พลันที่เพจ”โยกย้าย ส่ายสะโพกโยกย้าย”มีสมาชิกแตะเข้าหลักล้าน บทบาทและความหมายของเพจก็เด่นชัด

เด่นชัดว่าเป็นเพจในทาง”ความคิด”และในทาง”การเมือง”

ทั้งมิได้เป็นความคิดและการเมืองอันเบาโหวง ตรงกันข้าม กลับเป็นความคิดและการเมืองที่มีน้ำหนักและจำเป็นต้องล้างหูน้อมรับฟัง ติดตามด้วยความเคารพ

ปรากฎการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ซึ่งมีลักษณะเฉพาะจะสามารถเกิดขึ้นได้ก็เพียงแต่ในยุคที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ครองอำนาจและเป็นใหญ่เท่านั้น

ความหมายของ”โยกย้าย ส่ายสะโพกโยกย้าย”คือเงาสะท้อนแห่งความใฝ่ฝัน บรรเจิด สามารถเกิดขึ้นก็แต่ภายในสภาวะอับตันและคับแคบในทางปัญญาและความคิด

คำถามก็คือ ปัจจัยอะไรที่ทำให้สภาวะอับตันเช่นนี้ขึ้น

คำตอบ 1 ก็คือเพราะมีคนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คำตอบ 1 คนอย่างนี้จะสามารถเป็นใหญ่ได้ก็แต่ในยุคแห่งความยากไร้ในทางปัญญาเท่านั้น

 

ในทางเป็นจริงแรกที่เกิดปรากฏการณ์#ย้ายประเทศกันเถอะ เป็นกรณีอันสืบจากความปรารถนาในการ”ปรับทุกข์ ผูกมิตร”ต่อคนที่ได้รับผลสะเทือนจากไวรัส โควิด

มาตรการ”ชัตดาวน์”ของรัฐบาลนับแต่เดือนเมษายน 2563 ต่อเนื่องมายังเดือนเมษายน 2564 คือคำถาม

เป็นคำถามถึงสติปัญญาและความสามารถของรัฐบาลอันมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นคำถามย้ำเตือน ว่าเวลา 1 ปีภายใต้สถานการณ์โควิดไม่มี”บทเรียน”อะไรเลยหรือ

ในเมื่อการแสดงออกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยันว่าไม่มี”บทเรียน”ไม่มีการสรุป ดังนั้น พวกเขาจึงได้สรุปและแสดงออก

นั่นคือฐานที่มาแห่ง#ย้ายประเทศกันเถอะ ซึ่งกลายมาเป็น”โยกย้าย ส่ายสะโพกโยกย้าย”

 

ตัวเลข 1 ล้านคนที่เป็นสมาชิก”โยกย้าย ส่ายสะโพกโยกย้าย”คือรูปธรรมแห่งอารมณ์”ร่วม” คือเงาสะท้อนแห่งความล้มเหลวที่เกิดขึ้นใน ยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ล้วนมาจากความรู้สึกของแต่ละคน ล้วนมาจากความสมัครใจมิได้มีการบังคับหรือหลอกลวงแต่อย่างใด

นี่คือผลด้านอัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อให้เกิด