ประเทศไทยต้องมีอนาคตกว่ารัฐบาล ที่ลอกทักษิณแค่เรื่องขันแดง | ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์www.facebook.com/sirote.klampaiboon

พฤษภาคมปีนี้จะครบวาระที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้กระบอกปืนตั้งตัวเองเป็นนายกฯ ครบ 7 ปี และถึงแม้ในปี 2557 จะมีคนที่ดูถูกคนส่วนใหญ่พอจะหนุนให้ทหารเหยียบหัวคนทั้งประเทศโดยยึดอำนาจ

แต่ถึงจุดนี้คงมีคนน้อยมากที่กล้าพูดว่าคุณประยุทธ์คือนายกฯ ที่เก่งและดีที่สุดเท่าที่ประเทศเคยมี

ถ้าเทียบกับนายกฯ จากรัฐประหาร คุณประยุทธ์ไม่มีปัญญาวุฒิเท่าคุณอานันท์ ปันยารชุน หรือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ถ้าเทียบกับนายกฯ ที่อิงระบบราชการ คุณประยุทธ์ไม่ยึดหลักกฎหมายเท่าคุณชวน หลีกภัย และถ้าเทียบกับนายกฯ ที่ประชาชนเลือกเองอย่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลประยุทธ์เป็นได้แค่ก๊วนลอกนโยบายที่รัฐบาลทักษิณทำ

คุณประยุทธ์และบริวารพยายามสร้างภาพว่าคุณประยุทธ์คิดนโยบายเก่ง

ความหมกมุ่นในการสร้างภาพนี้ถึงขั้นคนของคุณประยุทธ์เคยสั่งสื่อบางแห่งว่าห้ามพูดจนสังคมมองคุณประยุทธ์เป็น “นายกฯ ฉลาดน้อย” ต่อให้คุณประยุทธ์จะเป็นแถวหน้าของการยกหางตัวเองโดยด่านายกฯ คนอื่นว่ากระจอกก็ตาม

ย้ำว่าทั้งหมดนี้พูดเฉพาะในเรื่องนโยบาย ไม่ได้พูดในเรื่องที่เห็นชัดๆ ว่าลอกแบบคนคิดน้อยอย่างพลังประชารัฐแจกขันประวิตรเลียนแบบทักษิณ-ยิ่งลักษณ์แจกขันแดงช่วงสงกรานต์

ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นเรื่องที่คุณประยุทธ์อวยตัวเองว่าฉลาดเหนือกว่าอดีตนายกฯ ทุกคน คุณประยุทธ์ใช้ปืนจ่อหัวให้คนฟังว่าประเทศไทยแย่เพราะรัฐบาลอื่นไม่มียุทธศาสตร์ คุณประยุทธ์จึงควรมีอำนาจตั้ง 250 ส.ว.มาเลือกตัวเองเป็นนายกฯ โดยอ้างว่าเพื่อให้ยุทธศาสตร์ชาติได้รับการปฏิบัติต่อไป

ล่าสุด ขณะที่คุณจตุพร พรหมพันธุ์ นำผู้ชุมนุมขับไล่เผด็จการที่อนุสรณ์สถานพฤษภา 35 คุณประยุทธ์ก็ด่าคนที่วิจารณ์ยุทธศาสตร์ 20 ปีว่า “บ้าหรือเปล่า” เพียงเพราะตั้งคำถามว่ายุทธศาสตร์ชาติคือส่วนหนึ่งของการสืบทอดอำนาจ

ต่อให้คุณประยุทธ์จะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างตั้ง ส.ว.มาเลือกตัวเองเป็นนายกฯ ก็ตาม

ในโลกใต้กะลาซึ่งคุณประยุทธ์เอาปืนจ่อปลายกระเดือกเพื่อบังคับให้ประชาชนเชื่อ ยุทธศาสตร์ทำให้รัฐบาลบริหารงานได้ต่อเนื่อง และอะไรที่ต่อเนื่องย่อมนำประเทศไปสู่ความเจริญทั้งนั้น

