วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู/ เสถียร จันทิมาธร / ร่องรอยของเซี่ยอวี้ปรากฏ (56)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู/เสถียร จันทิมาธร

ร่องรอยของเซี่ยอวี้ปรากฏ (56)

มีเหตุผลอะไรที่ทั้งเหมยฉางซูและเหมิงจื้อมีบทสรุปร่วมว่าไม่ควรรั้งดึงแม่ทัพทั่วป๋าแห่งแคว้นเป่ยเอี้ยนให้ดำรงอยู่ในแคว้นเหลียงอย่างยืดเยื้อและยาวนาน

บทสรุปนี้แม้กระทั่งแม่ทัพทั่วป๋าก็ตั้งเป็นคำถามเช่นเดียวกัน

“เขาเป็นแม่ทัพ เป็นเสนาธิการของเป่ยเอี้ยน” เป็นคำอธิบายจากเหมยฉางซู “เป็นเขยรักของจักรพรรดิเอี้ยน ไม่ว่าจะฆ่าแกงหรือลบหลู่จักรพรรดิเอี้ยนกับตระกูลทั่วป๋าล้วนไม่เลิกราโดยง่าย ถึงตอนนั้นเพื่อทั่วป๋าฮ่าวคนหนึ่งถึงกับสร้างความขัดแย้งระหว่างประเทศ

ชายแดนขาดสันติสุข แล้วใครจะเป็นคนถูกส่งไปปราบศึกครั้งนี้ คงไม่ใช่รัชทายาทหรืออวี้หวังกระมัง”

เหมยฉางซูทอดเท้าเชื่องช้านำหน้า ปลายนิ้วทั้งสิบประกบกันแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“พี่เหมิง ท่านต้องเข้าวัง กราบทูลเรื่องที่ท่านปะทะกับทั่วป๋าฮ่าวต่อฝ่าบาท เป็นการกราบทูลรายงานและเป็นการขอรับโทษ เพราะหากท่านไม่พูด ไม่ช้าก็จะมีคนอื่นถวายรายงานต่อพระองค์ว่าท่านละเลยหน้าที่ ปล่อยให้ขุนนางสำคัญแคว้นอื่นลักลอบเข้าเมืองหลวง”

“เป็นไปได้อย่างไร หรือทั่วป๋าฮ่าวจะโง่เขลาจนถูกผู้อื่นสะกดรอยได้” เหมิงจื้ออุทานด้วยความประหลาดใจแล้วจึงนำไปสู่คำถาม “แล้วท่านทราบได้อย่างไร”

“พี่เหมิง ท่านเข้าใจว่าทหารตัวปลอมนั้นเป็นทั่วป๋าฮ่าวส่งมาชักนำท่านไป”

 

“ไห่เยี่ยน” ค่อยๆ ให้เหมิงจื้อใคร่ครวญแล้วก็ค่อยๆ กระจ่างตามสำนวนแปลของ “ลี หลิน ลี่” ว่า คนที่รู้ว่าพระจักรพรรดิทรงมีพระนิสัยเรียกให้เข้าเฝ้ากะทันหัน และทราบว่าทหารองครักษ์คนไหนมีหน้าที่ถ่ายทอดกระแสรับสั่ง

หนำซ้ำมีความสามารถลอกเลียนบุคลิกและใบหน้าแนบเนียนกระทั่งตบตาเหมิงจื้อได้ในตอนแรก

นั่นต้องเป็นผู้ที่ล่วงรู้ตื้นลึกหนาบางภายในกองทหารองครักษ์ของนครจินหลิงเป็นอย่างดี ย่อมมิใช่คนภายนอกเช่นทั่วป๋าฮ่าวที่เพิ่งลักลอบเข้ามาได้ไม่กี่วันอย่างแน่นอน

ความจริงทั่วป๋าฮ่าวสามารถล่วงรู้ว่าวันนี้ซูเจ๋อจะออกจากบ้าน กระทั่งมาซุ่มดักรอระหว่างทาง นี่มิใช่เรื่องง่ายแล้ว

เหมยฉางซูสังเกตจากสีหน้าของอีกฝ่ายก็ทราบว่าเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว

“ที่ข้าพอวิเคราะห์ได้คือ มีคนพยายามฉวยโอกาสลงมือในยามที่ข้าออกจากบ้านแต่ติดที่ท่านอยู่ข้างกาย ดังนั้น วางแผนหลอกล่อท่านออกไป คิดไม่ถึงทั่วป๋าฮ่าวกลับเข้ามาแทรกแซงระหว่างกลาง ทำลายแผนการของพวกมัน และยังไม่ทันได้ปรับเปลี่ยนแผน ท่านก็ไหวตัวทันไล่ตามมาเสียก่อน

ดังนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบพวกนั้นล้วนไม่กล้าเปิดเผยโฉมหน้า แต่ต่อให้พวกมันไม่ได้เข้าใกล้เพราะเพลงกระบี่ทะเลทรายของทั่วป๋าฮ่าวอานุภาพรุนแรงเกินไป แต่เราก็จะประมาทไม่ได้ ดังนั้น ท่านจำเป็นต้องชิงตัดหน้ากราบทูลต่อฝ่าบาทเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนพวกนั้นจะรู้ตัว”

เหมือนกับยังคลุมเครือ เหมือนกับยังไม่แจ่มชัด กระนั้น ในความเห็นของเหมยฉางซูพอจะจับเค้าร่างได้ในระดับที่แน่นอนหนึ่ง

 

กลุ่มคนที่ชักนำเหมิงจื้อออกไปด้วยการระบุว่าถูกเรียกตัวให้เข้าเฝ้า ไม่จำเป็นต้องสืบสาวก็ทราบว่าต้องเกี่ยวข้องกับรัชทายาทอย่างแน่นอน

เปรียบระหว่างกลุ่มรัชทายาทกับกลุ่มอวี้หวัง

เพราะตั้งแต่เหมยฉางซูมายังนครจินหลิง จะว่าไปก็มีแต่กลุ่มอำนาจของรัชทายาทที่เหมยฉางซูเคยล่วงเกินไว้ ส่วนทางฝ่ายอวี้หวังก็ยังมีความหวังที่จะได้ตัวอัจฉริยะฉีหลินอยู่ ดังนั้น คงไม่ส่งคนมาลอบสังหาร

เป็นไปได้ว่ารัชทายาทสืบจนล่วงรู้แล้วว่าเหมยฉางซูรับบทบาทใดในเรื่องของจวิ้นจู่ จึงหมดหวังที่จะหว่านล้อม สุดท้ายตัดสินใจดำเนินมาตรการ “เมื่อเอามาไม่ได้ก็ทำลายให้สิ้น”

เมื่อเป็นแผนของรัชทายาท ย่อมต้องเกี่ยวข้องกับเซี่ยวอวี้

ดีไม่ดีเส้นทางที่คนหามเกี้ยวเดินผ่านอาจถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า มิเช่นนั้น ภายในจินหลิงอันกว้างใหญ่ ทหารองครักษ์ปลอมคงไม่อาจตามหาเหมิงจื้อพบได้อย่างสะดวกราบรื่นปานนี้

ปมเงื่อนหนึ่งอันทำให้การจำแนกแยกแยะกระจ่างขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นก็คือกรณีของเซี่ยปี้

เด่นชัดว่าเซี่ยปี้ไม่รู้เรื่องแผนการลอบโจมตีและไม่คล้ายเป็นการเสแสร้ง เพราะนอกจากการสำรวจพฤติกรรมที่ผ่านมา เซี่ยปี้คนนี้ไม่เคยรู้ว่าบิดาตัวเองเหยียบเรือสองแคมโดยใช้ประโยชน์จากบุตรชายเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่มั่นคงและยั่งยืนในภายภาคหน้า

คิดถึงเซี่ยวอวี้ที่ถลำลึกจนถึงกับหลอกใช้บุตรชายคนโปรดของตัวเอง ในใจเหมยฉางซูยังเกิดความรู้สึกสะทกสะท้านขึ้นมาวูบหนึ่ง

เป็นความสะทกสะท้านเพราะผลพวงจากการต่อสู้แย่งชิงในอำนาจ

 

มีความแจ่มชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ แจ่มชัดในการกำหนดกลยุทธ์ของเหมยฉางซูภายหลังจากวางน้ำหนักไปยังจิ้งหวัง

ขณะเดียวกันก็มีความแจ่มชัดจากทางด้านของเซี่ยวอวี้

เป็นความแจ่มชัดที่เซี่ยวอวี้เลือกทางด้านรัชทายาท เป็นความแจ่มชัดที่เซี่ยวอวี้แยกห่างออกจากอวี้หวัง และเป็นความแจ่มชัดที่เหมยฉางซูแยกห่างออกจากจวนหนิงโหว

มีความจำเป็นที่เหมยฉางซูจักต้องเร่งกระบวนการ