รายงานพิเศษ / ‘แอร์บูล’ ฝ่าอาถรรพ์ทัพฟ้า สู่ ‘นภา 1’ ‘บิ๊กอุ้ย’ นิ่ง จ่อ ‘นาวี 1’ หมาก 2 ชั้น ‘บิ๊กแดง’ ส่ง ‘บิ๊กอ๊อบ’ ตามรอย ‘บิ๊กแก้ว’ ‘บิ๊กหน่อย’ เสธ.ทบ.สู่ปลัด กห.

รายงานพิเศษ

 

‘แอร์บูล’ ฝ่าอาถรรพ์ทัพฟ้า

สู่ ‘นภา 1’

‘บิ๊กอุ้ย’ นิ่ง จ่อ ‘นาวี 1’

หมาก 2 ชั้น ‘บิ๊กแดง’

ส่ง ‘บิ๊กอ๊อบ’ ตามรอย ‘บิ๊กแก้ว’

‘บิ๊กหน่อย’ เสธ.ทบ.สู่ปลัด กห.

 

ตราบใดที่ยังไม่มีโปรดเกล้าฯ โผทหารลงมา ตราบนั้น กระแสข่าวลือต่างๆ ก็จะสะพัดอย่างต่อเนื่อง ข่าวแล้วข่าวเล่า

พร้อมทั้งความพยายามและความเคลื่อนไหวให้มีการปรับเปลี่ยนรายชื่อในบางตำแหน่ง

โดยเฉพาะที่ทุ่งดอนเมือง ที่เคยสงบเงียบมาหลายปี กลับฟื้นคืน กลายเป็นทุ่งอาถรรพ์ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งอีกครั้ง

เมื่อบิ๊กนัต พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ. เสนอชื่อบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. เป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ ท่ามกลางความฮือฮา ไม่ใช่แค่ใน ทอ. แต่ทั้งกองทัพ และทั้งประเทศ

จากที่ทหารในกองทัพเองต่างไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ แต่ในที่สุด เมื่อมีการตรวจสอบวงในกันแล้วว่าเป็นจริงตามที่มีข่าวออกมา

ปฏิบัติการต่อต้าน “แอร์บูล” ก็เกิดขึ้น

ที่ทำให้ได้เห็นว่า ลูกทัพฟ้าก็เดินเกมกันแรงไม่เบา และทุ่งดอนเมืองยังคงอาถรรพ์ มีความขัดแย้งเกิดขึ้นได้เสมอ

 

ตั้งแต่ยุคบิ๊กเต้ พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล และบิ๊กอู๊ด พล.อ.อ.วรนารถ อภิจารี เพื่อนร่วมรุ่นนายเรืออากาศ (นนอ.) 01 ที่แบ่งขั้วชิงอำนาจกันจนต้องแบ่งข้างกันทั้ง ทอ. แบบว่า ใครเข้าบ้านบิ๊กเต้ ก็ห้ามเข้าบ้านบิ๊กอู๊ด มาแล้ว

ก่อนที่จะมาถึงปัญหาความขัดแย้ง จนเรียกว่า “เกาเหลา ทอ.” ในนายทหารอากาศ นนอ.05

ที่เริ่มตั้งแต่ยุคบิ๊กหม่อม พล.อ.อ.ม.ร.ว.ศิริพงษ์ ทองใหญ่ ผบ.ทอ. ต่อด้วย พล.อ.อ.อมร แนวมาลี เป็น ผบ.ทอ. ตอนนั้นมีชิงกันเข้มข้น ทั้งบิ๊กถ่าง พล.อ.อ.ธำรงค์ เจริญรัชต์ และ พล.อ.อ.ธนนิตย์ เนียมทันต์ แต่ที่สุด พล.อ.อ.ธนนิตย์ได้เป็น ผบ.ทอ. นั่ง 2 ปี

