ทนายนรเศรษฐ์ เผย เจ็บปวดทุกครั้ง แม่แกนนำถาม ‘ลูกจะได้ออกเมื่อไหร่ ?’

ทนายนรเศรษฐ์ เผย เจ็บปวดทุกครั้ง แม่แกนนำถาม ‘ลูกจะได้ออกเมื่อไหร่ ?’

เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก “นรเศรษฐ์ นาหนองตูม” โดยระบุว่า

ผมรู้สึกเจ็บปวดร้าวทุกครั้งที่ต้องเห็นภาพบรรดาแม่ๆ มารอดูลูกที่ศาล และเจ็บปวดมากขึ้นเมื่อได้ยินคำถาม

“ลูกแม่สิได้ออกมื้อใด๋ แม่สิได้พาอานนท์กลับบ้านสงกรานต์บ่” แม่พี่อานนท์ถามผม
ส่วนแม่เพนกวินบอกว่า “เราต้องได้ประกันนะ ถ้าไม่ได้ประกันอีก สภาพร่างกายเพนกวินคงจะไม่ไหวแล้วน่าจะเป็นอัตรายกับเขามาก ๆ”

แม่ไมค์ บุคลิกเด็ดเดี่ยวพูดน้อยบอกเพียงแค่ว่า“ไมค์เขาเชื่อใจพี่รอนมากเลย พี่รอนตัดสินใจเลยนะ ถ้าได้ออกมาก็ดี เพราะแม่เป็นห่วง”

แม่น้องรุ้ง บุคลิกเงียบพูดน้อย มาทุกวันเฝ้ารออย่างมีความหวังอยากจะให้ลูกได้รับการประกันตัวออกไปเรียนหนังสือ ผมเศร้าและรู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องราวทั้งหมด กระบวนการทางกฎหมายเราก็ทำเต็มที่แล้ว แต่ความอยุติธรรมก็ยังคงอยู่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือเราจะเดินมาสุดทางกันแล้วจริงๆ

เวลาเศร้าแบบนี้ มันทำให้ผมหวนคิดถึงบทกวี “เหมือนบอดใบ้ ไพร่ฟ้ามาสุดทาง” ของอานนท์ นำภา ซึ่งแต่งไว้ตั้งแต่ปี 2553 ในช่วงที่เขาเป็นทนายความให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง กวีบทนี้ยังร่วมสมัยกับปัจจุบัน ผมชอบอ่านอยู่เสมอ ครั้งนี้ผมจึงขอนำมาเผยแพร่อีกครั้ง โดยปรับเนื้อหาบางส่วนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
เพื่อปลอบประโลมหัวใจของตัวเองและเพื่อนมิตรสหายทุกคน

สำหรับบทกวีดังกล่าว ความตอนหนึ่ง ดังนี้

เอ้กอีเอ้ก สว่างแล้ว แก้วไก่ขัน
ดวงตะวัน ยิ้มแฉ่ง สีแดงฉาน
หมู่หมอกเหม่อ เออออ ล้อลำธาร
หยาดน้ำค้าง ค้างบ้าน จนลืมไพร
ควักข้าวเหนียว ใส่ห่อ ไปรอรับ
หวังลูกกลับ สู่บ้าน มาอยู่ใกล้
เจ็ดเดือนย่าง ต่างรู้ ต้องอยู่ไกล
แต่เทียวไป เยี่ยมเล่น ไม่เว้นวัน
เมื่อใดความ ขัดแย้ง ไม่แยกแยะ
เมื่อนั้นแพะ ก็พา กันขาสั่น
เมื่อใดช้าง ต่างชน ชิงประชัน
แลเมื่อนั้น หญ้าแพรก ก็แหลกราน
ร่างผอมโซ โซ่ตรวน ล่ามส่วนขา
เดินออกจาก รถมา ศาลาศาล
ผู้คุมสวม บทบาท ราชการ
ตะโกนไล่ ชาวบ้าน อย่าจอแจ !
ปาดน้ำตา ต่างยิ้ม ให้ลูกชาย
ลูกโบกมือ บ๋ายบาย ยิ้มให้แม่
ชะเง้อตาม สองตา เจ้าต่างแล
เชื่อมรักแท้ แม่ลูก ที่ผูกพัน
ผิดใดหนอ บักหำน้อย แม่คอยถาม
จึงถูกล่าม โซ่ขึง ตรึงไว้นั่น
ขาก็ขา น้อยน้อย เพียงแค่นั้น
จะทนดั้น เดินย่าง ได้อย่างไร