หนุ่มเมืองจันท์ | พ่อค้าออนไลน์

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

มีประสบการณ์ “พ่อค้าออนไลน์” มือใหม่มาเล่าให้ฟังครับ

อย่างที่เคยเล่าเมื่อครั้งก่อนว่าผมพิมพ์หนังสือ “เพราะเราก้าวเดิน จึงเกิดทาง” เป็น “ของขวัญปีใหม่”

รู้ว่าช่วงนี้คนไทยเจอมรสุมชีวิตและเศรษฐกิจมากมาย

ต้องการ “ความหวัง”

ผมอยากทำ “หนังสือ” ให้เป็น “ความหวัง”

อ่านแล้วมีพลังและกำลังใจ

ด้วยวิธีคิดง่ายๆ คือ มีเพจ “หนุ่มเมืองจันท์” ที่มีคนติดตามอยู่ประมาณ 160,000 คน

เคยลองโปรโมตขายหนังสือที่พิมพ์กับสำนักพิมพ์มติชนมาแล้ว 2-3 ครั้งก็ขายได้ดีทีเดียว

ครั้งนี้ลองพิมพ์เอง-ขายเอง

กะให้สั่งจองทางออนไลน์ จองเท่าไรพิมพ์เท่านั้น

สต๊อกเป็น 0

และวางขายทางร้านบีทูเอสส่วนหนึ่ง ถือเป็นเงื่อนไขเอ็กซ์คลูซีฟกัน

ระบบการขายออนไลน์ ผมให้ “แพน” ผู้ช่วยของผมเป็นคนจัดการ

เพราะเธอรู้เรื่องเทคโนโลยีดีมาก

เราใช้ระบบการสั่งซื้อของ aris ที่เป็นสตาร์ตอัพของคนไทย

สำนักพิมพ์ KOOB และ The curator เคยใช้มาก่อนแล้ว

แค่พิมพ์ # แล้วระบุจำนวนหนังสือที่ต้องการซื้อลงในช่องความเห็น

จากนั้นระบบก็ทำงานเอง ให้เรากรอกที่อยู่ จ่ายเงิน

ใครที่ต้องการใบกำกับภาษีก็บอกได้

“กร” ของเวิร์คพอยท์แนะนำมานานแล้ว

ผมปล่อยให้ “แพน” จัดการเรื่องระบบ

ทำหน้าที่ที่เขียนประชาสัมพันธ์การขายอย่างเดียว

พอถึงเวลาก็โพสต์…

เราเริ่มขายวันอาทิตย์ตอน 9 โมงเช้า

ผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมง ผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกของแม่ค้าหรือพ่อค้าออนไลน์แล้ว

นึกถึง “จิ๊บ” สมยศ เชาวลิต ของ JIB คอมพิวเตอร์ ตอนที่เขาเล่าเรื่องการเพิ่มปุ่ม “ซื้อ” ให้เว็บไซต์ JIB เมื่อประมาณ 6 ปีก่อน

เป็นก้าวแรกสู่การขายคอมพิวเตอร์ออนไลน์ของเขา

เขาเล่าว่า ตอนดูตัวเลขยอดขายจาก “หลังบ้าน” ของโปรแกรมแล้วมีความสุขมาก

เสียงดังติ๊ง-ติ๊ง เมื่อไรแสดงว่าขายของได้

ร้านค้าทั่วไปพอเย็นหรือค่ำก็ปิดร้าน

จบการขาย

แต่ร้านค้าออนไลน์ ไม่มีเวลาปิดร้านครับ

“จิ๊บ” บอกว่าตอนดึกๆ เลยเที่ยงคืนไปแล้ว ตัวเลขยอดขายก็ยังขยับตลอดเวลา

ดูแล้วมีความสุขจริงๆ

ฟังมาตั้งนานเพิ่งมาเข้าใจในวันนี้

ช่วงแรกๆ ยอดขายขึ้นเร็วมากครับ

แฮ่ม…เร็วจนบวกเลขไม่ทัน

พอตอนดึกๆ หลังเที่ยงคืน แม้ยอดจะช้าลง แต่คนก็ยังสั่งซื้อหนังสือเรื่อยๆ

ก่อนนอนผมดูตัวเลขทีหนึ่ง

พอล้มตัวลงนอน พลิกไปพลิกมา

เอ๊ะ เราลืมเก็บหนังสือนี่นา

เปิดไฟลุกขึ้น

หยิบมือถือขึ้นมาดู

มีคนสั่งซื้อเพิ่มอีกหรือเปล่า

สนุกดีครับ

แต่นอกจากยอดขายที่ขยับตัวขึ้นเรื่อยๆ สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นก็คือ คนที่ซื้อเอ่ยปากชมระบบการขายเยอะมาก

