4 ผู้ชุมนุม เข้ารับทราบข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีชุมนุมแยกปทุมวัน 16 ต.ค.

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ สน.ปทุมวัน นายกรกช แสงเย็นพันธ์, นางสุวรรณา ตาลเหล็ก, นายชาติชาย แกดํา, นายสิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ พร้อมทนายความ เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในข้อหาเกี่ยวกับพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม บริเวณแยกปทุมวัน

นายกรกชกล่าวว่า วันนี้มารายงานตัวตามหมายเรียกเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่บริเวณแยกปทุมวัน ในวันที่มีการสลายการชุมนุม โดยในวันนั้นตนเป็นผู้เข้าร่วมชุมนุมและผู้จัดการชุมนุมมีการใช้รถปราศรัยเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ซึ่งการชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบและสันติ มีเพียงผู้ชุมนุมมาร่วมชุมนุมบนพื้นผิวถนนโดยสงบยังไม่มีการกระทำรุนแรงอะไรแต่อย่างใด แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ใช้กำลังเข้ามาสลายการชุมนุม

นายกรกชกล่าวอีกว่า ทุกคนที่มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ให้การปฏิเสธทุกข้อหา เพราะรัฐบาลออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯด้วยข้อกำหนดที่ไม่สมเหตุสมผล เช่น กรณีของขบวนเสด็จซึ่งไม่ถือเป็นเหตุร้ายแรงที่จะไปประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เจตนาที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ร้ายแรงฉุกเฉินก็เพื่อต้องการสกัดกั้นการชุมนุมที่เรียกร้องอย่างสงบและสันติให้รัฐบาลออกจากตำแหน่ง ร่างรัฐธรรมนูญและปฏิรูปสถาบัน การชุมนุมที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าไม่มีแกนนำอีกต่อไป ทุกคนเป็นแกนนำ ออกมาชุมนุมด้วยเจตนารมณ์ของตนเองตามข้อเรียกร้องต่างๆ ตั้งแต่ 18 ตุลาคม เป็นต้นมา

เมื่อถามว่า การชุมนุมที่ผ่านมาเรามักจะถูกออกหมายเรียกแต่ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่ถูกออกหมายเรียกมองเรื่องนี้อย่างไร นายกรกชกล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาโดยตลอดตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจ คสช. มีการดำเนินคดีและยัดข้อหาต่างๆ หลายๆ คนที่อยู่ตรงนี้ก็ถูกดำเนินคดีมาตั้งแต่ยุค คสช. เราคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลทำ แต่ไม่ปกติในระบอบประชาธิปไตย

ด้านนางสุวรรณากล่าวว่า พวกเราหลายคนโดนดำเนินคดีตั้งแต่ยุค คสช.มา และมองว่ารัฐบาลเลือกที่จะปฏิบัติทำลายความชอบธรรมคนคิดเห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นการสลายการชุมนุมครั้งล่าสุด คุณเริ่มใช้ความรุนแรงกับเราก่อน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรายังยืนยันจะเข้าร่วมกิจกรรม เราก็ยังคงทำหน้าที่ของเราต่อไป ทั้งผู้เข้าร่วมชุมนุมและคนที่คอยเข้าร่วมกิจกรรมที่ตอนนี้ไม่มีแกนนำแล้ว

นายชาติชายกล่าวว่า ในวันดังกล่าวตนไม่ได้ปราศรัยเลย เป็นแค่ผู้ร่วมชุมนุม อยู่ดีๆ ก็โดนหมายเรียก ซึ่งไม่ทราบว่าหมายที่ออกมาชอบธรรมหรือไม่ เพราะเป็นการหว่านแหโดยที่ไม่สนใจเลยว่าองค์ประกอบความผิดเป็นอย่างไร เหมือนว่าแค่ผู้มีอำนาจที่ออกหมายเขาไม่พอใจ เขาก็ออกหมาย ปัญหาคือคนสั่งการคือใคร คนที่มีอำนาจในการสั่งให้จับผู้ชุมนุม หรือคนที่มีอำนาจสั่งให้ดำเนินคดี เพราะหลักการจริงๆ ในวันนั้น คนที่ไปร่วมชุมนุมหรือแม้แต่ตนที่เข้าร่วมชุมนุม เป็นการชุมนุมอย่างสงบปราศจากอาวุธแล้วมีกฎหมายตามรัฐธรรมนูญคุ้มครองอยู่แล้ว คนที่มีอำนาจเขาต้องการอะไร