อย่ากลัววัคซีน ร่วมใจฉีดวัคซีนเพื่อชาติ-เพื่อโลก/บทความพิเศษ มงคล วัชรางค์กุล

บทความพิเศษ

มงคล วัชรางค์กุล

 

อย่ากลัววัคซีน

ร่วมใจฉีดวัคซีนเพื่อชาติ/เพื่อโลก

 

ถามคนคุ้นเคยบางคนในเมืองไทยว่า

“จะได้ฉีดวัคซีนเมื่อไหร่”

ได้รับคำตอบที่น่าตกใจว่า

“ยังไม่ได้ลงทะเบียน”

“ยังไม่ตัดสินใจว่าจะฉีดวัคซีนหรือไม่”

“กลัวผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีนที่อาจถึงตาย”

เหล่านี้ล้วนเป็นคำตอบที่ทำให้ต้องมาใคร่ครวญว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นกับโปรแกรมฉีดวัคซีนในเมืองไทย

ทำไมผู้คนบางส่วนซึ่งอาจจะมากเกินครึ่ง ถึงรู้สึกต่อต้านการฉีดวัคซีน

 

ย้อนกลับไปช่วงปลายปี 2563 จนถึงช่วงต้นปี 2564 ซึ่งขณะนั้นรัฐบาลยังไม่มีความกระตือรือร้นในการจัดหาวัคซีนมากนัก ไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การจัดหาวัคซีนของโลก คือองค์การ COVAX เพราะเข้าใจเอาเองว่าเมืองไทยป้องกันโควิดได้ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องรีบด่วนจัดเตรียมวัคซีน

รอวัคซีนที่จะผลิตได้เองในเมืองไทยเดือนมิถุนายน 2564 ก็ทันการ

ในขณะเดียวกัน ในห้วงเวลานั้น เมืองไทยก็มีการประโคมข่าวผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้นในอเมริกาและทั่วโลก เพื่อกลบเกลื่อนการจัดหาวัคซีนที่ไม่ประสบผลสำเร็จ เป็นการเบี่ยงเบนประเด็นให้คนไม่สนใจเรื่องการฉีดวัคซีนมากนัก

รวมทั้งสร้างความหวาดกลัวการฉีดวัคซีนให้เกิดขึ้นในหมู่ชน

กล่าวโดยรวม การค้นคว้าผลิตวัคซีนโควิดในโลก ล้วนดำเนินไปอย่างเร่งด่วน มีการทดลองในระดับหนึ่ง และ FDA ของประเทศที่ผลิตหรือประเทศที่ฉีดวัคซีนต่างให้การรับรองแบบฉุกเฉินเท่านั้น

ดังนั้น เมื่อมีการฉีดวัคซีนจึงอาจมีผลข้างเคียงในระดับต่างๆ เกิดขึ้นได้บ้าง แต่เมื่อเทียบเคสที่เกิดขึ้นกับจำนวนล้านล้านโดสที่ฉีดไป ถือว่าป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ยอมรับได้

CDC และ FDA ของอเมริกาต่างรายงานผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีนตามความเป็นจริง ไม่มีการปิดบัง ไม่ต้องการให้คนหวาดระแวงการฉีดวัคซีน

สำหรับคนที่ต่อต้านการฉีดวัคซีน เห็นในข่าวทีวี มีการเดินชูป้ายไปตามรถที่เข้าคิวรอฉีด โน้มน้าวให้ยกเลิกการฉีดวัคซีน

สถิติในอเมริกาบอกว่า อัตราการเสียชีวิตเนื่องจากหัวใจหยุดเต้นเพราะเส้นเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน (Heart Attack) เกิดขึ้นทุก 36 วินาที

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ในอเมริกามีคนตายจากเส้นเลือดหัวใจอุดตันวันละ 2,400 คน ถ้าบังเอิญคนเหล่านั้นเข้ามาฉีดวัคซีนแล้วเกิดตายจากเส้นเลือดหัวใจอุดตัน แต่ไม่มีการผ่าศพพิสูจน์ ก็จะถูกนับเป็นการตายจากการฉีดวัคซีน

ในขณะเดียวกัน ก็มีคนที่พร้อมจะตายจากโรคภัยอื่นๆ เข้ามาฉีดวัคซีนแล้วเกิดตายขึ้น ก็จะถูกนับเป็นการตายจากวัคซีนไปด้วย

ความหมายที่จะอธิบายคือ การฉีดวัคซีนไม่ได้ป้องกันความตายจากโรคภัยอื่นที่กำลังเกิดขึ้น ณ ขณะนั้น

แต่กลับทำให้ตัวเลขคนตายจากการฉีดวัคซีนเพิ่มสูงขึ้นด้วย

 

ในอเมริกา CDC ใช้สถิติจาก VAERS (Vaccine Adverse Event Reporting System) รายงานผลการเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งอาจเกิดจากการฉีดวัคซีนโดยตรง หรือจากสาเหตุอื่น โดยไม่มีการแยกสาเหตุ

ทีวี Fox News รายการของ Tucker Carlson Tonight ที่มีชื่อเสียงมาก รายงานเมื่อ 5 พฤษภาคม 2564 อ้างแหล่งข่าวจาก VAERS ว่า ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2563 จนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2564 มีคนฉีดวัคซีนแล้วตายไป 3,362 คน หรือเฉลี่ยตายวันละ 30 คน

ในขณะที่ CDC รายงานว่า อเมริกาฉีดวัคซีน 245 ล้านโดส ระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ถึง 3 พฤษภาคม 2564 ในจำนวนนี้ VAERS ได้รับรายงานว่ามีคนเสียชีวิตเพราะการฉีดวัคซีน 4,178 คน เท่ากับ 0.0017 %

จำนวนคนตายเทียบกับจำนวนคนฉีดวัคซีนแล้วเป็นตัวเลขกระจ้อยเดียว

ต้องไม่ลืมว่า ระบบการรายงานของ VAERS คือรับรายงานทุกเคสที่มีคนตายหลังการฉีดวัคซีน โดยยังไม่มีการสอบสวนว่าการตายโดยแท้จริงเกิดจากอะไร

 

ในกรณีเรื่องการฉีดวัคซีนในอเมริกาแล้วมีคนตายถูกนำมาเผยแพร่โหมกระหน่ำในเมืองไทย เป็นประเด็นเพื่อดิสเครดิตวัคซีนของอเมริกาว่าทำให้คนฉีดตายเยอะ เมื่อเทียบกับวัคซีน AstraZeneca ของไทยที่จะทยอยออกมาเดือนมิถุนายน

แต่ประเด็นข่าวโหมกระหน่ำเรื่องการฉีดวัคซีนแล้วตาย กลายเป็นหอกที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงตัวเอง เพราะคนไทยรับฟังข่าวเรื่องการฉีดวัคซีนแล้วตายจนเกิดความฝังใจ ไม่มีการแยกแยะว่าเป็นวัคซีนของใคร ยี่ห้ออะไร

รวมทั้งเมื่อมีการฉีดวัคซีน Sinovac ในไทย มีข่าวว่ามีคนฉีดแล้วตาย ทางการก็อ้ำอึ้ง ไม่มีการแถลงอะไรให้ชัดเจน

หลายคนเลยพากันกลัวการฉีดวัคซีนไปหมด

 

มติชนออนไลน์ 9 พฤษภาคม 2564 นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท โพสต์แสดงความเห็นว่า

คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่กล้าฉีดวัคซีน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่

คุณหมอสุภัทรยกตัวอย่างว่า โรงพยาบาลจะนะเปิดรับฉีดวัคซีนวันละ 360 ราย มีคนลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมแค่ 232 ราย ให้ อสม.ไปเดินเคาะประตูบ้านก็ได้คนลงทะเบียนฉีดวัคซีนเพิ่มมาอีกแค่ 1,000 คน ในขณะที่ทั้งอำเภอจะนะมีคนแก่ที่สมควรฉีดวัคซีน 20,000 คน

คุณหมอสุภัทรเชื่อว่าทุกอำเภออื่นๆ ในประเทศไทย ก็คงมีปัญหาเรื่องคนไม่ยอมลงทะเบียนฉีดวัคซีนเหมือนกับที่ อ.จะนะ

คุณหมอสุภัทรบอกอีกว่า การแก้ปัญหาผู้คนไม่กล้าฉีดวัคซีนเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาล แต่ยังไม่เห็นการจัดการอย่างเป็นระบบ

เรื่องนี้โรงพยาบาลต่างๆ ทำเต็มที่แล้ว

ล่าสุดมีตัวเลขการลงทะเบียนฉีดวัคซีนของจังหวัดลำปางที่ทำได้ทะลุเป้า เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางลงมาดูแลเองและให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ว่างงานในขณะนี้ เช่น ทันตแพทย์มาช่วยรับโทรศัพท์ประชาชนในการลงทะเบียนฉีดวัคซีน ทำให้การลงทะเบียนคล่องตัว

ลำปางโมเดล จึงเป็นต้นแบบการลงทะเบียนฉีดวัคซีนของประเทศ

ขอแสดงความยินดีที่มีข่าวเมื่อ 15 พฤษภาคม ว่ายอดผู้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนเดือนมิถุนายน เต็มตามโควต้าแล้ว

ขอเพิ่มเติมว่า ถ้าการฉีดวัคซีนยังล่าช้า โควิดเมืองไทยจะระบาดไม่หยุดยั้ง

ทางการต้องพยายามประชาสัมพันธ์ให้คนเข้าใจว่า การฉีดวัคซีนไม่ว่าจะเป็นยี่ห้ออะไร คือการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ เป็นการป้องกันได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

หรือเมื่อฉีดวัคซีนแล้ว เกิดพลั้งพลาดติดเชื้อ ก็ไม่ถึงตาย

ผมขอเสนอลุงตู่ให้ใช้สโลแกนรณรงค์ว่า

อย่ากลัววัคซีน

เร่งฉีดวัคซีนเพื่อชาติ/เพื่อโลก

(เพราะการฉีดวัคซีนไม่ใช่จะแค่ป้องกันการระบาดในชาติเท่านั้น แต่ถ้าทุกชาติไม่มีการระบาด ทั้งโลกก็จะปลอดภัย จึงเป็นการฉีดวัคซีนเพื่อโลก)