คนที่โดนล้างสมอง ก็คือคนที่เชื่องมงายในสิ่งเก่าๆ ปกป้องการเมืองแบบเก่าๆ

วงค์ ตาวัน

วงค์ ตาวัน | ปลุกผีค้อน-เคียว

ลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุคสมัยปัจจุบันถือว่าซบเซาไปมากแล้ว หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปเมื่อ 30 ปีก่อน รวมทั้งหลายชาติคอมมิวนิสต์ในยุโรปก็เปลี่ยนแปลงไปสู่รัฐประชาธิปไตย ส่วนจีนที่ยังเป็นชาติคอมมิวนิสต์ยิ่งใหญ่ แต่ในทางเศรษฐกิจก็แปรเปลี่ยนเป็นทุนนิยมเต็มตัวไปแล้ว

คอมมิวนิสต์จึงเป็นเหมือนตำนานการเมืองการปกครองของโลก ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียให้ศึกษา

ในไทยเราเองเคยมีพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มีบทบาทอยู่ไม่น้อย มีกองกำลังอาวุธสู้รบกับรัฐบาลทั่วประเทศ เริ่มเสียงปืนแตกเมื่อปี 2508 ก่อนสงครามจะสิ้นสุดลง เมื่อรัฐบาลไทยใช้นโยบาย 66/2523 ออกมาดับไฟสงคราม เอาการเมืองนำการทหาร เปิดการพูดคุยเจรจา ให้วางปืนกลับมาใช้ชีวิตปกติในเมืองได้

คอมมิวนิสต์เริ่มวางปืนในปี 2523 จนถึงราวปี 2525 ก็ถือว่าจบสิ้น ไม่มีพลพรรคคอมมิวนิสต์หลงเหลืออยู่ในป่าอีกต่อไป

อาจจะยังมีการออกแถลงการณ์ในนามพรรคคอมมิวนิสต์ในช่วงหลังๆ แสดงท่าทีต่างๆ แต่ก็ไม่นับว่ามีบทบาทใดๆ เหลืออยู่อีก

“คอมมิวนิสต์ในไทยก็กลายเป็นอีกตำนานให้เรียนรู้ และเป็นบทเรียนให้กับรัฐบาลเอง ว่าอย่าได้ดำเนินนโยบายผิดๆ จนคนต้องเข้าป่าจับปืนสู้อีก”

แต่มาล่าสุด เกิดการปลุกผีคอมมิวนิสต์ให้หวาดผวากันอีก เนื่องจากการประกาศความเคลื่อนไหวใหม่ของกลุ่มเยาวชนปลดแอกผ่านเฟซบุ๊ก

เปิดสัญลักษณ์ RT ย่อมาจาก RESTART THAILAND

“การออกแบบตัว RT นั่นเอง ที่ตีความกันว่าเหมือนค้อนกับเคียว เท่านั้นแหละก็ยัดข้อหาคอมมิวนิสต์ให้กับม็อบนักเรียน-นักศึกษาในทันที!”

แต่อันที่จริงควรจะเรียกว่าเป็นการปลุกผีคอมมิวนิสต์เสียมากกว่า เพราะคอมมิวนิสต์ทั้งในโลกและในไทยเราเอง ผ่านเลยไปนานแล้ว

อีกทั้งหากตีความสัญลักษณ์ว่าเหมือนค้อนกับเคียว แล้วจะสรุปว่าหมายถึงคอมมิวนิสต์ในทันทีก็ออกจะรวบรัดเกินไป

การมีค้อนกับเคียว จะตีความเป็นเพียงสัญลักษณ์ของคอมมิวนิสต์เท่านั้นได้หรือ

ทั้งที่ชัดเจนว่า ค้อนนั้นย่อมหมายถึงพลังของกรรมกร ส่วนเคียวย่อมหมายถึงพลังของชาวนา

ประเทศไทยนั้นมีกรรมกรผู้ใช้แรงงานอยู่เป็นจำนวนมาก บรรดาโรงงานหรือสหภาพแรงงานก็มักนำเอาค้อนมาใช้เป็นสัญลักษณ์โดยปกติทั่วไปอยู่แล้ว

ส่วนชาวนาก็คือกระดูกสันหลังของประเทศเรา ซึ่งเป็นสังคมเกษตรกรรม ก็เป็นเรื่องปกติอีกที่เคียวมักจะเอามาใช้เป็นโลโก้เกี่ยวกับชาวนา

ถ้าหากเยาวชนปลดแอกต้องการขยายความร่วมมือในการเคลื่อนไหวต่อสู้ครอบคลุมไปถึงกรรมกรและชาวนาก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นชนชั้นล่างที่ทุกข์ยากถูกกดขี่ข่มเหง

เพียงแค่นี้จะรวบรัดยัดข้อหาคอมมิวนิสต์ให้ง่ายๆ ได้หรือ!?

