เอดีบี คาดจีดีพีปี’64 โต 3% มองมาตรการเยียวยาของรัฐบาลหมดฤทธิ์ หวั่นกระทบเศรษฐกิจไทย

เอดีบี คาดจีดีพีปี’64 ขยายตัว 3% มองมาตรการเยียวยาของรัฐบาลหมดฤทธิ์ หวั่นกระทบแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจ

เมื่อวานนี้ (28 เมษายน 2564) ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้ระบุผ่านรายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ประจำปี 2564 (Asian Development Outlook 2021) โดยประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 2564 ว่า จะขยายตัวที่ระดับ 3% กระเตื้องขึ้นจากปี 2563 ที่เศรษฐกิจติดลบ 6.1% เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างมากจากการระบาดของโควิด-19 และจะปรับตัวได้ดีขึ้นในปี 2565 โดยคาดว่าตัวเลขจีดีพีจะเติบโตที่ระดับ 4.5% เนื่องจากการกระจายการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วโลก และการเพิ่มขึ้นของการค้าและการท่องเที่ยว

ส่วนการส่งออกสินค้าและบริการ ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.6% และปี 2565 จะขยายตัวดีขึ้นอยู่ที่ 12.5% ในขณะที่การบริโภคภาคเอกชนในปี 2564 คาดว่าจะกระเตื้องขึ้นที่ 2.1% และปี 2565 ที่ระดับ 3% ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นที่ 1.1% ในปีนี้ และอยู่ที่ระดับ 1% ในปี 2565

“ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดใหญ่ในประเทศต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แผนการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าของรัฐบาล แนวโน้มการระบาดระลอกใหม่ในประเทศ และมาตรการเยียวยาที่อาจได้ผลน้อยกว่าที่คาด อาจส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุน” เอดีบี ระบุ

นอกจากนี้ เอดีบี ยังได้คาดการณ์ว่า ปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศเอเชียกำลังพัฒนาจะกลับมาเติบโตได้ดีขึ้นที่ 7.3% และคาดว่าภูมิภาคจะเติบโตปานกลางที่ 5.3% ในปี 2565 เนื่องจากการฟื้นฟูสุขภาพทั่วโลก และความก้าวหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 โดยเป็นการฟื้นตัวจากการเติบโตติดลบที่ 0.2% ในปีที่แล้ว และหากไม่รวมฮ่องกง จีน เกาหลี สิงคโปร์ และไต้หวัน เศรษฐกิจของประเทศเอเชียกำลังพัฒนาคาดว่าจะเติบโตที่ 7.7% ในปี 2564 และ 5.6% ในปี 2565

“การเติบโตกลับมาเคลื่อนไหวในประเทศเอเชียกำลังพัฒนา อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ระลอกใหม่เป็นความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวเช่นกัน”

นายยาซูยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอดีบี กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศ การกระจายการฉีดวัคซีน และประโยชน์ที่ได้รับจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ส่วนการส่งออกที่กระเตื้องขึ้นได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเอเชียกำลังพัฒนาบางประเทศท่ามกลางกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกที่กลับมาเข้มแข็งและการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการผลิต แม้ความก้าวหน้าของการผลิตและการส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นสาเหตุให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว

แต่การแพร่ระบาดที่ยังคงอยู่เป็นปัจจัยเสี่ยงสูงสำหรับภูมิภาค โดยแนวโน้มการกระจายวัคซีนที่ล่าช้าและการระบาดระลอกใหม่จะทำให้การเติบโตลดต่ำลง ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การผลิตที่ชะงักงัน ความปั่นป่วนทางการเงินจากสภาวะการเงินที่ตึงตัว และผลระยะยาวจากการปิดโรงเรียนเป็นต้น

เศรษฐกิจของประเทศเอเชียกำลังพัฒนาโดยรวมจะเห็นสัญญาณการเติบโตที่ดีในปีนี้และปีหน้า โดยเศรษฐกิจในเอเชียกลางจะเติบโตโดยเฉลี่ยที่ 3.4% ในปี 2564 และ 4% ในปี 2565 ส่วนเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พึ่งพาการค้าจะขยายตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่าจะเติบโต 4.4% ในปีนี้ และ 5.1% ในปีหน้า หลังจากหดตัวที่ 4% ในปี 2563 ส่วนเศรษฐกิจในแปซิฟิกยังคงได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดในการเดินทางทั่วโลกและการล่มสลายของการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้การเติบโตเป็นไปในระดับปานกลางที่ 1.4% ในปีนี้ ก่อนจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.8% ในปีหน้า

รายงานฉบับนี้ยังได้สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการปิดโรงเรียนทั่วทั้งภูมิภาคเนื่องจากการแพร่ระบาดใหญ่ ถึงแม้ว่าหลายประเทศได้ใช้การเรียนการสอนทางไกล แต่ยังมีนักเรียนอีกมากมายที่ไม่สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ซึ่งการหยุดชะงักดังกล่าวจะส่งผลต่อความชำนาญและฝีมือของนักเรียนรวมทั้งการผลิตและการหารายได้ของแรงงานในอนาคต โดยความสูญเสียจากการเรียนการสอนที่ชะงักงันจะอยู่ในระหว่าง 8% ต่อปี สำหรับการเรียนในแปซิฟิกที่โรงเรียนส่วนใหญ่ยังเปิดเรียนอยู่ จนถึง 55% ในเอเชียใต้ที่โรงเรียนปิดเป็นระยะเวลานาน