พิษโควิดทุบการค้าชายแดนแม่สอด ส่งออก-นำเข้าสินค้าระส่ำต่อเนื่อง คาดปีนี้สูญ 5,000 ล้าน มาตรการตรวจเข้มเชิงรุกทำต้นทุนผู้ประกอบการพุ่ง 20-30% พร้อมชะลอขนส่งสินค้าหนัก เช่น วัสดุเหล็ก ถูกเบรกส่งออก เผยปัญหาลามถึงธุรกิจท่องเที่ยว กรุ๊ปสัมมนายกเลิกห้องพักโรงแรม ชี้ชาวเมียนมาอยู่แม่สอดร่วม 2 หมื่นคน

นายประเสริฐ จึงกิจรุ่งโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกสินค้าชายแดน และผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน อ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากกรณีชาวเมียนมาขับรถส่งของมีเชื้อโควิด-19 ทางจังหวัดจึงออกคำสั่งที่ 2661/2563 เรื่องระงับการเข้า-ออกของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนถาวรจังหวัดตาก โดยให้รถขนส่งสินค้าจอดขนถ่ายใกล้จุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 โดยไม่ให้วิ่งมายังร้านค้า และโกดังใน อ.แม่สอด ผู้ประกอบการต้องจัดหารถและแรงงานไปขนถ่ายสินค้ากันเองที่บริเวณหน้าด่าน

ขณะที่สินค้าส่งออกก็ต้องจอดขนถ่ายกันที่บริเวณใกล้ด่านจังหวัดเมียวดี ซึ่งมีปัญหามาก เนื่องจากผู้นำเข้าฝั่งเมียนมาไม่มีรถบรรทุกมารองรับ และไม่มีรถเครนขนาดใหญ่ช่วยยกสินค้าที่มีน้ำหนัก เช่น วัสดุเหล็ก ทางจังหวัดจึงขอให้ผู้ประกอบการไทยชะลอขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมากไว้ก่อน ขณะที่ค่าบริการของชิปปิ้งในเมียนมาก็เพิ่มถึง 50% ทำให้ต้นทุนโดยรวมเพิ่มขึ้น 20-30%

ส่วนมูลค่าความเสียหายยังประเมินเป็นตัวเลขไม่ได้ แต่ยอดการค้าชายแดนปี 2563 เดิมตั้งไว้ใกล้เคียงกับปี 2562 คือประมาณ 80,000 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขการค้าเดือนมกราคม-กันยายน 2563 อยู่ที่ 57,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้ยอดต่ำกว่าเป้าคาดว่าจะอยู่ได้ประมาณ 70,000-75,000 ล้านบาท หรือเท่ากับหายไป 5,000 ล้านบาท

“ยิ่งช่วงวันแรก 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ประกอบการมีปัญหาวุ่นวายมาก ยิ่งมีข่าวลือว่า แม่สอดจะประกาศล็อกดาวน์ปิดเมือง ห้ามขนส่งสินค้า ก็ยิ่งไปกันใหญ่ จากที่เคยส่งของวันละ 1 คัน ก็เร่งเพิ่มเป็น 2-3 คัน เพื่อดันสินค้าออกไปให้มากที่สุด ทำให้รถบรรทุกออกันที่หน้าด่าน” นายประเสริฐกล่าวและว่า

สำหรับมาตรการของด่านแม่สอดจะไม่ใช้วิธีการเปลี่ยนคนขับเหมือนที่ด่านแม่สาย จ.เชียงราย แต่จะเน้นประสานงานกับทางจังหวัดเมียวดีของเมียนมาตลอดเวลา เพื่อให้ผู้ประกอบการนำเข้าและในเมียนมามีเวลาปรับตัว

“นอกจากการขนส่งสินค้าจะได้รับผลกระทบแล้ว ตอนนี้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะกรุ๊ปสัมมนาที่จะมาแม่สอดก็ขอยกเลิกการจองห้องประชุม ห้องพักกันจำนวนมาก” นายประเสริฐกล่าว

แหล่งข่าวใน อ.แม่สอด จ.ตาก เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้มีการควบคุมการเข้าออกของคน และรถ พร้อมตรวจเชิงรุกค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชนที่มีความเสี่ยง เพราะ อ.แม่สอด มีคนไทย 35,000 คน และมีชาวเมียนมาที่เข้ามาทำงานทั้งถูกกฎหมาย และไม่ถูกกฎหมาย อีกประมาณ 20,000 คน ปัจจุบันก็ยังมีปัญหาลักลอบเข้าไทยตามแนวพรมแดนธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง