เรื่องสั้น | เราคือเอ็กซ์ในอินฟินิตี้ (จบ)

ร่างกลุ่มก๊าซควันพวยพุ่งเอื้อมอีกมือมากุมอีกมือของชายหนุ่มจากโลก เมื่อสองมือถูกเกาะกุมไว้โดยร่างกลุ่มก๊าซควันพวยพุ่งนี้ท่ามกลางอวกาศ ชายหนุ่มจากโลกไม่ได้สงสัยว่าตนเองอยู่ในสภาวะใดอีกต่อไปแล้ว มีแต่รอคอยว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นต่อไป เสียงจากร่างกลุ่มก๊าซควันพวยพุ่งผุดขึ้นอีกในใจของชายหนุ่ม

“มาเถอะ ฉันจะแสดงการปรับเปลี่ยนแปลงร่างของชีวิตให้เธอรู้โดยย่อเวลานับล้านล้านล้านปีให้เธอสัมผัสเพียงชั่วครู่ เธอจะได้รู้ว่าเราคือ เอ็กซ์ในอินฟินิตี้”

ฉับพลันนั้น ชายหนุ่มจากโลกก็รู้สึกวูบร่างหดเล็กลง

และแล้วเขาก็พบว่าตนเองอยู่ในมหาสมุทรแห่งโลกดึกดำบรรพ์และตนเองคือสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวแหวกว่ายปะปนกับสิ่งมีชีวิตแบบเดียวกันร่างอื่นๆ

และวูบต่อมาเขาก็พบตนเองกลายเป็นพืชชั้นต่ำชนิดหนึ่งในมหาสมุทรแห่งโลกดึกดำบรรพ์อีกเช่นกัน แต่เพียงแค่วูบเดียวเขาก็รู้สึกตนเองเป็นสัตว์ที่คล้ายแมงดาทะเลตัวเขื่องอยู่ในทะเลโบราณของดาวโลก

แล้วเพียงวูบเดียวเขาก็พบตนเองกลายเป็นสัตว์คล้ายกุ้ง เป็นกุ้งอยู่เพียงชั่ววูบ เขาก็วาบกลายเป็นปู เดินคลานอยู่ก้นทะเลแห่งยุคดึกดำบรรพ์ที่ดาวโลก

ฉับพลันต่อมา เขาก็พบว่าตนเองกลายเป็นปลายุคโบราณแหวกว่ายในมหาสมุทร งับกินสัตว์น้ำเล็กๆ อย่างชีวิตรื่นรมย์

แต่แล้วเพียงแวบเดียว เขาก็พบว่าตนเองเป็นแมลงร่างเป็นปล้อง คลานซอกซอนตามกอหญ้าอยู่บนพื้นดินแห่งโลกโบราณ

แล้วครู่ต่อมาแมลงตัวนั้นก็ถูกคางคกยักษ์ตัวหนึ่งตวัดลิ้นยาวมาฉกมันเข้าท้องไป ทันใดนั้นเขาก็พบว่าตนเองกลายเป็นคางคกยักษ์นั่น แต่ก็เป็นเพียงชั่วครู่ เขาก็พบว่าตนเองกลายเป็นจระเข้ยักษ์ ย่างคลานเดินล่าหากินอยู่ริมน้ำบึงใหญ่มโหฬาร

เพียงแวบเดียวเขาก็พบว่าตนเองกลายเป็นไดโนเสาร์กินพืชตัวใหญ่คอยาว หากินอยู่กับฝูงใกล้ริมน้ำแหล่งใหญ่ แต่ชั่ววูบเดียวเขาก็กลายเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อเดินย่างก้าวไปในป่าทึบล่าไล่จับไดโนเสาร์ที่กินพืชเป็นอาหาร

และแล้วเพียงชั่ววาบเดียวเขาก็รู้สึกว่าตนเองกลับกลายเป็นสัตว์คล้ายหนู อาศัยอยู่ในโพรงใต้ซอกหลืบหิน เขามีลูกน้อยด้วยสี่ตัวที่เพิ่งเกิดไม่นาน เมียของเขากำลังนอนขดให้ลูกทั้งสี่ตัวดูดนม

