การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ : ทวีปที่สาบสูญ ดีอยู่เพียงสมองท่องกลอนจด

อึกทึกผู้คนและรถแล่น

ดูเนืองแน่นเขม่าควันเข้าหน้า

ประหนึ่งตื่นจากฝันพลันเบิกตา

กูจากมาโดยไร้สิ้นใบแดง

 

[…นิ

จจาวันทองน้องพี่อา1

พี่จำหน้าเนื้อน้องได้ทุกแห่ง

นิจจาใจช่างกระไรมาแปลกแปลง

เอามือคลำแล้วแคลงอยู่คลับคลาย

 

เจ้าลืมนอนซ่อนพุ่มกระทุ่มต่ำ

เอาใบบอนช้อนน้ำที่ไร่ฝ้าย

พี่เคี้ยวหมากเจ้าอยากพี่ยังคาย

แขนซ้ายคอดแล้วเพราะหนุนนอน…]

 

[เสียใจอาลัยขุนช้างเล่า

นิจจาเจ้าหลับกลิ้งอยู่ไกลหมอน

จะเย็นฉ่ำน้ำค้างขจายจร

ใครจะซ้อนผ้าห่มให้ผัวรัก

 

ม่านขาดกลาดขวางอยู่กลางห้อง

สองมือตีอกเพียงอกหัก

จัณฑาลผลาญทำระยำนัก

สะอื้นฮักฮักแล้วเดินมา]

 

[ถึงกลางนอกชานละลานจิต

ตะลึงคิดลังเลดูเคหา

ชำเลืองเยื้องย่างถึงอ่างปลา

ชะโงกหน้ามือช้อนมาชมดู

 

กลมกลมสมอย่างตะละปั้น

บ้างว่ายหันเหวี่ยงหางกระทั่งหู

ถึงกระถางต้นไม้ชายตาดู

เป็นคู่คู่ชูช่ออรชร

 

มะขามโพรงโค้งคดเป็นข้อศอก

ฝักกรอกแห้งเกราะกะเทาะล่อน

จันทน์หอมจันคนาน้องลาจร

มะลิซ้อนซ่อนชู้จงอยู่ดี

 

ลำดวนเอ๋ยจะด่วนไปก่อนแล้ว

เกษแก้วพิกุลยี่สุ่นสี

จะโรยร้างห่างสิ้นกลิ่นมาลี

จำปีเอ๋ยกี่ปีจะมาพบ

 

ที่มีกลิ่นก็จะคลายหายหอม

จะพลอยตรอมหอมสิ้นกลิ่นตระหลบ

ที่มีดอกก็จะวายหายครบ

ที่เหี่ยวซ้ำเศร้าซบสลบไป

 

ที่ต้นน้อยย้อยลูกระย้าดี

ตั้งแต่นี้จะไปชมต้นไม้ใหญ่

จะทิ้งเรือนออกไปร้างอยู่กลางไพร

ยุงร่านริ้นไร้จะตอมกาย

 

รากไม้จะต่างหมอนนอนอนาถ

ดาวดาษจะต่างไต้น่าใจหาย

ลงบันไดใจเจียนจะขาดตาย

น้ำตาตกกระจายพร่างพรายลง…]

 

[พ่อว่ายน้ำเหมือนไม่ทันเข้าหาฝั่ง

ไปเข้าวังจระเข้คะเนหลง

ทางเตียนหรือเวียนเข้าในดง

ต่อจมพงพ่อจึงรู้ว่าผิดทาง

 

นี่พี่จนเสียเพราะผลความสัตย์

เพราะกรรมก่อนกำจัดให้ไกลข้าง

แสนระทมตรมใจร้องไห้พลาง

กลิ้งกลางห้องให้ไม่สมประดี]

 

[เจ้าจากไปใจแม่เด็จขาด

ดังพระกาลผลาญฟาดให้เป็นผี

จะเปล่าใจแม่ไปทุกราตรี

น่าที่แม่จะไข้น้ำใจตาย

 

เจ้าอยู่ด้วยแม่แม่เป็นสุข

เจ้าจากแม่แม่ทุกข์เพียงขวัญหาย

…พลางสรวมสอดกอดแอบไว้แนบกาย

สะอื้นไห้ไม่วายฟายน้ำตา

 

จนจวนน้ำค้างลงพร่างพราย

ปลอบลูกชายพรายน้อยเสน่หา

…เรณูภู่ห้อยพลอยพรายตา

ดังจะพรมกายาให้ยวนใจ

 

จังหรีดหรีดหริ่งระเรื่อยร้อง

เสนาะก้องพิมเวศอยู่หวั่นไหว

ชะนีน้อยห้อยโหยร้องโวยไป…]

คำกวีรี่ไหลดั่งฝนชะ

 

โอ้ หมื่นพันอันแต่ละผู้ท่าน

ครวญอยู่ดังกังวานผ่านอักขระ

สารพัดทุกข์หมองครองภาระ

หนึ่งเพราะผละพรากพลัดวิบัติจร

 

หากขุนแผนแน่นอกยกคำขับ

เพราะใจจับไร่ฝ้ายได้ซุ่มซ่อน

แต่พิมนางร้างเรือนเหมือนสิ้นคอน

เพราะผัวซ้อนสองชายจนหลายใจ

 

จากนวลพิมนิ่มน้อยแสนสร้อยเศร้า

วันหนึ่งเจ้าถูกยื้อตราชื่อใหม่

เป็นวันทองครองบาปพิลาปไป

แม้มีลูกถูกไล่ให้เซซัง

 

อันร้อยกรองกวีที่เล่าเรื่อง

ไฉนเนืองนองหนองเต็มร่องฝั่ง

ไฉนบทรำพันอันโด่งดัง

จึงวางตั้งเหลื่อมอยู่โดยผู้ชาย

 

ว่าแต่อันตัวกูผู้ทรัพย์สิ้น

กระเป๋าวิ่นผินหน้าชนตาข่าย

มีสมองท่องกลอนรอนอนตาย

มีตีนมือหรือคล้ายปล้องไผ่ลำ

 

เพียงกระเดกกระโดกในโลกมืด

กับฟ่ามชืดกายเนื้อเหลือต้อยต่ำ

ตั้งใจออกบ้านมาหางานทำ

สุดท้ายย่ำฝุ่นเตะเขละขละโคลน

 

ดีอยู่เพียงสมองท่องกลอนจด

สิบร้อยบทเรี่ยราดอยู่ผาดโผน

แต่ดังก่อเจดีย์ด้วยขี้โยน

อร่ามโคนเหม็นยอดตลอดปลาย

 

กูจะทำกินใดในโลกกว้าง

พิศดูทางทางมนจนใจหาย

กอดแต่บทกลอนเก่าเข้าแนบกาย

เพียงวุ่นวายวิ่งเต้นเป็นวงกลม

 

มีวงกลมวงใหญ่ขีดไว้รอบ

เป็นเส้นกรอบลอบเร้นแทบเส้นผม

แต่ซ่อนมีดซ่อนดาบพิษอาบคม

กดขี่ข่มตัวกูอยู่นานครัน

 

หรือผิดตั้งแต่กำเนิดเกิดบ้านนอก

แออัดคอกคว้าไขว่จะไต่สวรรค์…

———————————————————————————————————-
1จากเรื่อง ขุนช้างขุนแผน ฉบับวัดเกาะ