สงครามไซเบอร์ของจีน : 1) ยุทธศาสตร์ยุทธวิธี/การเมืองวัฒนธรรม เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ

การเมืองวัฒนธรรม

เกษียร เตชะพีระ

 

สงครามไซเบอร์ของจีน

: 1) ยุทธศาสตร์ยุทธวิธี

 

ปีที่แล้วด้วยความใฝ่ใจใคร่ติดตามข่าวสารข้อมูลจีนท่ามกลางโควิด-19 เริ่มระบาด ผมบอกรับ follow เฟซบุ๊กพากย์ไทยของสำนักข่าวทางการจีนแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นทุกๆ เช้าจะมีข่าวโฆษณาทางการจีนของสำนักข่าวดังกล่าวทะลักเข้ามาเด่นหราเต็มฟีดหน้าเฟซบุ๊กของผม

พอนานๆ เข้าและมากๆ เข้า มันก็ชักอิ่มจุก รกตาและอดรู้สึกรำคาญไม่ได้…คือสนใจน่ะสนใจอยู่นะครับ แต่ไม่ถึงขนาดนั้น

ผมจึงลองแปรความรำคาญเป็นอยากรู้และค้นคว้าสืบสาวที่มาเบื้องหน้าเบื้องหลังของเรื่องนี้ดู

ก็พบข้อมูลน่าสนใจบางอย่างอยากมาเล่าต่อครับ

 

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2013 สีจิ้นผิง เลขาธิการแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้กล่าวปราศรัยครั้งสำคัญต่อที่ประชุมงานโฆษณาและอุดมการณ์แห่งชาติ ณ กรุงปักกิ่ง เพื่อชี้นำแนวทางการทำงานโฆษณาชวนเชื่อและปลูกฝังอุดมการณ์ของรัฐ-พรรค (party-state) จีนใต้การนำของเขา

ในหัวเรื่องที่ 4 จากทั้งหมด 7 หัวเรื่องของคำปราศรัยชื่อ “เกี่ยวกับงานโฆษณาทางบวกและการต่อสู้ช่วงชิงมติมหาชน”

สีได้สาธยายยุทธศาสตร์ยุทธวิธีสงครามไซเบอร์ในสมรภูมิโซเชียลมีเดีย ทั้งเชิงรับและรุก ต่อในประเทศและต่างประเทศออกมาอย่างน่าสนใจบางตอนว่า

(ข้อมูลจากเว็บไซต์ China Copyright and Media – The law and policy of media in China ซึ่งมี Rogier Creemers เป็นบรรณาธิการ https://chinacopyrightandmedia.wordpress.com) :

สีจิ้นผิง ผู้นำจีนกล่าวปราศรัยหลักต่อที่ประชุมอินเตอร์เน็ตโลกครั้งที่สองซึ่งจีนเป็นโต้โผเมื่อปี 2015

“อินเตอร์เน็ตได้กลายเป็นสมรภูมิหลักในการต่อสู้ช่วงชิงมติมหาชน สหายบางคนกล่าวว่า อินเตอร์เน็ตเป็น ‘ตัวแปรใหญ่สุด’ ที่เราเผชิญ และถ้าเราพลาดพลั้งเรื่องนี้ มันจะกลายเป็นปมวิตกกังวลในความคิดจิตใจเรา

“พลังตะวันตกที่ต่อต้านจีนยังคงพยายามใช้อินเตอร์เน็ตมา ‘โค่นจีน’ อย่างคว้าน้ำเหลว หลายปีก่อนรัฐบาลตะวันตกบางประเทศแถลงว่า ‘ในเมื่อมีอินเตอร์เน็ต ก็มีทางจัดการจีนได้’, ‘บรรดาประเทศสังคมนิยมล้วนแผ่ซ่านไปด้วยความทะเยอทะยานแบบตะวันตกซึ่งก็เริ่มต้นจากอินเตอร์เน็ตนี่แหละ’

“เมื่อดูจากแผนงานข่าวกรองของสหรัฐอเมริกาอย่าง ‘Prism’ กับ ‘XKeyscore’ และแผนงานอื่นๆ แล้ว ก็เห็นได้ว่ากิจกรรม สมรรถภาพและขอบข่ายอินเตอร์เน็ตของสหรัฐล้นเกินจินตนาการของชาวโลกไปไกลโข ในสมรภูมิอินเตอร์เน็ตนี้ ปัญหาว่าเราจะยืนหยัดและได้ชัยชนะหรือไม่สัมพันธ์โดยตรงกับความมั่นคงทางอุดมการณ์และความมั่นคงแห่งระบอบปกครองของประเทศเรา