และเพียงชั่วกะพริบตา เขาก็พบตนเองกลับกลายเป็นมนุษย์วานร ขนยาวปกคลุมร่างเปลือยเปล่า แขนยาวห้อยลงมาเลยเข่า เพิ่งปีนลงจากต้นไม้ใหญ่มาเดินหลังโก่งเล็กน้อยอยู่กลางทุ่งใกล้ป่าโปร่ง ฝูงเพื่อนมนุษย์วานรหากินอยู่บนท้องทุ่งไม่ห่างจากเขาไปเท่าไหร่นัก

แต่เพียงวูบเดียวเขาก็พบตนเองกำลังล่าไล่ควายป่าด้วยหอกซัดที่ปลายหัวหอกทำด้วยหินคม เขากลายเป็นมนุษย์นุ่งห่มคลุมร่างด้วยหนังสัตว์ มือข้างหนึ่งพุ่งหอกออกไปข้างหน้า หัวหอกนั้นทำด้วยหินทุบเป็นแนวยาวแหลม อีกมือหนึ่งกำท่อนกระดูกสัตว์ที่ทุบแต่งปลายข้างหนึ่งจนแหลมคม

แต่วูบต่อมาเขาพบว่าตนเองกลายเป็นชาวนาโบราณกำลังหว่านพืชลงบนแปลงเพาะปลูก เขายังนุ่งห่มด้วยหนังสัตว์คลุมอยู่ภายนอก แต่ข้างใต้หนังสัตว์นั้นเขาสวมคลุมชุดที่ทอหยาบๆ จากเส้นใยพืช ใกล้แปลงเพาะปลูกของเขาคือกระท่อมที่สร้างด้วยดินโคลนตากแห้งผสมด้วยเศษหญ้าฟางโดยมีกิ่งท่อนไม้ใหญ่ๆ เป็นโครงสร้าง

ทว่าเพียงวูบต่อมา เขาพบว่าตนเองกลายเป็นชายคนหนึ่งกำลังตีเหล็กทำดาบ เขาอยู่ในเมืองที่มีกำแพงสูงสร้างด้วยอิฐก่ออย่างแข็งแรง ผู้คนพลุกพล่านเดินกันไปมา มีคนขี่ม้า ขี่ลา ขี่รถสองล้อลากเทียมด้วยม้าหรือลา บรรทุกสิ่งของนำมาขายในเมือง

แต่แล้ววูบเดียวเขาก็พบว่าตนเองเป็นฝีพายอยู่ในเรือลำใหญ่กลางทะเล เขาเป็นหนึ่งในฝีพายนับร้อยคนที่อยู่ใต้พื้นท้องเรือ เรือลำใหญ่มีใบใหญ่สำหรับกินลมแต่ก็ยังต้องอาศัยแรงฝีพายเพื่อทะยานโต้คลื่นทะเล และแล้วเพียงชั่วพริบตา เขาก็พบตนเองเป็นคนงานสร้างทางรถไฟที่กำลังสร้างเส้นทางตัดผ่านป่าสนกว้างใหญ่ พื้นดินคลุมด้วยหิมะขาว

วูบต่อมาเขาพบตนเองเป็นชาวเมืองใหญ่ ดูเหมือนจะเป็นนักธุรกิจกำลังเดินทางไปทำงานด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินในมหานครที่สับสนวุ่นวาย

วูบต่อมาเขาพบตนเองเป็นมนุษย์อวกาศกำลังอยู่ในยานอวกาศไททันโคลสเซอร์ นั่นคือเขากำลังเป็นตัวเขาที่เขาเคยเป็นมา

แต่แล้ววูบต่อมาเขาพบว่าตนเองอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งเป็นเหมือนสถานีอวกาศขนาดยักษ์ สถานที่แห่งนี้ใหญ่โตมากมีลักษณะเป็นวงแหวนขนาดใหญ่ลอยเคว้งหมุนคว้างรอบแกนกลางของตัวมันเองอยู่กลางอวกาศ ข้างในเต็มไปด้วยตึกรามบ้านเรือนเรียงรายถนนหนทาง ยานพาหนะแล่นสวนกันไปมาอย่างเป็นระเบียบ

