วันที่ 18 มกราคม 2564 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี หมายเลขดำอ.3032/62 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสิรภพ กรณ์อรุษ เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นเบื้องสูง ตามมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14

จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 7 พฤศจิกายน 2552 – 30 มิถุนายน 2557 จำเลยซึ่งใช้นามแฝง รุ่งศิลา ได้เขียนบทความ คำกลอน และภาพการ์ตูนล้อเลียนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ต่างๆ หลายครั้งหลายหนซึ่งล้วนเป็นเท็จลงในเว็ปประชาไทย โดยมีเจตนาเพื่อให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพ สักการะ อันเป็นการล่วงละเมิด สถาบันเบื้องสูง เหตุเกิดแขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. และที่อื่นเกี่ยวพันกัน

โดยคดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานเเล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมฯ เป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทหนักสุดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ฯ ซึ่งเป็นบทหนักสุด รวมทุกกระทงแล้วให้จำคุก 6 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือคงจำคุก 4 ปี 6 เดือน ข้อหาอื่นให้ยก

อย่างไรก็ตาม ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า แต่สิรภพถูกคุมขังระหว่างพิจารณามา 4 ปี 11 เดือน จึงไม่ต้องถูกคุมขังอีก

ทั้งนี้ นายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชนและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งเป็นทนายความของคดีสิรภพได้ระบุผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “คดีนักเขียนสิรภพ 112 โจทก์ฟ้องมา 3 กรรม ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง 1 กรรม ลงโทษ 2 กรรม กรรมละ 3 ปี จำเลยนำสืบเป็นประโยชน์ลดโทษ 1/4 เป็นลงโทษจำคุก 4 ปี 6 เดือน จำเลยติดคุกมาตั้งแค่คดีอยู่ศาลทหารเกือบ 5 ปี จึงเป็นการจำคุกเกินกว่าโทษที่ลง ศาลจึงปล่อยตัวจำเลยทันที” 

สำหรับกรณีสิรภพถือเป็นดำเนินคดีที่ยาวนานนับตั้งแต่การรัฐประหารปี 2557 ทำให้การดำเนนคดีกับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเผด็จการทหาร คสช.มีจำนวนมากขึ้น ในจำนวนนี้คือ คดีของสิรภพที่กรณีคดีมาตรา 112 ได้โอนการพิจารณาไปที่ศาลทหาร จากข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน คดีมาตรา 112 ของสิรภพใช้เวลาสืบพยานในศาลทหารเป็นเวลากว่า 5 ปี (ซึ่งถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดี) แต่สืบพยานโจทก์ไปได้แค่ 3 ปาก ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์จะออกคำสั่งในนามหัวหน้าคณะรัฐประหารให้โอนย้ายคดีการเมืองที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมายังศาลพลเรือน ต่อมา ศาลอาญาได้สืบพยานโจทก์และจำเลยรวม 5 ปากเสร็จสิ้นแล้วในวันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2563