“บิ๊กตู่”ประกาศต่อหน้าทูต”ไม่โอเค”คดี”บอส”ลั่นต้องการความโปร่งใส ยันเกาะติดไม่ปล่อยแน่

“บิ๊กตู่”ประกาศต่อหน้าทูต”ไม่โอเค”คดี”บอส”ลั่นต้องการความโปร่งใส ยืนยันเกาะติดไม่ปล่อยแน่

เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ห้องวิภาวดี บอลรูม โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กทม.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานกล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ Bangkok Post Forum 2020 : “พลิกฟื้นประเทศไทย: ก้าวต่อไปอย่างมั่นคง” โดยมีนักธุรกิจ และคณะทูตานุทูต เข้าร่วมฟังว่า ตนเข้ามาพยายามแก้ปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ มีผลงานปรากฏมากอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด การปราบปรามการค้ามนุษย์ และการหลอกลวง รวมถึความผิดต่างๆมีสถิติการทำงานอยู่ทุกเดือน โดยสั่งให้ทุกคนต้องรายงานขึ้นมา ฉะนั้นอะไรที่ดูแล้วไม่น่าจะดียังไม่ดี ตนก็กำชับไปยังหัวหน้าหน่วยงานในหลายหน่วยงาน ตนทำได้เพียงแต่ต้นทาง ในฐานะที่ดูแลตำรวจให้เป็นตำรวจที่ประชาชนเชื่อมั่น ซึ่งยังมีปัญหาอยู่เยอะ เพราะนั่นคือมนุษย์คือคนมันมีทั้งคนดี คนไม่ดี มีผลประโยชน์และไม่มีผลประโยชน์ แต่ทำอย่างไรจะทำสิ่งเหล่านี้ให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งอยู่ที่ตัวเราเองทุกคน ทุกท่านรู้ตัวว่าทำดีหรือไม่ดี

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องที่กำลังเป็นประเด็นใหญ่ที่สังคมให้ความสนใจ คือเรื่อง บอส กระทิงแดง กรณีนี้แสดงให้เราเห็นได้ชัดเจนถึงความสาคัญของสื่อที่มีต่อ สังคมไทย และนั่นคือเหตุผลที่ตนเชื่อว่า ในประเทศไทย สื่อต้องมีความเป็นอิสระ และมีวามแข็งแรง ต้องมีจรรยาบรรณ สื่อคือฐานันดรที่ 4 ต้องมีหลายๆอย่าง ต้องวางตัวเป็นกลาง เสนอข่าวที่เป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่ายเรื่องนี้ ท้าทายระบบยุติธรรมและระบบกฏหมาย และกระทบต่อความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อระบบรัฐทั้งหมด

“ผมจึงขอแสดงจุดยืนของผม ในเรื่องบอสกระทิงแดง ว่า “ผมไม่โอเค” กับหลายเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน ผมต้องการให้มีความโปร่งใส ผมจะผลักดัน และผมจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ผมพร้อมที่จะดำเนินการ หลังจากเห็นข้อสรุปของคณะกรรมการที่ผมตั้งขึ้น ซึ่งมีความเป็นอิสระ และประกอบไปด้วยผู้ที่เป็นที่ยอมรับของสังคม ทั้งในเรื่องความรู้และความเป็นกลาง และพร้อมที่จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และกฎหมายที่มีอยู่ คดีนี้ถือเป็นคดีได้อีกหลายแสนหลายล้านคดีในประเทศไทยเป็นคดีที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะไม่ต้องการให้ทุกอย่างสร้างความไม่เชื่อมั่นต่อไป”นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ตนพูดมาทั้งหมดเพื่อให้เห็นบทบาทนายกรัฐมนตรีว่าอยู่ตรงไหน ถ้าให้ลงไปข้างล่างคงเป็นไปไม่ได้ แต่ตนสามารถติดตามกำกับดูแลประเมินผลจากบนลงล่าง หาคำตอบมา

จากนั้น นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กล่าวถึงคดีบอสในระหว่างปาฐกถาที่มีทูตานุร่วมฟังว่า “ผมควรจะพูดในส่วนของผม เพราะต้องการสร้างความเช้าใจกับต่างประเทศเขา มันควรจะมาจากระบบกฎหมายไทยไม่ดีกว่าหรือ อะไรที่มันผิด มันบกพร่องก็ควรแก้ไป คดีมันมีตั้งเป็นแสนคดี ไม่อย่างนั้นทุกอย่างมันพันกันหมด ต้องไปแก้จุดที่มันเป็นจุดอ่อน ขั้นตอน กระบวนการ กฎหมายต่างๆ ต้องไปดูตรงนั้นอีก ไม่อย่างนั้นก็เกิดช่องว่างอยู่อย่างนี้ ผมก็รับไม่ได้ตอนนี้ เหมือนกับพวกเรา อย่าให้มันเกิดขึ้นอีกนะ”