ก่อนที่ต่อมา พล.อ.อ.ธนนิตย์ได้ย้ายสลับตำแหน่ง บิ๊กแก้ว พล.อ.อ.ธีรศิลป์ คัมภีรญาณนนท์ และบิ๊กแต๋ง พล.อ.อ.อำพล อินทรไทยวงศ์ และบิ๊กแดง พล.อ.อ.อุดมศักดิ์ มหาวสุ เพื่อนร่วมรุ่น นนอ.05 จนนำมาซึ่งความขัดแย้งอย่างหนัก

จนในที่สุด ในการโยกย้าย พล.อ.อ.ธนนิตย์ก็เลือก พล.อ.อ.สนั่น ทั่วทิพย์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. กลายเป็นตาอยู่ ได้เป็น ผบ.ทอ.มาแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่ได้มาจาก 5 เสืออากาศ

แต่ก็ถือว่า ประวัติศาสตร์ ทอ. เคยมีผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. เป็น ผบ.ทอ.มาแล้ว ดังนั้น พล.อ.อ.แอร์บูลจึงไม่ใช่คนแรก แต่ทว่านำมาซึ่งความขัดแย้งใน ทอ.ให้ปะทุขึ้นอีกครั้ง

ด้วยเพราะครั้งนี้มีแคนดิเดตที่อยู่ในตำแหน่งหลักหลายคน แถมมีเพื่อนพี่น้อง กองเชียร์ของแต่ละคน

โดยเฉพาะบรรดาอดีตบิ๊ก ทอ.ต่างไม่พอใจต่อการที่ พล.อ.อ.มานัตเสนอชื่อ พล.อ.อ.แอร์บูล แม้จะรู้กันดีว่ามีเหตุผลพิเศษ

แต่ก็มีการต่อสายถึง พล.อ.อ.มานัต เพื่อคัดค้านและตักเตือน แนะนำบางคน ถึงขั้นโทรศัพท์หารือกับบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม

บางคนก็สอบถามไปยังบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แสดงความไม่เห็นด้วยที่มีการเสนอชื่อบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล เป็น ผบ.ทอ.คนใหม่

เพราะมีนายทหารอากาศที่มีความสามารถ และความเหมาะสมที่เป็นแคนดิเดต ผบ.ทอ.อยู่แล้วหลายคน

 

พล.อ.ประยุทธ์จึงหารือกับ พล.อ.อ.มานัตอีกครั้ง ขอให้มีการพิจารณาทบทวนเปลี่ยนตัว ผบ.ทอ.ได้หรือไม่ เพื่อลดความขัดแย้ง และการพาดพิงเชื่อมโยงระดับสูง

แต่ พล.อ.อ.มานัตยังคงยืนยันในเหตุผลต่างๆ เช่นเดิม

แม้แต่เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 20 ก็ยังตำหนิ พล.อ.อ.มานัตที่ไม่เสนอชื่อบิ๊กจ้อ พล.อ.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ผช.ผบ.ทอ. เพื่อนร่วมรุ่น ที่มีความเหมาะสมในทุกด้าน

งานนี้ พล.อ.อ.มานัตเจอแรงกดดันในทุกทิศทาง แต่ด้วยความแข็งแกร่ง และยึดมั่นในเหตุผล ในหลักการ 6 ประการ 10Q และการตัดสินใจของตนเอง เขาจึงยืนหยัดเช่นเดิม

จนมีเสียงจากตึกไทยคู่ฟ้าว่า ดื้อมาก จน พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องนิ่ง เพราะก็รู้ดีว่ามีเหตุผลใดบ้างที่ พล.อ.อ.มานัตต้องเสนอชื่อ พล.อ.อ.แอร์บูล

แม้แต่บ้านป่ารอยต่อฯ ของ พล.อ.ประวิตร ก็ยังมีเสียงวิจารณ์ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า พล.อ.อ.ธรินทร์เป็นน้องชายของบิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี อดีต เสธ.ทอ. ที่เป็นเพื่อน ตท.6 ของ พล.อ.ประวิตร ที่ทำให้ใน ทอ.เชื่อกันมาตั้งแต่ต้นว่า บิ๊กจ้อเป็นเต็งหนึ่ง ผบ.ทอ.