“ในทรรศนะของผม โดยอนุโลมตามความเรียกร้องต้องการและการคลี่คลายขยายตัวของสภาพการณ์ เราต้องทำให้งานมติมหาชนออนไลน์เป็นงานหนักที่สุดในบรรดางานหนักทั้งหลายของงานโฆษณาและอุดมการณ์

“งานโฆษณาและอุดมการณ์ก็คือการทำงานกับประชาชน จึงพึงต้องเพ่งเล็งรวมศูนย์ไปยังที่ที่ประชาชนอยู่ ประเทศเรามีพลเมืองเน็ตเกือบ 600 ล้านคน เป็นพลเมืองเน็ตเคลื่อนที่ 460 ล้าน ในจำนวนนี้ 300 ล้านคนมีบัญชีเหว่ยโป๋ว (http://www.weipo.com/ คือเฟซบุ๊กของจีน) คนมากหลาย และโดยเฉพาะคนหนุ่ม-สาวไม่ดูสื่อกระแสหลักโดยพื้นฐาน หากได้รับข่าวสารส่วนใหญ่ทางออนไลน์

“เราต้องเผชิญหน้ากับความจริงนี้ตรงๆ ขยายความเข้มแข็งและข้อมูลป้อนเข้าให้มากขึ้น ยึดกุมฐานะเป็นฝ่ายกระทำในสมรภูมิมติมหาชนนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่เร็วได้ เรามิอาจปล่อยให้ตัวเองถูกผลัก รุนไปอยู่ชายขอบ เราต้องแก้ไขปัญหา ‘ตื่นกลัวทักษะใหม่’ ให้ดีและปรับตัวให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ และมือเก่าในการใช้สื่อสมัยใหม่ ปัจจัยใหม่และวิธีการใหม่ เราต้องเปิดฉากต่อสู้ช่วงชิงมติมหาชนออนไลน์อย่างเจาะลึก ป้องกันและยับยั้งการโจมตีและแทรกซึมออนไลน์อย่างแน่นหนา รวมทั้งจัดตั้งกองกำลังเพื่อล้มล้างอุดมการณ์และมุมมองที่ผิดพลาด

“เราต้องเสริมความเข้มแข็งการจัดการทางสังคมออนไลน์ตามกฎหมาย สร้างความแข็งแกร่งให้แก่การจัดการเทคโนโลยีเครือข่ายและแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ประกันให้อินเตอร์เน็ตอยู่ในภาวะจัดการได้ และควบคุมได้ และประกันให้พื้นที่ไซเบอร์ของเราแจ่มชัดและเฉียบคม

“การทำงานที่ว่ามานี้ไม่ง่าย แต่ไม่ว่ายากลำบากเพียงใด ก็ต้องทำให้จงได้ ใต้ฟ้าไม่มีเรื่องยากลำบาก กลัวก็แต่คนที่มุ่งมั่น เราต้องไม่กลัวว่าคนอื่นจะว่าอย่างไร วาทกรรมออนไลน์ที่เป็นเชิงลบน้อยลงหน่อยมีแต่จะเป็นคุณต่อการพัฒนาประเทศและสังคมของเรา เสถียรภาพทางสังคม และการดำรงชีพ และทำงานอย่างสันติสุขของประชาชน หาได้เป็นผลเสียไม่ หากจะให้ยืมคำพังเพยของชาวนาตั้งแต่สมัยผมอยู่ในกองการผลิตชนบทแล้ว ก็ต้องบอกว่าเรามิพักต้องไปฟังเสียงกุ้งหอยปูปลาแล้วมามัวหวั่นกลัวว่าเราจะไถนาไม่ได้”

 

“สหายเราต้องเสริมสร้างจิตสำนึกแห่งสมรภูมิของตนให้เด็ดขาดสัมบูรณ์ ถ้าหากเราไม่รุกเข้ายึดครองสมรภูมิโฆษณาและอุดมการณ์แล้ว คนอื่นก็จะยึดครองมันแทน ในทรรศนะของผมนั้น มีเขตอยู่สามเขตด้วยกันในพื้นที่อุดมการณ์และมติมหาชน

“เขตแรกคือเขตแดง ซึ่งด้านหลักแล้วประกอบด้วยสื่อกระแสหลักและกำลังออนไลน์เชิงบวก นี่คือสมรภูมิหลักของเรา เราต้องรักษามันไว้อย่างเด็ดขาด และแน่นอนว่ามิอาจสูญเสียมันไปได้

“เขตที่สองคือเขตดำ ซึ่งด้านหลักแล้วประกอบด้วยชุดวาทกรรมเชิงลบออนไลน์และในสังคม รวมทั้งมติมหาชนทุกประเภทที่ปั้นแต่งขึ้นโดยพลังฝ่ายตรงข้าม นี่ไม่ใช่กระแสหลัก แต่ต้องไม่ประเมินอิทธิพลของมันต่ำไป

“เขตที่สามคือเขตเทา ซึ่งอยู่ระหว่างเขตแดงกับเขตดำ

“เราต้องใช้ยุทธศาสตร์ต่างกันสำหรับเขตที่ต่างกัน เราต้องเสริมสร้างความมั่นคงและขยายเขตแดงออกไปเพื่อให้อิทธิพลทางสังคมของมันแผ่กว้างออกไปไม่หยุดยั้ง

“เราต้องกล้าบุกเข้าเขตดำ ขุดคว้านลึกลงไปในท้องไส้ของเจ้าหญิงพัดเหล็ก (หมายถึงปีศาจร้าย ในนิยายเรื่องไซอิ๋วของจีน) เพื่อสู้กับมันและผลักดันให้มันค่อยๆ เปลี่ยนสีไปตามลำดับ

“ส่วนในเขตเทา เราต้องเปิดฉากทำงานขนานใหญ่เพื่อเร่งเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเขตแดงและป้องกันไม่ให้มันเสื่อมถอยกลายเป็นเขตดำ

“งานที่ว่ามานี้ต้องยึดกุมให้มั่นและยืนหยัดทำอย่างต่อเนื่อง แล้วก็จะบรรลุผลสำเร็จได้อย่างแน่นอน”

 

“การต่อสู้ออนไลน์เป็นรูปแบบการต่อสู้ช่วงชิงมติมหาชนรูปแบบใหม่ชนิดหนึ่ง เราต้องค้นคว้าวิจัยยุทธศาสตร์ยุทธวิธีของมันให้ดี คนอื่นทำสงครามเคลื่อนกำลังโจมตีและยุทธการเคลื่อนที่กันแล้ว เราเองก็ต้องไม่มัวทำแต่สงครามตามแบบแผนหรือสงครามในสมรภูมิเท่านั้น เรายังต้องยืดหยุ่นพลิกแพลงด้วย ไม่ว่าคนอื่นตีเราทางไหน เราจะต้องตีตอบแบบมาไม้ไหนไปไม้นั้น และเอาชนะมันด้วยการเคลื่อนทัพแบบที่มันคิดไม่ถึง เราจะปล่อยให้คนอื่นมาจูงจมูกเราไม่ได้ เราจะกีดขวางยุทธศาสตร์ใหญ่โดยภาพรวมเนื่องจากความแข็งทื่อตายตัวทางยุทธวิธีก็มิได้เช่นกัน

“นี่ย่อมหมายความว่า ‘ต่อให้เราถูก บางทีเราก็จะไม่ใช้ความถูกต้องนี้ และต่อให้เราผิด บางทีเราก็จำต้องเดินหน้าไป’ เราต้องวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะและกฎเกณฑ์ของการต่อสู้ออนไลน์อย่างลึกซึ้งและจัดตั้งกองกำลังต่อสู้ออนไลน์อย่างละเอียดถี่ถ้วน สำหรับพวกผู้นำความเห็นออนไลน์นั้น เราต้องสร้างเสริมการให้การศึกษาและชี้นำให้แข็งแกร่ง ต้องกระตุ้นหนุนเสริมผู้นำความเห็นที่ดีและเหนี่ยวรั้งยับยั้งผู้นำความเห็นที่เลว เราจะปล่อยให้สิ่งต่างๆ ไหลเลื่อนเสื่อมทรุดลงไม่ได้

“กล่าวโดยสรุปคือ เรามีองค์การจัดตั้งของพรรคและรัฐบาลในระดับสูง-ต่ำล้นเหลือเฟือฟาย เรามีรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานและองค์การประชาชนที่แบกรับงานการหลายหลากมากมาย เรามีสมาชิกพรรคกว่า 85 ล้านคน และสมาชิกสันนิบาตเยาวชนกว่า 89 ล้านคน ตราบที่เราจัดตั้งพวกเขาได้ดี เราย่อมจะสามารถชิงเป็นฝ่ายเหนือกว่าได้เด็ดขาดแน่นอน เราจะต้องสถาปนาขบวนแถวกองทัพออนไลน์อันเข้มแข็งเพื่อประกันว่าหากแม้นเราเผชิญพวกปีศาจเข้า เราจะครอบครองความถูกต้องเป็นธรรมสูงกว่า”

(อ่านการแปรยุทธศาสตร์ยุทธวิธีสงครามไซเบอร์ของจีนเป็นยุทธการรูปธรรมในสัปดาห์หน้า)