เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าจะมองจาก “ราษฎร” ไม่ว่าจะมองจาก “เสื้อเหลือง” หลังสถาน การณ์การเคลื่อนขบวนจากสามย่านไปยังถนนสาทรหน้าสถานเอก อัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย
สถานการณ์ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างสูง และมีท่วงท่า อาการที่ประจันหน้ากันมากยิ่งขึ้น
สังคมสัมผัสได้ในหนังสือของทางราชการที่ว่อนออกไปจากส่วนกลาง สั่งการและกำหนดรายละเอียดของการเคลื่อนไหวผ่านแต่ละเครือข่ายอย่างถี่ยิบ
ตามมาด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งการ บางแห่งก็เป็นการเคลื่อน ขบวนในเวลาราชการ พร้อมกับป้ายผ้าที่ผลิตมาจากฟอนท์เดียวกัน ตามมาด้วยการจัดเวทีเสื้อเหลืองอลังการ
ขณะเดียวกัน องค์กรในแบบไทยภักดีที่รอจังหวะอยู่แล้วก็นัดชุมนุมมวลชน ไม่ว่าจะเป็นที่สวนลุมพินี ไม่ว่าจะเป็นแยกวงเวียนใหญ่ มีมวลชนเข้าร่วมแน่นหนาเป็นลำดับ
เมื่อหันไปมองทางด้านของ”ราษฎร”ก็มิได้ยุติอยู่เพียงสถานเอก อัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยเท่านั้น
ตรงกันข้าม ในวันที่ 29 ตุลาคม ขบวนการสตรีทอาร์ทก็ประเดินจากแยกศาลาแดงด้วยความมั่นใจเป็นอย่างสูงว่าจะเลื้อยยาวไปจนถึงวัดแขกในย่านสีลมอันจอแจ
นี่ย่อมเป็นการแสดงละคร ประสานกับการแสดงดนตรีและการเดินแฟชั่นโชว์ละลานตา
ยิ่งกว่านั้น คณะจุฬาซึ่งสะสมความจัดเจนในการจัดแฟล็ชม็อบ ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ประกาศออกนอกมหาวิทยาลัยครั้งแรกที่แยกปทุมวัน
จากวันพฤหสบดีที่ 29 ตุลาคม ทอดยาวไปยังวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม ภาพของการเคลื่อนไหวของ”บัณฑิตธรรมศาสตร์ของราษฎร”ก็เริ่มขยับเขยื้อนจากบริเวณลานโพธ์ออกไปสนามฟุตบอล
จุดที่ไม่ควรมองข้ามก็คือเป็นการจัดโดย”เหล่าบัณฑิต”
ไม่ว่าจะเป็นที่แยกศาลาแดง ไม่ว่าจะเป็นที่แยกปทุมวัน ไม่ว่าจะเป็นที่ธรรมศาสตร์ล้วนมีความเชื่อมโยง
หากมองจากเบื้องบนลงมายังแต่ละจุดของการเคลื่อนไหวในประเทศไทยก็จะสัมผัสได้ในความแตกต่าง ความขัดแย้งอย่างแจ้งชัดเป็นรูปธรรม
ความขัดแย้งนี้สะท้อนความเห็นต่างในทาง”ความคิด”
เป็นความขัดแย้งที่ยังไม่ยกระดับไปสู่การปะทะ ต่อสู้กัน