 

จึงไม่แปลกเมื่อมีความเคลื่อนไหวให้เปลี่ยนตัว ผบ.ทอ.คนใหม่ จึงมีชื่อบิ๊กตั้ว พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ วัฒนวรางกูร (ตท.21) หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา มาแรงแซงขึ้นมา เพราะเป็นน้องรักสาย ทอ.ของ พล.อ.ประวิตร

ไม่แค่นั้น ยังมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์สนับสนุนบิ๊กต่วย พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ต่ายทอง (ตท.21) เสธ.ทอ. ให้เป็น ผบ.ทอ. เพราะชอบนิสัยใจคอ และได้ทำงานร่วมกันในช่วงที่ผ่านมา เพราะ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์มักเป็นตัวแทน ทอ.มาประชุมกับนายกฯ เสมอๆ

ประกอบกับการที่ พล.อ.อ.มานัตนำโผโยกย้าย ทอ.จากที่ส่งกลาโหมมานานแล้ว กลับไปแก้ไขเมื่อ 27 สิงหาคม 2563 แล้วนำโผรายชื่อกลับมาส่งให้บิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ในวันประชุมสภากลาโหม 31 สิงหาคมที่ผ่านมา

พร้อมๆ กับกระแสข่าวการแก้ไขโผ ทอ. และตามมาด้วยข่าวลือการเปลี่ยนตัว ผบ.ทอ.คนใหม่ จาก พล.อ.อ.แอร์บูล เป็น พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ตามที่นายกฯ ต้องการบ้าง หรือเปลี่ยนเป็น พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ตามแรงหนุนของ พล.อ.ประวิตรบ้าง

กระแสข่าวลือนี้ทำให้ ทอ.กลับมาคึกคักอีกครา และลุ้นกันอีกครั้งว่า ใครจะกลายเป็น “ตาอยู่”

 

แต่ที่สุดแล้ว ทั้งหมดก็เป็นแค่กระแสข่าวที่เกิดจากความพยายามและความเคลื่อนไหวในกองทัพอากาศที่ต่อต้าน พล.อ.อ.แอร์บูลเท่านั้น

เพราะมีข่าวว่า พล.อ.อ.มานัตนำโผ ทอ.กลับมาแก้ไขจริง และแก้ไขในระดับ 5 เสืออากาศ แต่ไม่ได้แก้ไข ผบ.ทอ.คนใหม่ ยังคงเป็นชื่อ พล.อ.อ.แอร์บูล

แต่น่าจับตาว่า หลังการประชุมสภากลาโหมวันนั้น พล.อ.ประวิตรพี่ใหญ่ ร่วมปิดห้องหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม ในการแก้โผทหารใหม่ และทำขั้นตอนธุรการ

ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่าโผทหารเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนทางธุรการเพื่อเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ

ท่ามกลางกระแสข่าวลือสะพัดว่า ได้มีการเปลี่ยนตัว พล.อ.อ.แอร์บูลแล้ว

บ้างก็ว่า มีการใช้สูตรวิน-วิน คือให้ พล.อ.อ.ธรินทร์น้องชายเพื่อนบิ๊กป้อม เป็น ผบ.ทอ.ก่อน 1 ปี และต่อด้วย พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์น้องรักบิ๊กป้อม ที่เกษียณ 2565 เป็น ผบ.ทอ.ต่อ

เพราะหาก พล.อ.ประยุทธ์ให้ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ที่เกษียณ 2565 เป็น ผบ.ทอ. ก็จะปิดโอกาสทั้ง พล.อ.อ.ธรินทร์ที่เกษียณ 2564 และ พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์เกษียณ 2565

 

แต่ทั้งหมดก็เป็นแค่กระแสข่าวลือเท่านั้น เพราะ พล.อ.อ.มานัตไม่ได้แก้ชื่อ พล.อ.อ.แอร์บูล ยังคงเสนอเป็น ผบ.ทอ.เช่นเดิม แต่ขยับ 5 เสืออากาศใหม่เท่านั้น

