ก่อสร้างที่ดิน / นาย ต. /รับเหมาก่อสร้างไม่พ้นโควิดระลอก 3

ก่อสร้างที่ดิน/นาย ต.

รับเหมาก่อสร้างไม่พ้นโควิดระลอก 3

 

ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดในไทยเริ่มตั้งแต่ปลายกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว 2563 นับเป็นระลอกแรก ถึงกลางธันวาคม 2563 ก็เกิดระลอกที่ 2 จนถึงเดือนมีนาคม 2564 ก่อนเกิดระลอกที่ 3

โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บ้าน-คอนโดฯ ได้รับผลกระทบทางด้านการตลาดไปเต็มๆ ผู้บริโภคตกใจชะลอการซื้อ ถูกล็อกดาวน์ไปไหนมาไหนไม่ได้ บริษัทอสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโดฯ ต้องจัดโปรโมชั่นกันสุดฤทธิ์สุดเดช

แต่มีอยู่ส่วนหนึ่งของอสังหาฯ ที่ไม่ได้รับผลกระทบเลยในระลอกแรกและระลอกที่ 2 คืองานรับเหมาก่อสร้างของบริษัทผู้รับเหมา

ทั้งระลอก 1 และ 2 ตามไซต์งานต่างๆ ทั้งโครงการแนวราบและโครงการแนวสูงยังคงทำงานกันเป็นปกติ แม้จะมีอยู่ช่วงหนึ่งมีข่าวไซต์งานก่อสร้างที่ประเทศสิงคโปร์มีการแพร่ระบาดไวรัส ทำให้ต้องลุ้นกันว่าของเราในไทยจะโดนด้วยไหม แต่ในที่สุดก็รอดมาได้ไม่มีปัญหา

ทำให้ระยะต่อมาเมื่อยกเลิกล็อกดาวน์ ผู้ซื้อออกมาจองซื้อที่อยู่อาศัยกันจำนวนมาก บริษัทอสังหาฯ ก็สามารถส่งมอบและโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าไปเป็นปกติ เพราะงานก่อสร้างไม่ติดขัด

หรือแม้แต่ผลประกอบการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไตรมาสแรกของปี 2564 มียอดขาย มีกำไรดีกันเป็นส่วนใหญ่ นอกจากเพราะขายได้แล้ว ส่วนหนึ่งก็เพราะงานรับเหมาก่อสร้างปลายปีที่แล้วยังราบรื่นนั่นเอง

แต่พอมาระลอก 3 ไม่รอด ผู้รับเหมาก่อสร้างก็โดนด้วยเต็มๆ

 

“แคมป์คนงานก่อสร้าง” มาเป็นข่าวคลัสเตอร์โควิด-19 ที่ได้รับความสนใจต่อจากคลัสเตอร์ชุมชนแออัดกันเลยทีเดียวและยังมีข่าวการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย ที่ร้ายแรงน่ากลัวอยู่ในแคมป์คนงานย่านหลักสี่อีกด้วย แคมป์คนงานก่อสร้างก็ยิ่งถูกจับตามากขึ้นไปอีก

แบบนี้เรียกว่า “งานเข้า” ละ ก็ต้องแก้ปัญหากันไป ทั้งแบบไซต์งานก่อสร้างและแคมป์คนงานอยู่ติดกัน ทั้งแบบไซต์งานอยู่ที่หนึ่งและแคมป์คนงานอยู่อีกแห่งหนึ่ง ต้องขนส่งคนงานเช้า-เย็น ยุ่งยากขึ้นมากกว่าเดิมแน่นอน

ประเทศอื่นๆ ระลอกแรกเขาตั้งตัวไม่ทัน มีผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงเป็นหลักหมื่นหลักแสน ต่อมาเขาตั้งหลักได้คุมอยู่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง เป็นหลักพันหลักร้อย และหลักสิบ

แต่ไทยเราระลอกแรก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันเฉลี่ยที่หลักสิบ ระลอก 2 เฉลี่ยที่หลักร้อย แต่ถึงระลอก 3 ตัวเลขติดเชื้อใหม่เฉลี่ย 2-3 พันต่อวัน อัตราเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่แทนที่จะลดลงจากประสบการณ์และการเรียนรู้ที่มากขึ้น แต่ของเรากลับเพิ่มขึ้นสวนทางกับบ้านเมืองอื่นเขา

เหตุก็เพราะที่อื่นเขาเรียนรู้และบริหารจัดการแบบพัฒนาไปข้างหน้า ส่วนของเราอยู่ในกระบวนการถอยหลัง

 

7ปีมานี้ระบบการบริหารบ้านเมืองจะถอยกันได้ไกลกว่า 40 ปี กลับไปอยู่ก่อน 14 ตุลาคม 2516 โน่น

สมัยที่คนจนในกรุงเทพฯ ต้องเข้าคิวซื้อข้าวสารทั้งที่เป็นประเทศส่งออกข้าว

มาสมัยนี้คนไทยต้องมาเข้าคิวฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งที่มีเงินซื้อและมีคนขายมากมายหลายเจ้า

ไม่น่าเชื่อ