และแล้ววูบต่อมาเขาก็พบตนเองเป็นตัวตนที่แปลกออกไปอย่างสิ้นเชิงจากที่เคยเป็นตัวตนต่างๆ มาสารพัด คราวนี้เขาพบว่าตนเองเป็นมนุษย์ที่มีพลังจิต สามารถรู้ไปทุกสิ่งแค่นึกอยากจะรู้ เขาพบตนเองสามารถเหาะเหินไปได้เหนือพื้นดวงดาวต่างๆ ด้วยเพียงพลังจากร่างกายธรรมดา ในสำนึกนั้นเขาได้รับรู้ว่านี่คือมนุษย์ในขั้นที่เรียกว่ายุคอภิมนุษย์

ทว่าวูบต่อมาเขาพบว่าตนเองกลายเป็นสิ่งมีชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง เขาพบว่าตนเองยังคงมีความคิด ความรู้สึก แต่ไร้รูปกายไปแล้ว เป็นยุคที่มนุษย์มีเพียงแค่จิตเท่านั้นที่ยังดำรงอยู่ เป็นภาวะจิตที่รู้ทุกสิ่งอย่างครอบคลุมไปทั่ว

แต่เพียงวูบต่อมาชายหนุ่มจากโลกก็รู้สึกร่างกายกลับคืนมาและร่างยืดขยายขึ้น แล้วเขาก็มาลอยอยู่ต่อหน้าร่างกลุ่มก๊าซควันพวยพุ่งเช่นเดิม ตอนนี้เองที่ชายหนุ่มจากโลกบังเกิดความกระจ่างแจ้งอย่างน่าประหลาดในห้วงคำนึงของเขา

เขาได้เข้าใจในความเปลี่ยนแปลงไปต่างๆ นานาของสิ่งมีชีวิต ซึ่งทั้งหลายล้วนเสมือนเป็นสายธารใหญ่อันเดียวกัน ความเปลี่ยนแปลงทั้งหลายนั้นล้วนบังเกิดมาจากความปรารถนา เป็นความปรารถนาที่จะมีตัวตนคงอยู่ ปรารถนาที่จะมีชีวิตต่อเนื่องไป สืบเนื่องความเป็นสิ่งมีชีวิตไปอย่างไม่ขาดสายนั่นเอง มันเริ่มขึ้นเมื่อแร่ธาตุต่างๆ ผสมผสานกัน และพบการผนวกผสานคร่ำเคี่ยวของแรงบีบคั้นจากธรรมชาติที่เกิดขึ้นบนดาวโลก จนเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตขั้นต้น สิ่งมีชีวิตทั้งหลายอยู่ท่ามกลางความบีบคั้นด้านต่างๆ ของสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตพยายามปรับตนเองให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม บังเกิดความปรารถนาอยากเปลี่ยนตนเองในด้านที่ยังไม่เข้ากับสิ่งแวดล้อมเพื่อจะให้ตนเองเหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม จนเวลาผ่านไปสิ่งมีชีวิตสะสมความปรารถนาการปรับเปลี่ยนตนเองอยู่ในจิตสำนึกและจิตใต้สำนึกจากสิ่งมีชีวิตรุ่นแล้วรุ่นเล่าจนฝังลึกเป็นรหัสในดีเอ็นเอ ความปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างของสิ่งมีชีวิตต่างๆ นั้นฝังแน่นในดีเอ็นเอของสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ต่างๆ จนเวลาผ่านไป สิ่งมีชีวิตถ่ายทอดความปรารถนานั้นไปในรุ่นสู่รุ่น ร่างกายสิ่งมีชีวิตเริ่มปรับเปลี่ยนไปตามความปรารถนาที่สะสมอยู่ในดีเอ็นเอ ส่งผ่านเจตจำนงซึ่งฝังอยู่ในดีเอ็นเอที่จะเปลี่ยนแปลงพัฒนาเผ่าพันธุ์ของตนให้เหมาะสมที่จะมีชีวิตโดยปลอดภัย อย่างสะดวกสบายและอยู่รอดให้ได้ในดาวโลก ร่างกายของสัตว์นั้นจะค่อยๆ เปลี่ยนไปตามความต้องการในจิตใจของมันเพื่อที่จะได้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่มันอยู่อาศัย เวลาผ่านไปอีก สิ่งมีชีวิตที่ปรับเปลี่ยนตามแรงปรารถนาที่ฝังลึกในดีเอ็นเอมีชีวิตอยู่รอดจากแรงบีบคั้นของสภาพแวดล้อม ขณะเดียวกันก็เริ่มถ่ายทอดลักษณะที่ปรับเปลี่ยนไปนั้นสู่สิ่งมีชีวิตรุ่นต่อๆ ไป ส่วนพวกใดที่ได้เปลี่ยนแปลงมาแล้วแต่ทว่าต่อมากลับไม่เคยที่จะมีสำนึกของแรงปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงอีก ก็จะไม่สามารถทนอยู่ได้ในความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของดาวโลก สิ่งมีชีวิตพวกนั้นก็จะล้มตายสูญพันธุ์ไปนับเป็นรุ่นแล้วรุ่นเล่า