โดยมีชื่อนี้มาแรง “บิ๊กสีห์” พล.อ.ท.สุรสีห์ สิมะเศรษฐ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน (ผบ.อย.) ที่เป็นนายทหารคอแดงแห่งกองทัพอากาศ (ตท.21) อดีต ผบ.ฝูง 401 ตาคลี นครสวรรค์ อดีตผู้การกองบิน 41 และอดีตผู้ช่วยทูตทหารอากาศ ประจำเวียงจันทน์ และเป็นนักบิน F-5E, L39 มี Callsign ว่า “Shadow” ขึ้นมาเป็น ผช.ผบ.ทอ.

แต่กระนั้นก็ตาม นายทหารใน ทอ.ก็ยังเชื่อกันอยู่ว่า มีการแก้โผ ทอ.แล้วจริง และลุ้นกันอยู่จนกว่าโผจะออกว่า เสืออากาศคนใดจะกลายเป็นตาอยู่

 

เช่นเดียวกับกองทัพเรือ ที่ก็ยังคงลุ้นกันตัวโก่งว่า ในที่สุดแล้วใครจะเป็น ผบ.ทร.คนใหม่

ถึงแม้จะมีรายงานข่าวยืนยันว่า บิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. เสนอชื่อบิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน (ตท.20) ผช.ผบ.ทร. ขึ้นเป็น ผบ.ทร.คนใหม่ก็ตาม

แต่ก็เป็นเรื่องน่าแปลกที่นายทหารเรือส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นไปในแนวทางเดียวกันว่า ในที่สุดแล้ว ชื่อ ผบ.ทร.คนใหม่ ก็ต้องออกมาเป็นบิ๊กช่อ พล.ร.อ.ช่อฉัตร กระเทศ รอง ผบ.ทร.

เพราะล้วนเชื่อในสายสัมพันธ์พิเศษของ พล.ร.อ.ช่อฉัตร รวมทั้งอาวุโส เพราะเป็นรุ่นพี่ ตท.19 และครองอัตราพลเอกพิเศษ

จนนายทหารเรือทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องต่างเข้าหา พล.ร.อ.ช่อฉัตรกันแล้ว แต่เจ้าตัวยังคงนิ่ง ยังไม่ยอมให้มีการจัดงานแสดงความยินดีอะไร

เพราะมีความเชื่อมั่นในตัว พล.ร.อ.ช่อฉัตรที่มีประวัติไม่ธรรมดา จึงทำให้กระแสข่าวลือใน ทร.ยังคงเป็นชื่อบิ๊กช่อ ว่าจะเป็น ผบ.ทร.คนใหม่

 

ขณะที่ฝ่าย พล.ร.อ.ชาติชายนั้นไม่ค่อยได้มีใครเข้าหา เพราะทหารเรือส่วนใหญ่เชื่อว่าจะไม่ได้เป็น ผบ.ทร. แต่จะเป็นบิ๊กช่อ

จนถึงขั้นที่บิ๊กทหารเรือหลายคนพูดตรงกันว่า แม้ พล.ร.อ.ลือชัยจะเสนอชื่อ พล.ร.อ.ชาติชายก็ตาม แต่ถึงอย่างไรชื่อ ผบ.ทร.คนใหม่ก็ต้องออกมาเป็น พล.ร.อ.ช่อฉัตร

แม้จนตอนนี้ ชื่อที่ พล.ร.อ.ลือชัยเสนอในที่ประชุม 7 เสือกลาโหม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธาน ก็ยังคงเป็นชื่อของ พล.ร.อ.ชาติชาย

ทหารเรือจึงลุ้นกันจนประกาศโผเลยทีเดียว!!