ชมแบบจริงจังด้วย

“ไม่เคยซื้อของแล้วระบบจัดการได้ดีขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ ชอบมากๆ ทำให้อยากสั่งในเล่มต่อไป”

“ตั้งแต่สั่งซื้อออนไลน์มา นี่เป็นประสบการณ์ที่ลื่นไหล พลิ้ว ครบถ้วน อยากได้ใบกำกับภาษีก็ระบุได้ทันที ชำระปุ๊บ การแจ้งเตือนมาอย่างรวดเร็ว”

ฯลฯ

และมีแบบนี้เกือบ 20 ข้อความ

น้องบางคนเข้ามาซื้อ แล้วชมว่าใช้เวลาไม่ถึง 3 นาที เรียบร้อย

ผมรีบโทร.ไปหา “แพน” ทันที ถามว่าทำอะไรกับระบบหรือเปล่า ทำไมคนชมเยอะขนาดนี้

พอฟังคำอธิบายจบ

ผมก็รู้แล้วว่าทำไมคนถึงชม

ส่วนหนึ่งมาจากระบบของ aris ที่เร็วและคล่องมาก

ส่วนหนึ่งมาจากระบบ AI ที่ชื่อ “แพน”

เธอใส่ความเป็นมนุษย์ลงในแชตบอต เขียนข้อความที่ดูเป็นมิตร

ใช้วิธีลัดขั้นตอนบางขั้นตอนทำให้เร็วขึ้นอีกนิด

และที่สำคัญ “ชาร์จ” ลูกค้าเร็วมาก

เห็นใครยังไม่ทำขั้นตอนต่อไปนานแล้วรู้เลยว่ามีปัญหา

ก็เข้าไปถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหม

ทุกครึ่งชั่วโมงจะเข้ามาไล่ดูว่าใครมีปัญหาตรงไหนบ้าง

แล้วรีบเข้ามาดูแล

มิน่า คนชมกันเยอะมาก

ผมนำเรื่องนี้มาเขียนเล่น

เอาข้อความคนที่ชมระบบการขายมาลงเป็นภาพประกอบแล้วเขียนข้อความเล่นๆ

“ถ้าใครสนใจอยากรู้ว่าระบบ aris และ AI ชื่อ “แพน” ดีอย่างไร

ผมแนะนำให้ลองเข้าไปสั่งซื้อหนังสือ “เพราะเราก้าวเดิน จึงเกิดทาง”

ถือเป็นการซื้อ “ความรู้”

แต่ได้ “หนังสือ” ดีๆ แถมมาด้วย

จ่ายแค่ 135 บาทได้ความรู้สำหรับการซื้อหนังสือ 1 เล่ม”

เขียนเล่นขำๆ

ขายของนิดหน่อย

ผมตามดูคนสั่งซื้อไปเรื่อยๆ พักหนึ่งมีคนเขียน #51 ซึ่งหมายถึงสั่งซื้อ 51 เล่ม

ซึ่งตามกติกา เราบอกแล้วว่าถ้าซื้อเกิน 50 ให้โทร.มาหา AI ชื่อ “แพน”

เพราะเราจะให้ราคาพิเศษ ซึ่งถ้าเขียนในระบบของ aris ต้องใช้เวลาเยอะมาก

ผมรีบไลน์ไปให้ “แพน” ชาร์จ

สักพัก “แพน” โทร.กลับมา

คนที่สั่งซื้อล็อตนี้เป็นข้าราชการ เขากำลังศึกษาเรื่องการนำระบบ AI มาใช้

เห็นผมเขียนถึง AI ชื่อ “แพน”

เขาอยากรู้ว่าระบบ AI ที่ดีตอบรับอย่างไร

ก็เลยเขียน #51

ครับ เขาคิดว่า “แพน” คือ AI จริงๆ

อีกคนหนึ่ง มีปัญหาแล้วเข้ามาถาม “แพน” ทางไลน์

คุยไปสักพัก เขาก็ถามขึ้นมา

“ผมกำลังคุยกับบอตหรือคนครับ”

ถาม “แพน” ว่าตอบเขาว่าอย่างไร

เธอตอบว่า “เป็นบอตที่กำลังฝึกเป็นคนค่ะ”

555 ใช้ได้

แต่นึกอีกที หรือว่า “แพน” กำลังบอกผมอ้อมๆ

หนูเป็นคนนะ

ไม่ใช่หุ่นยนต์

อย่าใช้งานหนักเกินไป

แต่ไม่เป็นไร เพราะผมเป็น “หุ่นยนต์”

ฟังแล้วไม่เข้าใจ