ใครสายใคร ? เอ็กซเรย์บัญชี “รอง ผบก.-สว.” เด็กนายเฮ!-ฝ่ากฎเด้งเข้ากรุ ชู “ผกก.” ผู้วิเศษที่พึ่งประชาชน

บัญชีแต่งตั้งรอง ผบก.-สว. คลอดครบทุกหน่วยเย็น 21 ธันวาคมที่ผ่านมา มีผลทันทีวันรุ่งขึ้น ไม่มีเก็บตก ไม่ทดเวลาบาดเจ็บ และไม่มีแก้ไขบัญชีคำสั่งให้วุ่นวายเหมือนที่เคยเห็นในยุคก่อนๆ

โดยปีนี้มีผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกสลับระนาบเดียวกัน กว่า 9,500 ตำแหน่ง

สแกนรายชื่อผู้ที่ได้นั่งเก้าอี้สำคัญ ทำเลทอง น่าสนใจ

อาทิ พ.ต.อ.เอกชัย ลิ้มวุฒิวงศ์ นว. (สบ 4) ตร. นายเวร พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เลื่อนเป็นรอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.ทนงศิลป์ มณีโชติ ผกก.สน.สายไหม อดีตนายตำรวจประจำสำนักงาน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. เป็นรอง ผบก.น.2, พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.ลุมพินี สายตรง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นรอง ผบก.น.6

พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางรัก บุตรเขยคนโต พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. เป็น ผกก.สน.ทองหล่อ, พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผกก.4 บก.ส.3 ที่ทราบกันว่าเป็นสายตรง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็น ผกก.สน.บางรัก, พ.ต.ท.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์ สว.ฝอ. บก.ปส.2 แฟนหนุ่มแพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ ดารา-นางแบบชื่อดัง เลื่อนขึ้นรอง ผกก.ฝอ.5 บก.อก.บช.ก.

พ.ต.ต.นที คุ้มล้วนล้อม สวป.สน.ทองหล่อ อดีตนายตำรวจติดตาม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็น สว.งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร.

ร.ต.อ.ปิติพัฒน์ ศรีธนาอภินันท์ รอง สว.ตม.จว.ตาก ทีมงานโฆษก ตร. ที่ผ่านมาผลงานดี ได้เลื่อนเป็น นว. (สบ 2) ผบช.สอท.

ขณะเดียวกันผู้ที่ฝ่ากฎเหล็กการแต่งตั้ง ถูกย้ายออกนอกพื้นที่

อาทิ พ.ต.อ.พิชิต กอปรกิจงาม ผกก.สน.บางชัน โดนพิษบ่อนการพนันช่วงโควิด-19 เข้ากรุเป็น ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น.

เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.สุธี เสน่ห์ลักษณา ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ โดนพิษ 4 ศพ บ่อนพระราม 3 เข้ากรุเป็น ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น.9

และ พ.ต.อ.วิทวัส แสงสว่างสถิตย์ ผกก.สภ.ทุ่งมน จว.สุรินทร์ เจอพิษอมเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 โดนโยกเข้ากรุ เป็น ผกก.กลุ่มงานตรวจสอบสำนวนคดี บก.กค.ภ.3

ทั้งหมดนี้คือหน้าตาโดยภาพรวมบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายยุค พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 12

หลังบัญชีคลอดเรียบร้อย พล.ต.อ.สุวัฒน์เดินทางไปมอบนโยบายรอง ผบก.-ผกก. ในสังกัด บช.น. ที่ห้องประชุมใหญ่ บช.น. โดยได้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังทุกหน่วย นานถึง 1 ชั่วโมง 24 นาที

พล.ต.อ.สุวัฒน์มอบนโยบายว่า การแต่งตั้งระดับรอง ผบก.-สว. ผู้ที่สมหวังก็ขอแสดงความยินดีด้วย ส่วนผู้ที่ผิดหวังขอเป็นกำลังใจ พูดไว้หลายครั้งว่า เก้าอี้ที่ได้มา เก้าอี้ที่จากไป มันไม่เคยเป็นของเรา เรามาแค่รักษาไว้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อส่งต่อให้คนอื่น แล้วจากไป ซึ่งต้องรักษาให้ดี อย่าให้แปดเปื้อน ให้มีเกียรติ อยู่อย่างสง่างาม และเป็นที่พึ่งของผู้ใต้บังคับบัญชา ของชาวบ้าน

