‘ไบเดน’ ตั้งเป้าหาวัคซีนโควิดเพิ่มอีก 200 ล้านโดส ให้พอกับชาวอเมริกันภายในฤดูร้อนปีนี้

วันที่ 27 มกราคม 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศว่าสหรัฐฯตั้งเป้าหาวัคซีนโควิด-19 เพิ่มอีกจำนวน 200 ล้านโดสเพื่อเพียงพอกับความต้องการของพลเมืองสหรัฐฯภายในฤดูร้อนปีนี้ และแข่งขันกับการลดภาวะการระบาดใหญ่ซึ่งสหรัฐฯยังคงอยู่ในขั้นเลวร้าย

โดยการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 จำนวน 200 ล้านโดสนั้น มาจากบริษัทโมเดอร์นาและไฟเซอร์-ไบออนเทค แห่งละ 100 ล้านโดส จะทำให้สหรัฐฯมีปริมาณวัคซีนเพิ่มทั้งหมดถึง 600 ล้านโดส คาดว่าจะทำการส่งให้ประชาชนอเมริกันภายในฤดูร้อน จากการตั้งเป้าจัดซื้อในครั้งก่อนไว้ที่ 400 ล้านโดส

ไบเดนกล่าวว่า นี่เป็นความพยายามในภาวะสงคราม

ด้านชารอน คาสติลโร่ โฆษกรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวว่า บริษัทไฟเซอร์มั่นใจว่าจะสามารถส่งวัคซีนโควิดเพิ่มเติมได้ทันตามกรอบเวลา

ด้านแลรี่ โฮแกน ผู้ว่าการมลรัฐแมรี่แลนด์ ได้ออกแถลงการณ์ หลังได้ประชุมสรุปร่วมกับเจฟฟ์ ไซเอนท์ ผู้ประสานงานศูนย์บริหารรับมือโควิด-19 ว่า เรายินดีที่รัฐบาลเริ่มตรงนี้เพื่อให้รัฐต่างๆมีการจัดสรรที่สูงขึ้นเล็กน้อยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่เราจะต้องมีความต้องการมากขึ้นอีก จึงขอเรียกร้องให้ปธน.ไบเดน ดำเนินทุกขั้นตอนเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อเพิ่มการผลิตโดยไม่รอช้า

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการแจกจ่ายวัคซีนซึ่งมีความต้องการมากขึ้น ทำให้เกิดภาวะวัคซีนขาดแคลนเนื่องจากกำลังการผลิตที่ไม่ทันและอุปสรรคด้านการขนส่งเพื่อแข่งขันกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ไบเดนได้ผลักดันร่างกฎหมายเงินช่วยเหลือจำนวน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพิ่มการทดสอบและกระจายวัคซีนให้ถึงประชาชน แต่ร่างกฎหมายดังกล่าวก็ถูกคัดค้านจากฝ่ายรีพับลิกันตรงประเด็นราคาวัคซีนที่ตั้งไว้สูงกว่าราคาจำหน่าย และรวมมาตรการบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการควบคุมไวรัส

ไบเดน ยังเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้น เราไม่สามารถจัดการเรื่องวุ่นๆได้เพียงชั่วข้ามคืน แต่อาจใช้เวลาเป็นเดือนในการแก้ไข ขอกล่าวแบบชัดๆว่า เรากำลังจะผ่านพ้นเรื่องนี้ไป เราจะเอาชนะการระบาดใหญ่นี้ให้ได้

ทั้งนี้ สหรัฐฯเผชิญการระบาดที่คร่าชีวิตไปแล้ว 420,000 คน และขณะนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อกว่าวันละ 170,000 ราย และการระบาดส่งผลทำให้หลายล้านคนต้องว่างงาน