ต่อให้สี่ปีซึ่งคุณประยุทธ์ใช้ยุทธศาสตร์จะเป็นสี่ปีที่ประเทศไทยมั่วเรื่องนโยบายมากที่สุดก็ตาม

 

เอาเฉพาะเรื่องโควิดก่อน ประเทศไทยผ่านไตรมาสแรกของปีไปด้วยความมั่วเรื่องวัคซีนซึ่งมีปัญหาตั้งแต่เอาวัคซีนเจ้าไหน, เริ่มฉีดเมื่อไร, เอกชนนำเข้าเองได้หรือไม่ ฯลฯ

ผลก็คือจำนวนประชากรที่มีภูมิต้านทานโควิดมีน้อย เสี่ยงต่อการเกิดโควิดลามไม่รู้จบ และทำให้เริ่มต้นเปิดประเทศไม่ได้สักที

ล่าสุด การพบผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่ในผับหรูแถวทองหล่อทำให้รัฐบาลสั่งปิดผับและร้านอาหารบางพื้นที่อีกครั้ง

อุตสาหกรรมบันเทิงและร้านอาหารได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เศรษฐกิจไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องพูดถึงผลต่อคนทำมาหากินกลุ่มนี้ที่พังพินาศมาแล้วหนึ่งปี

แน่นอนว่าปัญหาโควิดเป็นเรื่องใหม่ซึ่งเกิดหลังจากคุณประยุทธ์มโนเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

แต่โควิดคือภาพสะท้อนว่าชาติไม่อาจมีแผนยุทธศาสตร์ล่วงหน้าได้ทุกเรื่อง

ยิ่งไปกว่านั้น คือความเบาปัญญาของคนที่ใช้ยุทธศาสตร์ชาติเป็นข้ออ้างให้ประยุทธ์ตั้ง ส.ว.เลือกตัวเองเป็นนายกฯ ตลอดกาล

 

ถ้ารัฐบาลประยุทธ์มีวิสัยทัศน์มากเท่าการยกหางตัวเอง รัฐบาลต้องรู้เท่าที่คนทั้งประเทศรู้ว่าการเร่งฉีดวัคซีนคือหนทางเดียวในการหยุดโควิดและฟื้นเศรษฐกิจ สิ่งที่รัฐบาลพึงทำจึงได้แก่การทำแบบที่ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคเพื่อไทยเสนอว่าให้ซื้อวัคซีนจากแหล่งที่หลากหลายเพื่อเร่งฉีดให้คนไทยโดยเร็ว

อย่างไรก็ดี สามเดือนแรกของประเทศผ่านไปโดยในความเป็นจริงแล้วรัฐบาลแทบจะซื้อวัคซีนยี่ห้อเดียวเป็นหลัก ไม่มีเอกชนหน้าไหนนำเข้าวัคซีนค่ายอื่นมาฉีดให้คนในประเทศได้

การฉีดวัคซีนของรัฐเป็นไปอย่างล่าช้า มีแต่ความรวดเร็วในการด่าและยัดคดี 112 ใส่คนที่วิจารณ์นโยบายวัคซีน

ถ้ารัฐบาลยอมหาวัคซีนจากผู้ผลิตแหล่งอื่นเพื่อเร่งฉีดให้คนไทยได้มากและเร็วอย่างที่สังคมคาดหวัง การระบาดของโควิดระลอกใหม่ก็จะไม่เกิด

อุตสาหกรรมบันเทิงและร้านอาหารก็จะไม่ถูกปิด

ไม่ต้องพูดถึงผลกระทบอีกมากต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอื่นๆ อย่างที่รู้กัน