 

แต่โผทหารนี้ไม่ใช่ฮือฮากันแค่ ทร. ทอ. แต่ ทบ.ก็มีเรื่องที่ถูกวิจารณ์และจับตามองอย่างมาก

เมื่อนายทหารดาวรุ่ง ทบ. อย่างรองอ๊อบ พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองแม่ทัพภาคที่ 1 ถูกเตะออกจากกองทัพภาคที่ 1 ให้ข้ามมา บก.ทบ. เป็นรองเสนาธิการทหารบก ออกนอกไลน์สายคุมกำลัง

จากเดิมที่ พล.ต.ทรงวิทย์ชิงเก้าอี้แม่ทัพภาคที่ 1 กับบิ๊กต่อ พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพน้อยที่ 1 จนมีข่าวสะพัดที่สะเทือนความเป็นพี่น้องอยู่บ้าง

แต่เมื่อ พล.ท.เจริญชัยเป็นรุ่นพี่ ตท.23 และอาวุโสกว่า เพราะติดยศพลโทก่อนแล้ว ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เข้าไลน์สู่เก้าอี้ห้าเสือ ทบ. และ ผบ.ทบ.ในอนาคต

พล.ต.ทรงวิทย์ก็ถูกส่งตัวพ้นหน่วยคุมกำลัง แต่ให้มาเป็นพลโทเอาไว้ก่อน

ถ้ามองในแง่บวก สำหรับ พล.ต.ทรงวิทย์ก็รอลุ้นได้ว่า ในการโยกย้ายปลายปีหน้า ในยุคที่บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ เป็น ผบ.ทบ.นั้น พล.ต.ทรงวิทย์อาจจะข้ามกลับไปเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก็เป็นได้ เพราะในอดีต พล.อ.ประวิตร และบิ๊กหมู พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ก็เคยถูกเตะออกจากกองทัพภาคที่ 1 มาอยู่ บก.ทบ. แล้วก็ได้กลับไปเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 จนเข้าไลน์เป็น ผบ.ทบ.มาแล้ว

เพราะรู้กันดีว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์นั้นแฮปปี้กับ พล.ต.ทรงวิทย์ ตั้งแต่ทำงานที่ชายแดนใต้ด้วยกัน จนเกิดกระแสข่าวว่าหนุน พล.ต.ทรงวิทย์เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในโผนี้เลย ถ้าเลือกได้

แต่ทว่าคนตัดสินใจยังคงเป็นบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. และ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ที่ตัองยึดหลักอาวุโสมาก่อน

อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ได้วางตัว พล.ท.เจริญชัย น้องรักสายทหารเสือราชินี ที่โตมาจาก ร.21 รอ.ด้วยกัน ให้เป็น ผบ.ทบ.ต่อจาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ที่จะนั่งยาว 3 ปี เกษียณกันยายน 2566 โดย พล.ท.เจริญชัยเกษียณกันยายน 2567

พล.ท.เจริญชัยก็เป็นนายทหารคอแดง และเป็นรอง ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ที่สามารถจะเป็น ผบ.ทบ.ได้อยู่แล้ว

ส่วน พล.ต.ทรงวิทย์นั้น ถ้าได้กลับเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก็ลุ้นเป็น ผบ.ทบ.ได้ เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2568. สามารถเป็นต่อจาก พล.ท.เจริญชัยก็ได้

แต่มีข่าวสะพัดใน ทบ.ว่า พล.อ.อภิรัชต์เล็งที่จะให้ พล.ต.ทรงวิทย์แยกไปเติบโตที่กองทัพไทย เดินตามรอยบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ (ตท.21) เสนาธิการทหาร ที่จะขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด และเกษียณ 2566

เรียกได้ว่า แยกกันโต ให้ พล.ท.เจริญชัยโตใน ทบ. ส่วน พล.ต.ทรงวิทย์แยกไป บก.ทัพไทย จ่อเป็น ผบ.ทหารสูงสุดในอนาคต

 

ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตกันว่า เส้นทางชีวิตรับราชการของ พล.ต.ทรงวิทย์ต้องเจอทางเบี่ยง เพราะจบนอก จากโรงเรียนนายร้อย VMI สหรัฐอเมริกาหรือไม่