จริงอยู่ขบวนการคอมมิวนิสต์นั้น เปรียบตัวเองว่าเป็นขบวนการของชนชั้นกรรมาชีพ ต้องการสร้างรัฐที่กรรมกรและชาวนาเป็นใหญ่ จึงทำให้สัญลักษณ์หลักของคอมมิวนิสต์ คือค้อนกับเคียวไขว้กัน

แต่หากการเคลื่อนไหวของขบวนการต่อสู้อื่นๆ จะหันมาผนึกกำลังร่วมกับกรรมกรและชาวนา เพียงแค่นี้จะชี้นิ้วตัดสินเลยว่าเป็นคอมมิวนิสต์ได้หรือ

เพราะความเป็นลัทธิคอมมิวนิสต์ ยังมีรายละเอียดเฉพาะอีกมากมาย ที่สำคัญคือ รัฐคอมมิวนิสต์ไม่ใช่รัฐประชาธิปไตย แต่เป็นเผด็จการที่เรียกว่าเผด็จการชนชั้นกรรมมาชีพ หรือรัฐเผด็จการที่มีชนชั้นล่างเป็นผู้กุมอำนาจรัฐ

“ขณะที่การต่อสู้ของนักเรียน-นักศึกษาในวันนี้ เปิดเผยชัดเจนว่าเรียกร้องประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ และเป็นเสรี”

ยังต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อตัดกฎกติกาที่แอบแฝงเพื่อให้คนกลุ่มเดียวผูกขาดอำนาจ โดยต้องการรัฐธรรมนูญที่เปิดกว้าง ให้อำนาจอยู่กับประชาชนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง แอบอิงระบบเลือกตั้งที่เที่ยงธรรม

ม็อบนักเรียน-นักศึกษาไม่ได้เรียกหาระบบเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพแต่อย่างใด ทั้งยังปฏิเสธเผด็จการทหารอย่างชัดแจ้ง เรียกร้องให้ทหารออกไปจากการเมือง เพื่อให้ประเทศนี้ตัดสินอนาคตด้วยการเลือกตั้ง ด้วยเสียงของประชาชนส่วนใหญ่

“ไม่เคยฝักใฝ่เผด็จการไม่ว่าจะขั้วขวาจัดหรือซ้ายจัด”

ขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่า การเคลื่อนไหวของเยาวชนคนรุ่นใหม่ เริ่มมีคนรุ่นอื่นเข้ามาร่วมในการชุมนุมแต่ละครั้งมากขึ้น

มีกลุ่มแรงงานปลดแอก ซึ่งเป็นผู้ใช้แรงงานสายประชาธิปไตย

มีชาวเสื้อแดงหรือ นปช.เข้าร่วมอย่างคึกคัก ซึ่งเป็นคนชนบท ส่วนใหญ่ก็คือชาวนา เกษตรกร ในภาคอีสานและภาคเหนือ

การประกาศยกระดับความร่วมมือของนักเรียน-นักศึกษากับขบวนการแรงงานและชาวนาก็มีพื้นฐานความเป็นมาที่ชัดเจนอยู่แล้ว

เมื่อพูดถึงกรรมกรและชาวนา ก็ไม่ใช่เป็นเพียงทฤษฎีของคอมมิวนิสต์เท่านั้นอย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้ บรรดากองหนุนรัฐบาล เหล่าลิ่วล้อของผู้มีอำนาจในยุคปัจจุบันพยายามจะสร้างเรื่องโจมตีม็อบนักเรียน-นักศึกษามาตลอดว่ามีคนชักใยอยู่เบื้องหลัง เริ่มจากธนาธร-ปิยบุตร ทั้งที่ข้อเท็จจริงปรากฏชัดว่าธนาธรและปิยบุตรกำลังอลหม่านอยู่กับสนามเลือกตั้ง อบจ.

อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ที่แปรตัวเองมาเป็นคณะก้าวหน้า ง่วนอยู่กับการเดินสายไปในพื้นที่ 42 จังหวัดที่คณะก้าวหน้าลงชิงนายก อบจ.และสมาชิกสภา อบจ. จนไม่รู้ว่าจะเอาเวลาไหนมาวางแผนชักใยม็อบนักเรียน-นักศึกษาได้

จากนั้นก็โจมตีต่อไปถึงพรรคเพื่อไทยว่าอยู่เบื้องหลังการชักใยเด็กอีก ซึ่งก็ไม่มีร่องรอยหลักฐานอะไรชัดเจนเลย

“ไปๆ มาๆ ก็โยงไปถึงสหรัฐอเมริกาว่าอยู่เบื้องหลังม็อบคนรุ่นใหม่ในไทย ตามยุทธศาสตร์ชิงความเป็นใหญ่กับจีน”

ขณะที่กล่าวหาสหรัฐเป็นผู้ชักใยอย่างเมามันอยู่นั้น พอเกิดสัญลักษณ์ที่ดูเหมือนค้อนกับเคียว เท่านั้นแหละก็กล่าวหาม็อบเยาวชนอีกว่าเป็นคอมมิวนิสต์

โดยที่คอมมิวนิสต์ในโลกปัจจุบันก็เหลือแค่จีนนั่นแหละ

“ตกลงจะมีสหรัฐหรือจีนกันแน่ที่หนุนหลังม็อบเยาวชนคนรุ่นใหม่ในไทย ซึ่งสหรัฐกับจีนนั้นคือขั้วตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง”

สหรัฐเป็นชาติมหาอำนาจ ที่กำลังโดนประเทศจีนเติบโตขึ้นมาท้าทาย จึงกลายเป็นความขัดแย้งทั้งในทางยุทธศาสตร์การเมืองโลก และทางเศรษฐกิจการค้า

“หรือว่าวันนี้ทั้งสหรัฐและทั้งจีนกำลังแย่งกันเข้ามาชักใยม็อบเยาวชนไทย ซึ่งฟังแล้วน่าปวดหัวพิลึก!!”

แล้วเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่เคยมีมูลความจริงมาพิสูจน์ได้เลยว่า ม็อบนักเรียน-นักศึกษามีใครปั่นหัว มีใครชักใยอยู่

ยิ่งหากรู้จักตัวตนของเด็กรุ่นใหม่ จะรู้ได้เลยว่าชาญฉลาดเกินกว่าใครจะมาล้างสมอง ใครจะมาปั่นหัวได้

ถึงที่สุดแล้ว ผู้นำรัฐบาลเอง กองเชียร์กองหนุนและเหล่าลูกหาบของผู้มีอำนาจน่าจะอับอายขายหน้าตัวเองมากกว่า ที่เผชิญกับเด็กนักเรียน-นักศึกษาที่ฉลาดและรู้มากกว่า

“จึงพยายามกลบเกลื่อนความอับอายขายหน้า ด้วยการสร้างเรื่องกล่าวหาว่ามีนักการเมือง มีพรรคการเมือง ไปจนถึงมีระดับชาติมหาอำนาจชักใยม็อบเยาวชนอยู่”

กล่าวหาไปกล่าวหามา เพียงเพื่อกลบเกลื่อนความอับอายนั้น ก็เลยมั่วไปถึงค้อนเคียวและคอมมิวนิสต์ พาดพิงไปถึงจีนจนได้

ทั้งที่ตามหลักจิตวิทยาง่ายๆ นั้นบอกเอาไว้ว่า การที่เด็กรุ่นใหม่คิดอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา คิดเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมืองไทยให้หลุดพ้นไปจากวังวนเดิมๆ เช่นนี้

“ความคิดพัฒนาก้าวหน้าแปลกใหม่ จะเป็นการโดนล้างสมองไม่ได้เด็ดขาด”

เพราะคนที่โดนล้างสมอง ก็คือคนที่เชื่องมงายในสิ่งเก่าๆ ปกป้องการเมืองแบบเก่าๆ เอารัฐประหารเอาผู้นำทหารมาเป็นนายกฯ คิดแบบยึดติดอยู่กับกรอบเดิมๆ โดยไม่มีเหตุผล ไม่มีหลักความคิดที่แหลมคมใหม่ๆ

ที่โดนล้างสมองจริงๆ นั้นก็คือคนรุ่นเก่าๆ ที่โดนสะกดจิตจนฝังหัวอยู่กับสิ่งล้าหลัง คิดอะไรใหม่ๆ ไม่เป็นนั่นเอง!!