‘ยิ่งลักษณ์’ สวนกลับ ‘ประยุทธ์’ จำนำข้าวชาวนาได้ลืมตาอ้าปาก เรือดำน้ำได้เป็นหนี้อีก10ปี

‘ยิ่งลักษณ์’ สวนกลับ ‘ประยุทธ์’ จำนำข้าวชาวนาได้ลืมตาอ้าปาก เรือดำน้ำได้เป็นหนี้อีก10ปี

วันนี้ (27 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวในวันนี้ ว่านโยบายจำนำข้าว เป็นหนึ่งในนโยบายที่สร้างความสูญเสียให้ประเทศ ทำให้เป็นหนี้ ต้องชดใช้จนถึงปัจจุบัน ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความตอบโต้ พลเอกประยุทธ์ แล้ว โดยระบุว่า

ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดซื้อเรือดำน้ำ โดยใช้วาระลับไม่มีการเปิดโอกาสให้หน่วยงานหรือสาธารณชนร่วมตรวจผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินที่ต้องมีภาระคำนึงถึงความจำเป็น ความเหมาะสมความคุ้มค่าและการเปรียบเทียบราคาอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทางราชการและประเทศชาติ และยังเป็นการใช้ภาระงบประมาณสูง ผูกพันหลายปีงบประมาณจนเป็นภาระหนี้ให้กับรัฐบาลถัดๆ ไปในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากนั้น

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็ได้ออกมากล่าวหาถึงโครงการรับจำนำข้าวว่าทำให้รัฐสูญเสียงบประมาณจำนวนมาก ต้องมาผ่อนชำระ ชดใช้หนี้ต่างๆในระบบการเงินการคลังของประเทศนั้นถือเป็นการให้ร้ายต่อรัฐบาลดิฉันทั้งที่ดิฉันก็อยากจะบอกว่า ถ้าพลเอกประยุทธ์ กล่าวหาว่าโครงการรับจำนำข้าวทำให้ประเทศเสียหาย ก็น่าจะเทียบได้กับการจัดซื้อรถถัง และเรือดำน้ำ แถมยังมีแผนจะจัดซื้อเพิ่มเติมในอนาคตอีก

ดิฉันขอยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าว เป็นการนำเงินทุกบาททุกสตางค์โอนเงินผ่าน ธ.ก.ส. จ่ายถึงมือชาวนาโดยตรงซึ่งมีผลทำให้ชาวนาได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก เศรษฐกิจดีขึ้น

แต่วันนี้พลเอกประยุทธ์บริหารประเทศมาถึง 3 ปีแล้วยังพบปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องแก้ไขถึงขั้นจะยกเลิกโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรคที่ดูแลสุขภาพประชาชน และปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ แต่กลับใช้เงินงบประมาณไปกับการซื้อรถถัง เรือดำน้ำซึ่งในอนาคตก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องซื้ออีกกี่ลำถึงจะสามารถป้องกันประเทศได้ ทั้งๆ ที่อ่าวไทยนั้นตื้นเขิน และยังต้องคำนึงถึงปัญหาเทคนิคด้านประสิทธิภาพที่ยังไม่เป็นข้อยุติ และประเทศก็อยู่ในสภาวะปกติที่ยังไม่มีภัยคุกคามจากเพื่อนบ้าน หรือแม้แต่ข้ออ้างของการจัดซื้อเพื่อใช้ดูแลทรัพยากรชายฝั่งก็คงไม่จำเป็นที่ต้องใช้เรือที่มีราคาแพงขนาดนี้ อย่างนี้ไม่รู้ว่าท่านในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารเลือกที่จะให้น้ำหนักความมั่นคงหรือปากท้องของประชาชนกันแน่ โดยเฉพาะภายใต้การบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐมนตรีภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ คณะรัฐมนตรีต้องปฏิบัติหน้าที่ให้สอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐและแผนยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งยังร่างไม่แล้วเสร็จ ก็หวังว่าปัจจุบันรัฐบาลนี้อยู่ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ก็ควรจะปฏิบัติตาม

ดิฉันจึงหวังว่าหน่วยงานราชการทั้ง สตง. และ ป.ป.ช. จะไม่ละเลยอำนาจหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจไว้ โดยเข้ามาตรวจสอบให้เข้มข้น เหมือนกับที่เคยทำกับรัฐบาลพลเรือนในอดีตโดยไม่เลือกปฏิบัติ และมีความเท่าเทียมกัน และไม่ควรมีการอ้างเรื่องชั้นความลับของทางราชการแต่อย่างใด เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาก็มีข้อคิดเห็นหรือทักท้วง ข้อเสนอแนะมาโดยตลอดทั้งทางเทคนิคด้านประสิทธิภาพ ความเหมาะสมกับการใช้งานในการดูแลความมั่นคงรวมถึงภาระหนี้ที่จะเกิดถึงในอีก 10 ปีข้างหน้าด้วย

ในที่สุดเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 60 ครม.ก็ได้เห็นชอบให้ซื้อเรือดำน้ำและเป็นวาระลับโดยไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ ทั้งๆ ที่บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญใหม่บังคับให้ “การบริหารราชแผ่นดิน คณะรัฐมนตรี ต้องเปิดเผยและมีความรอบคอบและความระมัดระวังในการดำเนินกิจการต่างๆเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม”