‘ศิริกัญญา’ ชี้ โควิดยก 3 ทำปชช.สาหัส มาตราการรัฐบาลเอาไม่อยู่ เสนอ พักหนี้ทั้งต้น-ดอก ทันที

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ฝ่ายนโยบาย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ 3 คำขอร้องถึงรัฐบาล ช่วยหยุดวงจรหนี้สินประชาชน ว่า โควิดที่กลับระบาดระลอก 3 นอกจากประชาชนจะต้องเจอกับวิกฤตสาธารณสุข ตรวจไม่ได้ เตียงไม่พอ วัคซีนไม่มีแล้ว อีกวิกฤตที่เกิดขึ้นพร้อมกันในประเทศนี้คือ วิกฤตหนี้! เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ดิฉันได้ทดลองทำโปรเจ็กต์เล็กๆ “วัคซีนแก้หนี้” ร่วมกับ Nattacha Boonchaiinsawat – ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ในพื้นที่เขตบางขุนเทียน เพื่อเป็นการให้คำปรึกษา ช่วยหาทางออกให้กับประชาชนที่มีภาระหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ สิ่งที่ลูกหนี้หลายคนเจอและสะท้อนให้กับพวกเรา พรรคก้าวไกล ที่พยายามรับฟังและให้คำปรึกษาปัญหาหนี้สิน คือมาตรการแก้ปัญหาลูกหนี้ที่มีอยู่ไม่สามารถตอบโจทย์ประชาชนได้ เมื่อมีโควิดระลอก 3

ทุกคนพยายามดิ้นรนสุดแรงแล้ว ไม่มีใครไม่ทำงานหนัก ไม่มีใครที่ไม่หารายได้เสริม ไม่มีใครนั่งเฉยๆ รอให้รัฐบาลเข้ามาช่วย แต่มรสุมที่ซัดเข้ามาในระลอก 3 นี้ มันทำให้ชีวิตพวกเขาพังลงต่อหน้า ด้วยความผิดที่พวกเขาไม่ได้เป็นคนก่อ เงินที่นำมาลงทุนขายของกลับสูญเปล่า เพราะไม่มีใครมาเดินตลาด งานที่ทำประจำที่โรงงานโดนลดชั่วโมง ตัดโอที เจ้าของร้านอาหารโทรมาบอกพวกเขาว่าไม่ต้องเข้ามาแล้วเพราะจ้างต่อไม่ไหว

“ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น ส่งค่างวดรถ จ่ายค่าผ่อนบ้าน จ่ายค่าแชร์พอไหว แต่พอเจอโควิดระลอกสาม ทุกอย่างก็พังทลายไปอีกรอบ”

“รอบที่แล้ว แฟนตกงาน เรายังพอค้ำจุนครอบครัวให้ไปต่อได้ เจรจากับแบงค์ขอปรับหนี้ได้ รอบนี้เราก็เพิ่งตกงานอีกคน มืดแปดด้านไม่รู้จะทำยังไง แบงค์ก็ไม่ให้ผ่อนผันแล้วเพราะถือว่าเข้ามาตรการไปแล้ว”

นี่คือเสียงบางส่วนจากประชาชนที่เราได้รับฟังมา และลำพังมาตรการที่มีอยู่เริ่มจะไม่เพียงพอที่จะประคับประคองชีวิตให้พวกเขาได้ ประชาชนเฝ้ารอค่ะ ว่าเมื่อไหร่รัฐบาลถึงจะมีมาตรการเยียวยาออกมาช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อน นอกจากการเยียวยาเฉพาะหน้าที่พรรคก้าวไกลได้เสนอไปแล้ว ดิฉันจึงขอเสนอให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการเพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชน สิ่งแรกที่ดิฉันขอ คือขอให้รัฐบาลออกมาตรการ #พักหนี้ทันที โดยรอบนี้ควรจะพักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ประชาชนหมดหนทางสู้แล้วจริงๆ ในรอบนี้ ขอเวลาให้ประชาชนได้ตั้งหลัก ให้เศรษฐกิจฟื้นกลับมาได้ซักพักแล้วค่อยจ่ายหนี้กันต่อ อันดับต่อมา ดิฉันอยากขอให้รัฐบาลช่วยหาทางออกสำหรับ #หนี้นอกระบบ โดยการออกสินเชื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ครัวเรือนที่ดอกเบี้ยไม่สูงเกินไปนัก ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีหลายหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ แต่ประชาชนจำนวนมากยังเข้าไม่ถึง และตอนนี้ธนาคารออมสินจะมีการให้เงินกู้เพื่อแก้หนี้นอกระบบ แต่เม็ดเงินยังน้อย และกระบวนการขอใช้เวลานาน

และเราจะแก้ปัญหาหนี้สินไม่ได้เลยถ้าเราไม่ #ปรับลดภาระอื่นที่ไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็น ค่าติดตามทวงถาม ซึ่งธนาคาร ไฟแนนซ์ แต่ละเจ้าตั้งค่าทวงหนี้กันตามอำเภอใจ ไม่ได้สัดส่วนกับค่างวด มีตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน โดยเฉพาะเจ้าหนี้บริษัทไฟแนนซ์หลายเจ้าคิดค่าทวง 1,000-2,000 บาท/ครั้ง ค่าทวงหนี้ที่แพงไม่ได้ทำให้ประชาชนจ่ายได้เร็วขึ้น แต่กลายเป็นภาระที่ทำให้หนี้ยิ่งบาน และลูกหนี้จ่ายคืนไม่ไหว

นอกจากนี้ ปัญหาหนี้เช่าซื้อรถยนต์ ก็ต้องมีมาตรการยืดหนี้โดยเร่งด่วน เนื่องจากไฟแนนซ์มีแนวโน้มที่จะยึดรถก่อน ด้วยความที่ทะเบียนรถก็ไม่ได้เป็นชื่อลูกหนี้ มาตรการช่วยเหลือก็ดูจะมีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการที่ธุรกิจเช่าซื้อ หรือไฟแนนซ์หลายรายไม่ถูกกำกับโดยธนาคารแห่งประเทศไทย แต่อยู่ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งไม่ได้มีอำนาจที่จะไปสั่งให้เอกชนทำตาม ทำให้ลูกหนี้เจอปัญหาตั้งแต่ เจรจาปรับโครงสร้างหนี้แต่ถูกวางเงื่อนไขว่าต้องมาทำสัญญาใหม่ที่เงินต้นมากกว่าเดิม ไปจนถึงถูกยึดรถแล้ว แต่ยังต้องมาจ่ายหนี้ที่ยังคิดดอกเบี้ยอยู่! ดิฉันอยากเห็นมหกรรมไกล่เลี่ยหนี้เช่าซื้อ เหมือนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเคยทำมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลมาแล้ว เพื่อหาคนกลางมาไกล่เกลี่ย เจรจากับเจ้าหนี้แทน และให้ภาระประชาชนผ่อนหนักเป็นเบา และยังพอหายใจได้บ้างในยามที่หนี้ท่วมถึงคอหอย