‘พิธา’ นำทีม ส.ส. ก้าวไกล แถลงผลอภิปรายแม้รัฐบาลได้ไปต่อ แต่กรีดเเผลกลางสภาสำเร็จ เผยเดินหน้ายุทธการโรยเกลือต่อทันที จากนี้ไปประชาชนคือผู้ตัดสิน ส่วนกรณีมี ส.ส.โหวตสวน เร่ง กก.วินัย ตรวจสอบ แย้มไม่ขับออกให้เข้าทางฝ่ายตรงข้าม แต่มีโทษตามมาแน่นอน

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรค ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ยกทีมส.ส.พรรคก้าวไกล เเถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลทั้ง 10 คน ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติไว้วางใจให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินต่อ

พิธา กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสรุปผลอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในปีนี้ อย่างที่ตนเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปแล้ว ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือการที่ได้เราในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งได้รับมอบอำนาจอธิปไตยจากพี่น้องประชาชนในการตรวจสอบรัฐบาลควบคุมการบริหารราชการเเผ่นดินให้ปราศจากการทุจริต ปราศจากการเอื้อพวกพ้อง ปราศจากการนำเอาหลักนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศไปแลกกับการช่วยเหลือเเค่บุคคลบางกลุ่ม โดยผลที่ออกมาเรายืนยันว่าได้ตั้งใจอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตลอด 4 วันที่ผ่านมาอย่างสุดความสามารถ การอภิปรายของส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน เเละพรรคก้าวไกล ทำให้เห็นว่า เราได้กรีดเเผลลงไปในสภาสำเร็จเเล้ว เเผลนั้นได้สะท้อนให้เห็นความจริงที่เกิดขึ้นในสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการศึกษา ปัญหาด้านเเรงงาน โดยหลังจากนี้จะเป็นยุทธการโรยเกลือ เพื่อย้ำในเเผลที่เราได้กรีดไว้เเล้วในสภาจากการบริหาราชการเเผ่นดินที่ล้มเหลวของรัฐบาลเเละละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ของรัฐมนตรี โดยจะมีกระบวนการทำงานต่อเนื่องในการดำเนินคดีต่อ คณะกรรมการป้องกันเเละปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ปปช. ) หรือต่อศาลในการควบคุมการบริหาราชการเเผ่นดินให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน.

“ขอขอบคุณ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านที่ร่วมกันดำเนินการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่สำคัญผมเเละพรรคก้าวไกลขอขอบคุณศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายนโยบาย ที่เป็นเหมือนเครื่องจักรดำเนินการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ทำให้เราได้นำหลักฐาน ข้อเท็จจริงมาใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเพื่อเปิดแผลในสภาให้ประชาชนได้รับรู้ “. พิธา กล่าว

ด้าน ศิริกัญญา กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคณะทำงานที่อยู่เบื้องการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคก้าวไกล เตรียมข้อมูล เตรียมบุคคลในการอภิปรายครั้งนี้ เมื่อเราเห็นผลของการลงคะเเนนแล้วต้องบอกว่าผิดหวัง แต่อย่างที่หัวหน้าพรรคได้กล่าวเเล้วว่า เราได้เปิดเเผลตั้งเเต่ระดับ แผลข่วน เเผลไฟไหม้ จนถึงแผลฉกรรจ์ ไม่ว่าจะเป็นกรณีเรื่องส่วนตัวในฐานะที่พลเอกประยุทธ์ หนีภาษีไม่ยอมยื่นค่าน้ำค่าไฟ ทำผิดกฎหมาย ปปช. ไปจนถึงเรื่องคอร์รัปชันระดับนโยบายของการวางแผนรถไฟฟ้าผิดพลาด วางแผนอุตสาหกรรมต่างๆผิดพลาด ไปจนถึงการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนรายใหญ่หลายรายให้เข้ามาใช้ทรัพยากรของชาติ แบ่งปันผลประโยชน์เอื้อพวกพ้องกันเองในเครือข่าย การลงมติครั้งนี้ อาจจะไม่ใช่การสะท้อนว่า เราทำงานไม่หนักพอ เพราะผู้ที่ตัดสินคือประชาชนที่สุดท้ายเเล้วจะเป็นผู้ไว้ใจให้รัฐบาลชุดนี้ต่อไปหรือไม่ โดยยุทธการโรยเกลือต่อไปจะมีการยื่นจดหมาย การร้องเรียนต่างๆ อาทิ การยื่นเรื่องถอดถอนรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดิน และในการผิดจริยธรรมไปที่ ปปช. และการขอข้อมูลเพื่อให้เกิดความชัดเจน เช่น การขอข้อมูลกองทัพบกในเรื่องการใช้ที่ดินราชพัสดุ เพื่อใช้ในการปฏิรูปกองทัพ การยื่นตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหมที่มีข้อผิดพลาด สำหรับกระทรวงศึกษาธิการ เราจะตรวจสอบการกลับมติ ครม.ว่า การลดงบกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษานั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ กระบวนการเหล่านี้เป็นกระบวนการโรยเกลือให้แผลที่เราเปิดไว้ในสภา ให้ออกไปเน่านอกสภา

