วันที่ 21 ตุลาคม 2563 นายจักรพงษ์ แสงมณี กรรมการบริหารและทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ในวันที่22 ตุลาคมหรือวันพรุ่งนี้จะครบกำหนดมาตราการพักชำระหนี้สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19
จนถึงตอนนี้ประชาชนและและผู้ประกอบการรายย่อยยังคงรอความหวังจากรัฐบาลที่จะมีมาตรการเพื่อต่อลมหายใจจากวิกฤตนี้

นับตั้งแต่รัฐบาลออกพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมได้ผ่านสภาตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 หรือเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ได้มีมาตรการหลายอย่างออกมาแต่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์เลยนัก ทั้งการเยียวยาประชาชน เกษตรและผู้ประกอบการ ซึ่งใช้เม็ดเงินหลายแสนล้านบาทก็ไม่สามารถที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นได้

และมาตรการพักชำระหนี้ ที่พอจะช่วยให้ผู้ประกอบการยังคงสามารถที่จะประคองธุรกิจได้ จะสิ้นสุดมาตราการในวันที่ 22 ตุลาคมหรือวันพรุ่งนี้ จะเป็นการโยนภาระกลับไปที่ภาคธุรกิจอีกครั้ง ทั้งๆที่ภารธุรกิจยังไม่มีความสามารถจะผ่อนชำระคืนเงินต้นหรือดอกเบี้ย แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลกลับนิ่งเฉย
ในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ขอเรียนเสนอ 2 มาตรการ
1. ขยายการพักชำระหนี้เงินต้นและ/หรือดอกเบี้ยในรายที่จำเป็นซึ่งเชื่อว่าจะมีเป็นจำนวนมาก
2. รัฐบาลตั้งกองทุน 2 แสนล้านบาท เพื่อนำมาให้ภาคธุรกิจกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) โดยผ่านคณะกรรมการกองทุน จะต่อลมหายใจให้กับภาคธุรกิจควบคู่กับการเร่งฟื้นการบริโภคภายในประเทศ

ไม่แปลกใจที่จะมีประชาชนออกมาขับไล่นายกประยุทธ์ จันทร์โอชาเพราะตลอด6ปีที่ท่านบริหารประเทศมานั้น ได้ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเป็นจำนวนมากและถ้าท่านยังนิ่งเฉยต่อความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจอีก หลังวันที่22 ตุลาคม จะยิ่งมีคนออกมาขับไล่อีกเป็นจำนวนมาก และถ้าใครต้องบาดเจ็บหรือฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจครั้งนี้ อยากทราบว่านายกประยุทธ์ จันทร์โอชาจะเอาอะไรมารับผิดชอบ