ไพรินทร์ มั่นใจ ‘คนละครึ่ง’ ปลุกศก.ไทย ช่วยรายเล็กผ่านวิกฤต

ไพรินทร์ มั่นใจ ‘คนละครึ่ง’ ปลุกศก.ไทย ช่วยรายเล็กผ่านวิกฤต

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานกรรมการในคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการบริหารเศรษฐกิจ ภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติโครงการคนละครึ่ง วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท กำหนดให้สิทธิประชาชน จำนวน 10 ล้านคน ระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 3 เดือน หรือตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563 โดยเชื่อว่า โครงการนี้จะเป็นโครงการที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง เนื่องจากเน้นกลุ่มหาบเร่ แผงลอย เป็นหลัก และไม่ใช้นโยบายแจกเงินอย่างที่แล้วมา  โดยครั้งนี้จะมีการโอนเงินให้ผู้รับสิทธิครั้งละ 100-150 บาท ซึ่งมีข้อกำหนดว่าจะต้องใช้วันต่อวันเท่านั้น ถ้าไม่ใช้ตามที่กำหนดก็จะมีระบบดึงเงินดังกล่าวคืนเข้าระบบต่อไป

“โครงการคนละครึ่งถือเป็นอีกโครงการหนึ่ง ที่ออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี โดยมองว่าหากเราสามารถช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการรายเล็กเหล่านี้ได้ จะเป็นแรงส่งทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) สามารถรอดผ่านวิกฤตเศษฐกิจครั้งนี้ไปได้เช่นกัน เพราะว่าตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 กลุ่มที่โดนกระทบก่อนคือกลุ่มฐานราก แต่ถ้าโครงการดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จจะยิ่งส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยดิ่งลงลึกเข้าไปอีก” นายไพรินทร์ กล่าว

นายไพรินทร์ กล่าวว่า หากมาตรการที่รัฐออกมาไม่สามารถฟื้นเศรษฐกิจกลับมาได้ จะสอดคล้องกับการคาดการณ์ของธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ ที่ประเมินว่าตัวเลขเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 2563 จะติดลบอยู่ที่ 8-10% ซึ่งถือว่าเป็นการติดลบมากที่สุดในอาเซียน และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยถดถอยไปกว่า 3 ปี แต่เชื่อว่าโครงการที่รัฐบาลอนุมัติไปล่าสุดจะช่วยประคองให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ ติดลบ 8%

ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องที่รัฐต้องเร่งพิจารณาคือเรื่องการเปิดประเทศ เนื่องจากตอนนี้หลายประเทศเริ่มมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวแล้ว หากไทยยังไม่รีบดำเนินการจะยิ่งล้าหลังประเทศในกลุ่มอาเซียนมากขึ้น โดยมองว่า หลายฝ่ายต้องเปลี่ยนความคิดหากมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวยังมีหลายขั้นตอนและคุมเข้มเหมือนปัจจุบันนี้ จะยิ่งเป็นการสร้างกำแพงให้ต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยได้ยากมากขึ้นอีกด้วย รวมถึงต้องสร้างความเข้าใจให้กับคนในประเทศในเรื่องของมาตรการควบคุมโรคของไทย เพราะการที่ไทยไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มานาน พอจะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาจึงเกิดความกังวล แต่จากการที่กระทรวงสาธารณสุขเคยออกมาให้ข้อมูลว่าสามารถรองรับผู้ป่วยได้ไม่เกิน 200 คนต่อวัน นั้น มองว่าเป็นเครื่องยืนยันได้แล้วว่าประเทศไทยสามารถคุมโควิด-19 อยู่ จึงอยากให้หลายฝ่ายคลายกังวลในเรื่องนี้