สาวมีประวัติแพ้ยา รีวิวฉีด แอสตร้าเซนเนก้า เข็มแรก แพ้รุนแรงหามขึ้นรถฉุกเฉิน

สาวมีประวัติแพ้ยา รีวิวฉีด แอสตร้าเซนเนก้า เข็มแรก แพ้รุนแรงหามขึ้นรถฉุกเฉิน

เป็นโพสต์ที่ได้รับการแชร์บนโลกออนไลน์ หลังจากประเทศไทยเริ่มดีเดย์ ฉีดวัคซีนพร้อมกันทั่วประเทศ โดยผู้สูงอายุ และ ผู้มีโรคประจำตัว จะได้รับ แอสตร้าเซนเนก้า (Astrazeneca-AZ) รวมทั้งกลุ่มทั่วไป ในกทม. ก็จะได้รับแอสตร้าเซนเนก้า ในการฉีดรอบนี้ ด้วย

โดยสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้รีวิวการฉีดวัคซีน AZ เข็มที่ 1 ซึ่งตนเองนั้นเป็นกลุ่มมีประวัติแพ้ยา จึงได้บอกวิธีการเตรียมพร้อมของตนเอง พร้อมอาการที่เกิดขึ้นหลังจากการฉีดวัคซีน ที่คนแพ้ยาอาจจะต้องเจอ รวมทั้งคนอื่นจะได้เตรียมพร้อมรับมือได้

โพสต์ระบุว่า “รีวิวการฉีด Astrazenca เข็มที่ 1 #แพ้จ้า #drugallergy ฉีด 1 เข็มได้แถมอีก 6 เข็ม!!!! ฉีดตอน 11.20 ลงทะเบียนผ่านเป๋าตัง ฉีดที่ True digital park หลังฉีดให้นั่งรอดูอาการ 30 นาที ก่อนฉีด ได้ยื่นใบแพ้ยาให้พยาบาลก่อน (ปล.จีแพ้ยาเก่ง เลยมีใบแพ้ยาจาก รพ.ที่มีประวัติ) ยื่นไปถามเภสัช ที่ศูนย์ฉีดนี้คุณหมอและพยาบาล บุคลากรมาจากศิริราชค่ะ เขาก็ดูให้และบอกฉีดได้ ก็ฉีด แล้วมานั่งพัก ตรงที่ใกล้หมอฉุกเฉินเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง

1.ผ่านไป 10 นาทีแรก อาการแรกคือ “แน่นหน้าอก”
2.ผ่านไปอีกประมาณ 10 นาที อาการที่สองคือ “อาเจียน”
3.ผ่านไปอีก 30 นาที อาการที่สามคือ “ไม่มีแรง แขนขาสั่น อ่อนเพลีย ความดันเริ่มตก” หมอรีบเช็คเบื้องต้นยังต้านมือคุณหมอได้ แต่ไม่100% และตัวสั่น คุณหมอเลย

– ฉีดอะดินารีน เข้าที่ขา ปวดมากกกกก (เข็มที่1)
– ฉีดยาแก้แพ้ (เข็มที่2)
– ฉีดยาแก้อาเจียน (เข็มที่3)
– ฉีดอะไรสักอย่าง (เข็มที่4)

และส่งขึ้น ambulance พยาบาลตบแขนตลอดไม่ให้หลับและ 4. อาการที่สี่ ลิ้นชาและเริ่มไม่มีสติ ไปถึงเข้าห้องฉุกเฉิน โดยเจาะเลือดตรวจ (เข็มที่5) ตรวจโควิด เช็คชีพจร เช็คคลื่นหัวใจ และเอ็กซเรยปอด มาครบ – – และให้น้ำเกลือ (เข็มที่6)

5.ประมาณ 5 ชม หลังฉีด ผดขึ้นคัน แต่ไม่มาก และไข้ขึ้นไปที่ 38 ความดันยังปกติ
6.อาการตอนกลางคืน มีปวดร้าวแขนข้างที่ฉีดร้าวถึงกราม คาง และปวดแขนมากขึ้นค่ะ

สรุป: หมอลงความเห็นว่า “แพ้วัคซีนค่อนข้างรุนแรง” ค่ะเพราะผลตรวจทุกอย่างปกติ ดีด้วยไขมัน ผลเลือดบลาๆ ตอนนี้รักษาตามอาการค่ะ และให้ฉีดเข็ม 2 เป็นโมเดอร์น่า และไฟเซอรเท่านั้น มีสติเลยอยากมาเขียนรีวิว

การเบิก: เขาให้เบิกตามประกันที่คนไข้มีและที่เหลือเบิกรัฐบาลค่ะ รพ.จะดำเนินการให้ค่ะ (ยังไม่ชัวร์ว่าได้100%ไหม ตอนออกจากรพ.จะมาอัพเดทอีกที่ค่ะ)

ข้อแนะนำ:
1.ให้บอกพนักงานตรงวัดความดันว่าเราแพ้อะไร กินยาอะไรอยู่ มีโรคประจำตัวอะไร ให้เขาจดและจะได้สติกเกอร์พิเศษแปะว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงค่ะ ทางที่ดีไปคัดประวัติมาเลยค่ะ สำหรับผู้สูงวัยคุณพ่อแม่ หรือตัวเองที่เคยเข้ารพด้วยโรคไม่ปกติ
2.ถ้าเป็นคนแพ้ยาอะไรก็แล้วแต่ ให้ไปขอให้แพ้ยาจากรพ.ที่มีประวัติติดตัวตลอดค่ะ ขอได้ฟรี เพื่อเป็นข้อมูลค่ะ
3.ไม่มั่นใจอาการให้รีบบอกพยาบาล อย่าเกรงใจ อย่าแพนิค ถ้าเป็นอาการที่ใกล้เคียงกับเวลาที่ตัวเองแพ้อะไรสักอย่าง ให้รีบแจ้งค่ะ
4.ถือน้ำจิบตลอดไม่ต้องกังวลค่ะ อาการแพ้ไม่ได้เกิดทุกคนแล้วแต่คนจริงๆ ค่ะ ส่วนใหญ่ที่เห็นจะเป็นอาการข้างเคียงขอคนที่มีโรคประจำตัวค่ะ คุณหมอที่สนามจะให้คำแนะนำค่ะ
5.ใครที่มีโรคประจำตัวหรือกังวลมากๆ แนะนำให้เลือกสถานที่ฉีดเป็นรพ.ค่ะ เพราะถ้าเกิดอะไรเครื่องมือครบกว่าค่ะ
สุดท้ายนี้ไม่ได้เขียนรีวิวเพื่อไม่ให้ทุกคนไม่ฉีด หรือฉีดนะคะ แล้วแต่วิจารณญาณและร่างกายของแต่ละคนค่ะ
อนุญาตให้แชร์เป็นประสบการณ์ได้ค่ะ ตอนนี้มีสติแล้วค่ะ ผ่านวิกฤตมาแล้ว ยังแน่นหน้าอกแต่ลดลง นอนรพ.รักษาอาการต่อไปค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความเป็นห่วงนะคะ