นอกกะลาของคุณประยุทธ์ที่คิดว่าความล่าช้าในการหาและฉีดวัคซีนไม่ใช่ปัญหา การระบาดของโควิดระลอกใหม่เกิดขึ้นช่วงวันหยุดสงกรานต์ ในทางเศรษฐกิจจึงเป็นช่วงที่โรงแรม, ร้านอาหาร, ผับ, บาร์ ฯลฯ จ่ายเงินล่วงหน้าไปซื้อวัตถุดิบและของสดไว้ขายลูกค้าที่จะหลั่งไหลมาช่วงวันหยุด

ทันที่โควิดลาม ยอดนักท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยในธุรกิจเหล่านี้จะหายวับไปมหาศาล

เงินลงทุนที่จ่ายไปแล้วจึงกลายเป็นสุญญากาศไปด้วย เพราะของหลายอย่างเก็บไม่ได้ และต่อให้เก็บได้ก็ไม่มีโอกาสในการระบายของหลังจากเทศกาลสงกรานต์ผ่านไป

ผลก็คือเจ๊ง หรือไม่ก็เงินจมระยะยาว

ช่วงโควิดระบาดปีก่อน รุ่นน้องผมที่เป็นเจ้าของโรงแรมแถวเขาใหญ่ต้องเอาแซลมอนและเนื้อสเต๊กที่เตรียมไว้ช่วงสงกรานต์มาขายขีดละ 100 จัดโปร 5 แถม 4 ดีกว่าเงินจมและล่มจมกับค่าไฟซึ่งทำให้ต้นทุนเก็บของมากจนไม่คุ้ม จากนั้นธุรกิจฟุบจนแทบไม่ฟื้น และในที่สุดสงกรานต์ปีนี้ก็ซ้ำรอยเดิม

ผับ บาร์และร้านอาหารจำนวนมากสต๊อกเบียร์สดและอาหารสดเพื่อปล่อยช่วงสงกรานต์

แต่ทันที่โควิดลาม ธุรกิจกลุ่มนี้ก็จะเข้าสู่วงจรอุบาทว์แบบโรงแรมที่ผมกล่าวไปแล้ว

หรือถ้าโชคดีหน่อยก็อาจยกเลิกคำสั่งซื้อไปได้ แต่นั่นก็เท่ากับผลร้ายจะไปตกอยู่กับเกษตรกรและพ่อค้าที่ส่งของเหล่านี้ทันที

แท็กซี่ทั้งกรุงเทพฯ เจ๊งช่วงโควิด เถ้าแก่ทุกอู่ลดค่าเช่าจาก 700 เหลือ 350 แถมจัดโปรเช่า 6 วัน ฟรี 1 วัน แต่คนขับแท็กซี่ก็ยังหาเงินแทบไม่ได้ เพราะเมื่อรัฐปล่อยโควิดลามแล้วสั่งปิดธุรกิจกลางคืนอย่างผับ, บาร์, ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

ผลก็คือแทบไม่เหลือใครขึ้นแท็กซี่ยามราตรี

ด้วยวงจรธุรกิจที่ชะงักหรือชะลอตัวช่วงโควิดมานาน ร้านค้าหรือธุรกิจรายย่อยที่เจ๊งหรือหยุดกิจการเฉยๆ มีมากจนรัฐบาลไม่สนใจนับหรือเยียวยาแล้ว เศรษฐกิจที่มีสัญญาณฟื้นทำให้ธุรกิจที่อยู่รอดต้องแข่งกันแย่งชิงลูกค้าอย่างหนัก แต่การระบาดระลอกใหม่ทำให้คนกลุ่มนี้ทรุดลงในพริบตา

ช่วงก่อนที่โควิดจะระบาดระลอกใหม่ โรงแรมใหญ่ในพัทยาต้องลดค่าห้องเหมือนโรงแรมอื่นทั่วประเทศ รายได้ก่อนหักต้นทุนจากอาหารเช้าบางแห่งอยู่ที่หัวละ 150 ซึ่งเท่ากับแทบไม่มีกำไร ทำเพื่อให้ธุรกิจมีเงินหมุนเพื่อจะไม่ต้องเลิกจ้างพนักงานหรือขายโรงแรมทิ้งไปเลย