“ ดิฉันเอง ไม่สามารถทำงานได้คนเดียวอยู่เเล้ว ต้องขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ได้ให้ความร่วมมือ พี่น้องประชาชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลที่ส่งเบาะเเสข้อมูลต่างๆจึงทำให้เราทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับข้อมูลที่เรายังไม่นำมาเปิดเผยในการอภิปรายในครั้งนี้ เราจะดำเนินการศึกษาข้อมูลต่อ เพื่อทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างเต็มที่ที่สุด หลังจากนี้พรรคก้าวไกลจะดำเนินกระบวนการยื่นถอดถอน นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยจะยื่นต่อปปช.ให้ตรวจสอบถึงคุณสมบัติเเละการละเมิดจริยธรรม รวมไปถึงคดีบอส อยู่วิทยา จะยื่นขอดูรายงาน 50 หน้า ของนายวิชา มหาคุณ ในฐานะประธานที่พิจารณาเรื่องดังกล่าว รวมถึงเรื่องอื่นๆด้วย “ ศิริกัญญา กล่าว

ขณะที่ ชัยธวัช กล่าวถึง กรณีที่มี ส.ส.พรรคก้าวไกลจำนวนหนึ่งโหวตสวนมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า กำลังตรวจสอบรายชื่อ ยืนยันกับพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล ว่าจะไม่นิ่งนอนใจในกรณีที่มี ส.ส.พรรคก้าวไกลไปโหวตไว้วางใจรัฐมนตรี ในเวลานี้เราไม่อยากเตะหมูเข้าปากหมา การไล่ ส.ส. ออกตอนนี้เป็นการเข้าทางต่อกระบวนการของผู้มีอำนาจ เราจะลงโทษโดยการไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมของพรรค เเละสิทธิพิเศษอำนาจหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร เราขอโทษต่อพี่น้องประชาชนที่เลือก ส.ส.เหล่านั้นมา โดยจะเป็นบทเรียนในการคัดสรรรผู้สมัครเพื่อให้ได้บุคคลากรที่มีความเหมาะสมในการทำงานการเมืองด้านประชาธิปไตย หลังจากนี้พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าทำงานปักธงทางความคิดเปิดรับผู้สมัครที่สนใจทำงานการเมืองกับเรา เพื่อสานต่ออุดมการณ์ทางประชาธิปไตย เข้ามาเป็นผู้แทนของประชาชน

“สิ่งที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า ยังมีเรื่องของอำนาจ ผลประโยชน์ นี่เป็นสภาพเเวดล้อมที่เป็นการเมืองเเบบเก่า แต่ที่เราทำตั้งเเต่เป็นสมัยพรรคอนาคตใหม่ ก็คือการเข้ามาเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลง” ชัยธวัช กล่าว

ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวทิ้งท้ายถึง กรณีที่มี ส.ส.พรรคจำนวนหนึ่งโหวตสวนมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ลงคะเเนนไว้วางใจให้รัฐบาลว่า ตนผิดหวังเเต่ไม่ผิดคาด พรรคก้าวไกลมีกระบวนการที่มีคณะกรรมการวินัยที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการทำงาน หลังจากนี้จะเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจมาทำงานการเมืองร่วมกัน เพื่อเตรียมเสริมทัพ เสริมทีมที่จะทำงานต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่พรรคเเบบเราที่ทำงานด้วยอุดมการณ์ทางการเมืองต้องเจอ และขอบคุณสำหรับสมาชิกของพรรคทำงานโดยไม่หวังผลตอบเเทน ที่ทำให้เราได้เป็นเหมือนกลไกที่ขับเคลื่อนประชาธิปไตย ขอบคุณที่คะเเนนเสียงที่สนับสนุนพรรคก้าไกล ตั้งเเต่อดีตพรรคอนาคตใหม่ เพื่อที่จะทำงานขับเคลื่อนปักธงทางความคิดต่อไป

ก้าวไกลจ่อลงโทษ ส.ส.งูเห่า โหวตไว้วางใจ ‘อนุทิน’

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี ส.ส.ของพรรคโหวตไว้วางใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่ากรณี 4 ส.ส.ก้าวไกล คือ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายพีรเดช คำสมุทร นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย และนายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี ลงมติไว้วางใจให้ รัฐมนตรีของภูมิใจไทยนั้น พรรคต้องขอโทษสมาชิกพรรคและประชาชนที่สนับสนุนพรรคทุกคนครับ และพรรคจะให้คณะกรรมการวินัยพิจารณาลงโทษต่อไป

เช่น ไม่ส่งลงสมัคร ส.ส.ต่อ, งดเข้าร่วมกิจกรรมพรรค, และตัดสิทธิในสภาที่พึงมีในนามพรรค ส่วนที่ไม่ไล่ออกจากพรรคเพราะเราไม่ต้องเติมเสียงให้รัฐบาลอย่างเป็นทางการอย่างที่พวกเขาต้องการ และตั้งแต่ มี.ค.พรรคจะประกาศรับเลือดใหม่เป็นผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