หลังเลนส์ในดงลึก / ปริญญากร วรวรรณ /’8 โมงเช้า’

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
วัวแดง- วัวแดงตัวผู้โตเต็มวัย เมื่ออาวุโสขึ้น สีตามลำตัวจะคล้ำมากขึ้น

หลังเลนส์ในดงลึก/ปริญญากร วรวรรณ

‘8 โมงเช้า’

 

มีสิ่งหนึ่งซึ่งผมกระทำเสมอเวลาอยู่ในป่า คือร่วมเข้าแถวเคารพธงชาติเวลา 8 โมงเช้ากับเจ้าหน้าที่ในหน่วยพิทักษ์ป่า รวมทั้งในช่วงเวลาหลายปีในสถานีวิจัยสัตว์ป่า

มองตามธงชาติค่อยๆ ไต่ขึ้นสู่ยอดเสา ฟังเสียงร้องเพลงชาติที่ทุกคนร้องเต็มเสียง

ฟังเสียงกล่าวปฏิญาณที่จะปกป้องชีวิตสัตว์ป่าด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น

ก่อนแยกย้ายไปกินข้าวเช้าและทำงาน

ผมแหงนหน้ามองธงชาติสีซีดๆ ปลิวสะบัดตามลม ใต้ท้องฟ้าสีครามเข้ม

ผมเห็นคนจำนวนหนึ่งอยู่ในป่า ห่างไกลจากที่จากมา

แต่ไม่ไกลจากร่มเงาของธงชาติไทย…

 

ทุกๆ วันหากไม่มีภารกิจที่ต้องค้างแรมในป่า เราจะมารวมตัวกันบริเวณหน้าสำนักงานเวลา 8 โมงเช้า

หลายคนหน้าตายู่ยี่ กระหืดกระหอบ หน้าตายังไม่ได้ล้าง บางคนหวีผมเรียบแปล้ กลิ่นแป้งหอมคลุ้ง

เสียงจากวิทยุธานินทร์รายงานข่าวจากรายการข่าวจากสถานีวิทยุ อสมท เราได้ฟังเรื่องราวจากทั่วประเทศและทั่วโลก

เสียงเฮฮาเกิดขึ้นจากการกระเซ้าเย้าแหย่

ไม่ก็เพราะได้ยินผลการแข่งขันฟุตบอลต่างประเทศ

ส่วนใหญ่เป็นสาวกผี ไม่ก็หงส์ มีบ้างบางคนเหนียวแน่นกับปืนใหญ่ ไก่เดือยทอง กับสาลิกา นั่นมีบ้าง

8 โมงเช้า วิทยุถ่ายทอดเสียงเพลงชาติ ทุกคนร้องตาม สองคนออกไปทำหน้าที่เชิญธงสู่ยอดเสา

เพลงจบ หัวหน้าก้าวเท้าไปข้างหน้า สั่งงานและแจ้งข้อความต่างๆ

ช่วงเวลาฝนตกชุกอย่างสม่ำเสมอกำลังจะผ่านไป ทุกทีมในสถานีอยู่ครบ งานวางกล้องดักถ่ายเพื่อสำรวจประชากรเสือโคร่งยังไม่เริ่ม

ท้องฟ้าสีครามเข้ม แสงแดดสาดส่อง คนหลายคนเดินเรียงแถวกลับบ้านพัก ชะนีหลายกลุ่มส่งเสียงโต้ตอบจากทางทิศโน้นทิศนี้

ลานหน้าสำนักงานจะเงียบเหงาไปทั้งวัน มีเพียงเสียงวิทยุสื่อสารดังแว่วๆ

วันรุ่งขึ้นนั่นแหละที่นี่จะคึกคักอีกครั้ง ธงชาติจะถูกดึงลงในตอนเย็น โดยใครสักคนที่เล่นตะกร้อที่สนามใกล้ๆ

ผมเดินมุ่งหน้าไปโรงครัว หันมองธงชาติที่ปลิวไสวอีกครั้ง

อยู่ในป่าทึบ ดูเหมือนได้ทำบางอย่าง ทำสิ่งที่ครั้งอยู่ในเมืองไม่ได้ทำ

 

ในช่วงฤดูฝน ขณะเดินป่า เราหลีกไม่พ้นกับทาก พวกมันชูตัวสลอน และแทรกตัวเข้าไปดูดเลือดเราได้เสมอ แต่ใช่ว่าในฤดูฝนเราจะหลีกเลี่ยงเห็บไปพ้น เราอยู่กับพื้นที่ซึ่งเป็นป่าเบญจพรรณ มีป่าดิบแล้งบ้าง แต่ส่วนใหญ่เมื่อขึ้นสันเขามักเป็นป่าเต็งรัง

หลายครั้งเราเลือกไม่ได้ว่าจะไปทางไหน เพราะภารกิจของเราคือติดตามเสือ และมันจะเป็นผู้กำหนด

