‘สมาคมทนาย’ จี้ทุกฝ่ายเคารพนิติรัฐ-นิติธรรม หลังศาลปค.สั่ง “ยิ่งลักษณ์” ไม่ต้องชดใช้ 3.5 หมื่นล้าน

‘สมาคมทนาย’ จี้ทุกฝ่ายเคารพนิติรัฐ-นิติธรรม หลังศาลปกครองกลางสั่ง ‘ยิ่งลักษณ์’ ไม่ต้องใช้ 3.5 หมื่นล้าน เหตุเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

สมาคมทนายความ จี้ ทุกฝ่ายต้องเคารพนิติรัฐนิติธรรม หลังศาลปกครองกลางสั่ง ‘ยิ่งลักษณ์’ไม่ต้องใช้ 3.5หมื่นล้าน ชี้ ก.คลังต้องชะลอบังคับคดีขายทรัพย์สินออกไปจนกว่าคดีสิ้นสุด หลังก่อนหน้านี้เคยออกคำสั่งทางปกครองขายทอดตลาดและได้นิรโทษจาก คสช.ไว้ล่วงหน้า

เมื่อวันที่ 5 เมษายน นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เปิดเผยทางเพจเฟซบุุ๊ก สมาคมทนายความเเห่งประเทศไทย กรณีศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351/2559 ที่มีคำสั่งให้อดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีโครงการรับจำนำข้าวจำนวน 35,717,273,028.23 บาท ว่า คำพิพากษาดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากอดีตนายกรัฐมนตรีได้ใช้สิทธิทางศาล ฟ้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ตนเห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อศาลมีคำพิพากษาออกมาในทางใดทางหนึ่ง คู่ความอีกฝ่ายก็มีสิทธิที่จะอุทธรณ์ต่อไปได้อันเป็นไปตามครรลองของกฎหมายที่มีความเป็นสากลและอยู่บนหลักนิติธรรม ผลของคำพิพากษาที่เป็นธรรมจะทำให้ทุกฝ่ายยอมรับ

ส่วนกรณีที่กระทรวงการคลังใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร ออกคำสั่งทางปกครองเรียกให้อดีตนายกรัฐมนตรีชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จากนั้นบังคับคดีจนมีการขายทอดตลาดทรัพย์สินโดยไม่รอฟังผลของคำพิพากษานั้น

หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่ากระทรวงการคลังกระทำไปโดยหวังผลทางการเมืองเพื่อตอบสนองต่อคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 39/2558 และ 56/2559 โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลทางกฎหมายที่จะเกิดขึ้นเพราะหัวหน้า คสช. ได้นิรโทษกรรมไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว

ซึ่งหากกระทรวงการคลังตระหนักว่าตนเป็นฝ่ายบริหาร อีกทั้งคำสั่งของตนยังไม่ถึงที่สุดเพราะอาจถูกแก้ไขหรือยกเลิกโดยคำพิพากษาของศาลได้ กระทรวงการคลังก็ควรชะลอการบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินออกไปเพื่อรอฟังผลคำพิพากษา ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดความเสียหาย เพราะกระทรวงการคลังมีสิทธิจะได้รับดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่ล่าช้าออกไปตามกฎหมาย

สมาคมทนายความแห่งประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้เคารพกระบวนการทางกฎหมายที่มีความเป็นสากลและอยู่บนหลักนิติธรรม ซึ่งจะได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย รวมถึงฝ่ายที่ได้รับผลร้ายจากกฎหมายนั้น

เพราะการบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย (Rule by Law) ที่มิได้อยู่บนหลักนิติธรรม (Rule of Law) เป็นการสร้างบรรทัดฐานที่จะก่อให้เกิดความไม่เสมอภาคและไม่ยุติธรรม อันนำมาซึ่งการไม่ยอมรับและสร้างความขัดแย้งในสังคมให้ยิ่งเพิ่มมากขึ้น