นี่คือลักษณะที่สิ่งมีชีวิตมีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงไป เป็นลักษณะของการกลายพันธุ์ในทุกช่วงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต นี่คือสิ่งที่เขากระจ่างแจ้ง

และแล้วร่างกลุ่มก๊าซควันพวยพุ่งก็กล่าวขึ้นในห้วงคิดของชายหนุ่มจากโลกอีกครา

“ฉันเผยให้เธอเห็นว่าในกาลต่อไป มนุษย์จะเปลี่ยนไปเช่นไร เธอคงเห็นแล้วว่า ต่อไปมนุษย์จะแผ่ไปสู่ดาวอื่นที่ไกลออกไปแสนไกล แล้วมนุษย์หลายส่วนจะมีการใช้ชีวิตกันในอวกาศ เขาจะอาศัยกันอยู่ในเมืองขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ในอวกาศ แล้วต่อไปจากนี้อีกหลายพันปี มนุษย์จะวิวัฒนาการตนเองจนเป็นสิ่งที่มนุษย์เรียกตนเองว่าอภิมนุษย์ แล้วต่อจากนั้นอีกหลายหมื่นปี อภิมนุษย์จะพัฒนาตนจนเข้าสู่การเป็นจิตที่ไม่ต้องอาศัยอยู่กับร่างกายอีกต่อไป”

“นี่คือเส้นทางต่อไปของความเป็นมนุษย์หรือ” ชายหนุ่มจากโลกเอ่ยถามขึ้นในห้วงคิด

“มันคือเส้นทางที่ความปรารถนาของเหล่ามนุษย์ผลักดันให้บังเกิดขึ้นและดำเนินไป” ร่างกลุ่มก๊าซควันพวยพุ่งตอบมาในห้วงคิดของชายหนุ่มจากโลก

“แล้วคุณเล่า คุณบอกว่าคุณคือเรา เราคือคุณ แล้วคุณคือเราในแบบที่เป็นจิตโดยไม่ต้องอาศัยร่างกายแล้ว ใช่ไหม”

“ฉันเป็นเธอ แต่ฉันก็พัฒนาไปมากกว่าที่เราได้บอกเธอไป ฉันเป็นจิต เป็นชีวิตแห่งจิตในขั้นอภิจิต ฉันเดินทางข้ามจักรวาลอยู่ตลอดเวลา เดินทางข้ามกาลเวลาอยู่เสมอ เดินทางข้ามมิติเป็นครั้งคราว ฉันสำรวจตรวจตรา ฉันดูแลความต่อเนื่องเป็นไป”

“โอ้ หมายความคุณคือพระเจ้า ใช่ไหม”

“ฉันบอกไปแล้ว ฉันคือเธอ เพียงแต่พัฒนามาก่อนเธอ”

ชายหนุ่มจากโลกซึ่งร่างเปลือยเปล่าลอยอยู่กลางอวกาศตระหนักอีกครั้งว่าตอนนี้เขาคงตายไปแล้วอย่างแน่นอน วิญญาณของเขากำลังสนทนากับวิญญาณที่ยิ่งใหญ่แห่งจักรวาล

