด้านระบบอัจฉริยะในส่วนของ Smart Control นั้น ยังได้ปรับรูปแบบการตัดเสียงรบกวน และการดึงเสียงภายนอกเข้ามาร่วม พร้อม Speak-to-Chat ที่คล้ายกับรุ่นเดิม (ที่จะหยุดเล่นเพลงเองโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการสนทนากับบุคคลรายรอบเกิดขึ้น) แต่ได้ปรับปรุงชุดไมโครโฟนให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังกำหนดจุดติดตั้งไมค์ตัวนอกที่มีความเหมาะสมกับการใช้งานมากยิ่งขึ้น ทำให้ฟังก์ชั่นต่างๆ ในระบบนี้จะมีคุณภาพดีขึ้นกว่าเดิมด้วย

อีกคุณสมบัติเด่นที่ไม่มีในเอียร์บัดส์รุ่นก่อนก็คือ Model WF-1000XM4 รองรับมาตรฐาน IPX4 ที่ว่ากันน้ำ กันความชื้น และกันฝุ่นละอองได้ดี จึงสามารถใช้สวมใส่ออกกำลังกายได้ ล้างคราบเหงื่อไคลด้วยน้ำได้ แต่ไม่สามารถนำไปแช่ล้าง หรือจะใส่ลงสระว่ายน้ำก็ไม่ควรเหมือนกันนะครับ

สำหรับราคาที่หลุดออกมานั้น เห็นบอกว่าจะอยู่ที่ 279.90 ยูโร หรือประมาณ US$397.- ซึ่งดูจะสูงกว่าตอนเปิดตัวรุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย

หมายเหตุ : เขียนต้นฉบับชิ้นนี้เสร็จวันสองวัน ก็ได้เปิดตัวออนไลน์ไปพร้อมกันทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ก่อน ในงาน Truly Silent. Tailored 4 You เรียบร้อยแล้วล่ะครับ ด้วยคุณสมบัติส่วนใหญ่ก็เป็นไปดังที่กล่าวข้างต้น