เสือนำเราเข้าไปในป่าดิบเขาสักเท่าไหร่ ดังนั้น แม้จะอยู่ในช่วงฝนตกชุก ป่าชื้นแฉะ เราก็ไม่ต้องกังวลกับทากนัก

กระนั้นก็เถอะ หลายคนยินดีพบกับทากมากกว่าผจญกับเห็บ

เห็บลมตัวเล็กๆ มองแทบไม่เห็น ฝังตามตัว กัดแล้วเป็นจุดแดงๆ และคัน

พวกมันมีชุกชุม ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน

“อาจเพราะหน้าแล้งที่ผ่านมา ไฟไม่เยอะ ครับ ปีนี้เห็บเลยเยอะ” หัวหน้าสถานีให้ข้อสังเกต…

 

ไฟป่าดูร้ายแรงสร้างความเสียหายมาก

แต่ในป่าเต็งรังไม่เสียหายมากนักหรอก เปลือกแข็งๆ ของต้นไม้ในป่านี้ทนทานไฟได้ในระดับหนึ่ง

เมื่อไฟผ่านพ้น ก็เป็นเวลาของสัตว์ป่า แมลงจำนวนมากที่สร้างความรำคาญถูกกำจัด หลายชนิดบินหนีไฟขึ้นที่สูงก็หลีกไม่พ้นกับการโฉบจิกจากนกหลายชนิด

ฝูงวัวแดงชื่นชมกับขี้เถ้า พวกมันมาคลุกขี้เถ้าเล่น

มีผู้ได้ผลประโยชน์จากกองขี้เถ้าเสมอ

 

ไม่นาน ไม่เกินสองสัปดาห์หลังไฟผ่านพ้น หญ้าเขียวๆ ที่เรียกว่าระบัดเริ่มงอก บางวันสายฝนโปรย

นี่คืออาหารของเหล่าสัตว์ป่า วัวแดง, กระทิง, เก้ง, กวาง พวกมันวนเวียนอยู่ในทุ่งหญ้า ช้างจะมาถึงเมื่อระบัดสูงพอที่ช้างจะใช้งวงม้วนดึงหญ้าเข้าปากได้

มีสัตว์กินพืชมาชุมนุม สัตว์ผู้ล่าก็ตามมา

ซากสัตว์กินพืชตายเพราะคมเขี้ยวปรากฏให้เห็น นั่นบอกให้รู้ว่า ในที่สมบูรณ์ ในที่มีชีวิต ความตายที่เกิดขึ้น คล้ายเป็นเรื่องธรรมดา…

 

บางปีไม่มีไฟป่า ว่าตามจริง บางปีเราไม่พบกับฤดูแล้งจริงจัง ตั้งแต่สายลมหนาวจากไป สายฝนก็เข้าครอบคลุมตลอด รอยตีนสัตว์ป่าเหยียบย่ำไปทั่ว โดยเฉพาะตามด่านที่เป็นทางเชื่อมระหว่างโป่ง

สัตว์ป่ารู้ดีว่า ช่วงเวลาใดต้องไปที่ไหน พวกมันรู้ดีว่า แหล่งอาหารต่างๆ สมบูรณ์ เหมาะสมเวลาใด

พวกมันเดินข้ามสันเขาเพื่อไปยังอีกหุบเขา และเลือกเส้นทางที่ชัน ลื่นไถลน้อยที่สุด หรือในที่ชันๆ ลื่นๆ สัตว์ป่าก็สัญจรไปได้

หลายครั้งขณะปีนป่ายไปตามทางลื่นชัน ต้องใช้สองมือช่วย ผมเห็นรอยช้าง รอยกระทิงเดินไปล่วงหน้า ดูคล้ายกับเส้นทางลื่นๆ ไม่ใช่ปัญหาของพวกมันแต่อย่างใด

ดูจะตอกย้ำถึงความด้อยกว่าของผมอย่างแท้จริง…

 

8โมงเช้า คนในหน่วยพิทักษ์ป่ามารวมตัวกัน ทุกคนอยู่ในชุดลายพรางป่าไม้ โพกหัว ทะมัดทะแมง

เสียงเพลงชาติไทยดังขึ้น พร้อมกับธงชาติไทยค่อยๆ ไต่ขึ้นสู่ยอดเสา

ผมละสายตาจากธงชาติใต้ท้องฟ้าคราม มองคนที่กำลังเปล่งเสียงร้องเพลงชาติ

น้ำเสียงหนักแน่น แววตามุ่งมั่น

อยู่ในป่าทึบ ผม “เห็น” และ “เข้าใจ” ความหมายของบางสิ่งได้มากกว่าครั้งที่อยู่ในเมือง…

กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2
ลงทะเบียนเข้างานฟรี มีต้นไม้แจกด้วยนะ (จำนวนจำกัด)