“ยังหรอก เธอยังไม่ได้ตาย” ร่างกลุ่มก๊าซควันพวยพุ่งบอกมา เหมือนว่ารู้ทุกสิ่งว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไร

“แล้วตอนนี้ ผมจะเป็นอย่างไรต่อไป” เขาถามขึ้นในห้วงคิด

“ฉันบังเอิญมาพบเธอ และช่วยเธอก้าวข้ามความตาย เธอไม่ได้ตาย แต่ตอนนี้เธอก็มีชีวิตในรูปแบบพิเศษ เพื่อให้เธอจะไม่ต้องเผชิญกับความว่างเปล่าของการที่ยังคงมีชีวิตอยู่ ฉันจะมอบหน้าที่ให้เธอ เธอจะยังคงมีชีวิตในรูปแบบพิเศษ เธอจะเกือบเป็นอมตะ”

ชายหนุ่มจากโลกนิ่งฟังสิ่งที่จะเกิดกับตนเอง รู้แน่แล้วว่าตนเองยังไม่ได้ตาย แต่เขากลับไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไร เขาจะกลายเป็นสิ่งใดกัน แต่เขาตระหนักได้ในที่สุดว่าตอนนี้ชีวิตไม่ใช่ของเขาแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ตาย แต่เขาก็คงไม่ได้กลับบ้านอีกเช่นเดิม เพราะเพื่อนร่วมยานไททันโคลสเซอร์ รวมถึงศูนย์บังคับการที่โลก ก็คงลงความเห็นกันถ้วนทั่วไปแล้วว่าชายหนุ่มคงไม่รอดไปจากเคราะห์ร้ายกลางอวกาศอย่างแน่นอน ดังนั้น ก็เท่ากับว่า ชีวิตเก่าที่เขาเคยมีมานั้น เสมือนกับได้ตายไปแล้ว

และเขาคงต้องตกลงปลงใจยอมรับกับการต้องมีชีวิตใหม่ เป็นชีวิตใหม่ที่เขาเองก็ยังไม่รู้ว่ามันจะคืออะไร จะเป็นไปในแบบไหนกันแน่

ร่างกลุ่มก๊าซควันพวยพุ่งซึ่งเป็นชีวิตอภิจิตยกส่วนที่ดูเป็นแขนแตะลงที่ศีรษะของชายหนุ่มจากโลก

ทันใดนั้นทั้งร่างของชายหนุ่มจากโลกก็แปรเปลี่ยนเป็นทรงกลมเรืองแสงขนาดใหญ่เท่าตัวคน เป็นทรงกลมที่มีคลื่นพลังงานหมุนวนอยู่ในทรงกลมเรืองแสงนั้น และแล้วร่างกลุ่มก๊าซควันพวยพุ่งชีวิตอภิจิตก็จับทรงกลมเรืองแสงที่อัดแน่นด้วยคลื่นพลังงานหมุนวนภายใน ซึ่งเคยเป็นร่างของมนุษย์คนหนึ่ง ดันแทรกเข้าไปในร่างกลุ่มก๊าซของชีวิตอภิจิตของตนเอง เหมือนตั้งใจจะหลอมรวมให้เป็นร่างเดียวกัน

แต่แล้วชั่วอึดใจต่อมา ก็มีร่างกลุ่มก๊าซควันพวยพุ่งอีกร่างหนึ่งแยกร่างออกมาลอยตัวเป็นร่างที่มีลักษณะเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน และแล้วเสียงจากร่างกลุ่มก๊าซควันพวยพุ่งร่างเดิมก็ดังขึ้นในห้วงรับรู้ของร่างกลุ่มก๊าซควันพวยพุ่งร่างใหม่ที่เพิ่งแยกตัวออกมา “เธอจะได้เรียนรู้ไปพร้อมกับฉัน โดยเป็นอิสระจากฉัน”

จากนั้นร่างกลุ่มก๊าซควันพวยพุ่งทั้งสองก็ลอยละลิ่วพุ่งตามกันไป มุ่งออกสู่นอกระบบสุริยะ