หากโรงแรมหรือร้านอาหารที่พอจะประคองตัวผ่านโควิดปีที่แล้วยังลำบากขนาดนี้ การระบาดของโควิดระลอกใหม่ก็แทบจะเทียบได้กับการลงดาบประหารธุรกิจขนาดเล็กอีกมากให้ตายอย่างสิ้นเชิง

ถ้าคุณประยุทธ์และรัฐบาลฉลาดในสักเศษเสี้ยวของการยกหางตัวเอง รัฐบาลควรรู้ว่าการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าทำให้เศรษฐกิจฝืด การจ้างงานต่ำ ประชากรวัยทำงานตกงาน

ขณะที่รัฐไม่มีงบประมาณในการดูแลคนกลุ่มนี้มากกว่าการโยนเศษเงินประกันสังคมจากเงินของคนกลุ่มนี้ลงมา

 

โควิดเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่นโยบายวัคซีนที่โง่เขลาจนโควิดลามและทำให้เศรษฐกิจพังมาหนึ่งปีเป็นปัญหาเฉพาะประเทศไทย เพราะเวียดนามยุคโควิดมีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจกว่า 4% ขณะที่รัฐบาลยังทำให้เศรษฐกิจไทยจมอยู่ในก้นเหวของความล่มจม

อีอีซีเป็นนโยบายที่คุณประยุทธ์โม้ว่าจะฟื้นเศรษฐกิจไทย งบประมาณที่ถูกใช้เพื่อสนองนโยบายนี้ไปไม่น้อย แต่ตอนนี้ไม่มีใครหน้าไหนในรัฐบาลพูดเรื่องนี้แล้ว

ครั้งสุดท้ายที่คุณประยุทธ์พูดถึงอีอีซีนานจนจำไม่ได้ และดูเหมือนเมื่อไม่มีคุณสมคิดและคุณอุตตม นโยบายนี้ก็ไม่มีรัฐมนตรีคนไหนรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพอีกเลย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานว่ารัฐบาลประยุทธ์ไม่ใช่รัฐบาลที่มียุทธศาสตร์ หรือแม้กระทั่งอาจเป็นรัฐที่ไม่ได้มีนโยบาย

มีแต่มาตรการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นวาทกรรมลวงโลกของผู้มีอำนาจ

อย่างเบาดีคือเป็นผลของความหลงตัวเองว่าฉลาด มองสถานการณ์ประเทศออกขั้นคิดแนวทางที่ประเทศควรทำอีก 2 ทศวรรษ

อย่างเลวคือเป็นข้ออ้างตั้งลิ่วล้อเป็น ส.ว.ไปเลือกตัวเองเป็นนายกฯ โดยอ้างว่าเพื่อให้ยุทธศาสตร์ถูกปฏิบัติตาม

ภายใต้รัฐบาลประยุทธ์ เรากำลังจมปลักกับประเทศที่มีแต่มาตรการเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

รัฐบาลที่โม้เรื่องยุทธศาสตร์มากที่สุดคือรัฐบาลที่บริหารประเทศแบบหาเช้ากินค่ำและไปตายเอาดาบหน้ามากที่สุด

จึงไม่มีเหตุอันใดเลยที่คนไทยจะหยุดคิดเรื่องการมีรัฐบาลที่ดีกว่ารัฐบาลปัจจุบัน

ปัญหาของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องเผด็จการหรือประชาธิปไตย

แต่ยังเป็นปัญหาเรื่องความไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีวิสัยทัศน์ และไม่มีสมรรถนะในการทำให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้นแม้แต่นิดเดียว

คนไทยควรมีรัฐบาลที่อนาคตมีอะไรให้มองเห็นมากกว่าฝาโลง