สิ่งที่ ผบ.ตร.เน้นย้ำคือ

“ให้ระมัดระวังการฝ่าฝืนเรื่องอบายมุข บ่อนการพนัน ตู้ม้าไฟฟ้า แรงงานต่างด้าว ยาเสพติด อย่าปล่อยให้ลูกน้องไปมีผลประโยชน์เกี่ยวกับยาเสพติดมีคนมาร้องเรียน นี่เป็นความเสี่ยงในตำแหน่งของท่าน ต้องหาวิธีป้องกันในการเกิดเหตุ ต้องควบคุมดูแล ต่อไปนี้หากมีร้องเรียนเรื่องที่ฝ่าฝืนนโยบายสำคัญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งจเรตำรวจแห่งชาติลงไปตรวจสอบ ขอให้ทุกคนรู้ว่ามีผลตามมาแน่นอน หากพบว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องสมรู้ร่วมคิด ไม่จำเป็นต้องมีนอกหน่วยมาจับ ท่านต้องรับผิดชอบ”

พล.ต.อ.สุวัฒน์บอกอีกว่า เข้าใจว่าอบายมุขเป็นของคู่สังคม ไม่มีใครสามารถทำให้หมดไป หากมนุษย์ยังมีกิเลสอยู่ แต่สิ่งสำคัญ ตำรวจอย่าไปสร้างอบายมุข ขอให้มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ต้องควบคุมให้น้อยที่สุด

ซึ่งคำสั่งที่ผ่านมาได้ให้นโยบายไปชัดเจน ใครเกี่ยวข้องกับเรื่องเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 โรงพักใดถูกจับตู้ม้า ถูกย้ายหมด

เพราะฉะนั้น การบริหารงานตอนนี้ ตนถือคติว่า คนดีต้องได้รับการส่งเสริมยกย่อง แต่คนที่ทำผิดต้องถูกลงโทษ มิฉะนั้นองค์กรก็จะล่มสลาย

ช่วงเดือนเมษายน อย่าคิดว่าไม่มีการแต่งตั้งโยกย้าย นายกรัฐมนตรีพูดกับตนว่า ถ้าจำเป็นต้องทำไม่ต้องลังเล ทำบนพื้นฐานของกฎ กติกา ซึ่งเราประกาศให้ทราบทั่วกันแล้ว

ขอสรรเสริญผู้จะต้องเสียชีวิตไว้ล่วงหน้า ว่าท่านตายอย่างมีคุณค่า ขอให้สบายใจ

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ฝากให้ ผกก.ต้องลงไปดูคนที่ตัวเล็กที่สุดในโรงพัก ไปหาวิธีการสื่อสารกับผู้ใต้บังคับบัญชา รวมถึงครอบครัวด้วย ถือว่าเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของ ผกก. ใครทำไม่ได้มีเรื่อง

ท่านต้องรู้จักตัวตนของผู้ใต้บังคับบัญชา รวมถึงใครที่พร้อมสร้างปัญหาตลอดเวลา ต้องรู้ให้ได้ภายใน 1 สัปดาห์ที่มารับตำแหน่ง และหาวิธีจัดการ

ขณะเดียวกันก็ต้องรู้ว่าใครเป็นคนมีความรู้ความสามารถ เป็นประโยชน์ เป็นคนดี ใช้งานได้

“เรื่องสุดท้ายที่อยากบอก ผกก.โรงพัก ต้องทำตัวเป็นที่พึ่งของลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา สำคัญที่สุดเป็นที่พึ่งของประชาชน เราเป็นอาชีพที่คอลัมนิสต์สนใจเขียนเรื่องของเราโดยเฉพาะ ชาวบ้านสนใจรู้หมดว่าเราย้ายไปไหน เป็นอาชีพที่คนทุกวงการ ยากดีมีจนสนใจว่าเราทำอะไร เราเป็นอาชีพที่ถูกด่าทุกวัน เพราะเขาสนใจเรา และลึกๆ ก็หวังพึ่งเรา ยามเขาเดือดร้อน สิ่งที่เขาคิดได้คือหมอ ตำรวจ ขอให้ตระหนักความสำคัญของเก้าอี้ที่ท่านนั่ง รักษาเกียรติยศศักดิ์ศรี เขาวิจารณ์ความเป็นตำรวจของท่านที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวนี้ ครองตนให้สมกับตำแหน่งที่ท่านครองอยู่ให้ได้ นอกจากเป็นที่พึ่ง ต้องเป็นตัวแบบให้ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน ท่านอาจจะคิดว่าผมคาดหวังว่าท่านเป็นผู้วิเศษ ไม่ใช่ผมคาดหวังคนเดียว ทุกคนก็คาดหวัง คนในประเทศนี้ก็คาดหวัง ท่านสำคัญมากอย่าทำลาย” ผบ.ตร.กล่าว

ทั้งหมดคือโอวาทที่เตือนสติผู้ใต้บังคับบัญชาต้องไปทำหน้าที่เป็นหัวหน้าโรงพักใกล้ชิดกับประชาชน อย่าทำให้ประชาชนผิดหวัง