คำขู่จากทำเนียบรัฐบาลที่จะฟ้องร้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งออกมาแจกแจงให้เห็นรายละเอียดของ”ไทยคู่ฟ้า คลับ” ผ่านภาพ หรูอลังการจาก”คริสตัล คลับ”

ก่อให้เกิดนัยประหวัดไปยังคำขู่จากทำเนียบรัฐบาลต่อ นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในกรณีอันเกี่ยวกับ”วัคซีน”โดยอัตโนมัติ

เพราะพลันที่บังเกิดเสียงขู่จาก”ทำเนียบรัฐบาล” ก็เกิดการประ สานมาจากภายใน”พรรคพลังประชารัฐ” และรวมไปถึงจากภายในของ”250 ส.ว.”ขึ้นมา

เพียงแต่เมื่อมีการยอมรับต่อข้อเสนอ”วัคซีนทางเลือก”จากข้อเสนอของโรงพยาบาลเอกชนและภาคธุรกิจ ก็ได้ทำให้บทบาทของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น

และทำให้การแถลงยาวเหยียดของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่วิพากษ์ต่อนโยบาย”แทงม้า 2 ตัว”ต่อการจัดหาวัคซีน ได้รับการยอม รับจากรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม

เท่ากับที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พูดถูกต้อง เท่ากับที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดโปงไม่มีปัญหา

ในที่สุด คำขู่จาก”ทำเนียบรัฐบาล”ก็เสมอเป็นเพียงคำขู่

 

บทบาทของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ต่อความอื้อฉาวอันเนื่องจากซอยทองหล่อได้กลายเป็น”คลัสเตอร์”ใหม่ในการแพร่กระจายไวรัส โควิด-19

จึงเท่ากับเป็นบทบาทของ”ผู้เชี่ยวชาญ” เป็นบทบาทของ”ผู้รู้”ในเรื่องซึ่งเพิ่งเกิดขึ้น

บทบาทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต่อกรณีการจัดเตรียมในเรื่อง”วัคซีน”ของรัฐบาลจึงได้รับการพิสูจน์จากความเป็นจริงที่ประสบว่าเป็นการวิพากษ์ที่แน่นด้วยข้อมูล

ไม่ว่าบทบาทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าบทบาทของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จึงมีความหมายเป็นอย่างสูงต่อสังคมสมัยใหม่ที่ต้องขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและความเป็นจริง

นี่ย่อมเป็นบทบาทของผู้ที่รู้จริงในเรื่องที่พูด นี่ย่อมเป็นบทบาทที่สะท้อนวิสัยทัศน์ที่มองเห็นสถานการณ์ได้ล่วงหน้า

 

พลันที่การแพร่กระจายของไวรัสจากคลัสเตอร์ซอยทองหล่อออกไปมากกว่า 70 จังหวัด พลันที่มีความจำเป็นต้องหาทางออกผ่าน”วัคซีนทางเลือก”

บทบาทของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็ได้รับความสนใจ บทบาท ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ได้ความเชื่อถือในความแม่นยำ

ที่เคยตำหนิ ที่เคยถากถาง ก็ต้องกลืนน้ำลาย