เพราะใน ทบ.ยังคงมีม่านประเพณีที่ยังไม่ยอมให้ทหารที่จบต่างประเทศขึ้นเป็น ผบ.ทบ. แม้ว่า พล.ต.ทรงวิทย์จะจบ นร.เตรียมทหาร รุ่น 24 และเป็นทั้งผู้พัน ผู้การ และผู้บัญชาการกองพล โดยเฉพาะ ผบ.พล.1 รอ.มาแล้วก็ตาม

จนเกิดความเชื่อใหม่ในกองทัพบกว่าการเป็น “ทหารคอแดง” ของ พล.ต.ทรงวิทย์ น่าจะทำให้เส้นทางรับราชการใน ทบ.ฉลุย ฝ่าม่านประเพณีขึ้นถึง ทบ.1 นั่ง ผบ.ทบ.ได้ก็ตาม

แต่แล้วก็ต้องถูกโยกพ้นเส้นทางสายเหล็ก เข้ากองทัพบก นั่งเป็นรอง เสธ.ทบ.ก่อน

และ พล.ต.ทรงวิทย์อาจถูกวางตัวให้เดินในเส้นทางสู่เสือป่าแจ้งวัฒนะ แต่ทว่า ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะก็มีกระแสต้านคนนอกมาตั้งแต่ยุค พล.อ.เฉลิมพล ที่ พล.อ.อภิรัชต์ส่งข้ามมาจาก ทบ. เพื่อให้นายทหารคอแดงมาคุมกองทัพไทย และมาเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ที่เคยทำให้นายทหารในกองทัพไทยต้องหมดโอกาสที่จะขึ้นถึงเสือป่า 1 มาแล้วหลายคน

อีกทั้งบิ๊กกบ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุดคนปัจจุบัน ก็ได้วางตัวนายทหารหลายคนให้เตรียมจองคิวขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุดแล้ว ทั้ง พล.ท.นที วงศ์อิศเรส เจ้ากรมข่าวทหาร บิ๊กจ่อย พล.ท.ธิติชัย เทียนทอง เจ้ากรมยุทธการทหาร

ไม่แค่นั้น ยังมีกระแสข่าว “สัญญาใจ” ระหว่าง พล.อ.พรพิพัฒน์ และ พล.อ.เฉลิมพล ที่ว่าจะนั่งเป็น ผบ.ทหารสูงสุดแค่ 2 ปี และจะข้ามไปเป็นปลัดกลาโหม เพื่อเปิดทางให้บิ๊กไก่ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด 1 ปีก่อนที่จะเกษียณ

เพราะที่กระทรวงกลาโหมนั้น พล.อ.ณัฐจะเกษียณกันยายน 2564 และคาดว่าจะมีการดันบิ๊กหน่อย พล.ท.วรเกียรติ รัตนานนท์ รอง เสธ.ทบ. เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 20 ที่ในโผนี้จะขึ้นเป็น พล.อ. เสนาธิการทหารบก ให้ข้ามไปเป็นปลัดกลาโหมในโยกย้ายตุลาคม 2564 และนั่งเป็นปลัดกลาโหมแค่ปีเดียวก่อนต่อด้วย พล.อ.เฉลิมพลนั่นเอง

จึงเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่งว่า พล.ต.ทรงวิทย์จะสามารถข้ามไปโตที่กองทัพไทยแบบสะดวกราบรื่น หรือว่าต้องเจอความท้าทาย

หรืออาจจะได้ลุ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และจอชิง ผบ.ทบ.ในอนาคตตามเดิมก็เป็นได้ เพราะนี่อาจจะเป็นแค่ทางเบี่ยงเพื่อรอเวลา และปัจจัยที่พร้อมเปลี่ยนแปลงได้เสมอก็เป็นได้

   เพราะกองทัพบกไม่ได้มีแค่ ผบ.ทบ. รมว.กลาโหม หรือนายกฯ เท่านั้น

 


กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2