ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

 

‘ฟอร์จูนเนอร์’ – ‘ไฮลักซ์ รีโว่’

รุ่นใหม่ ‘สวยไฉไล-เติมไฮเทค’

 

ผ่านมา 5 ปีหลัง “โตโยต้า” แนะนำปิกอัพตระกูลไฮลักซ์ และรถอเนกประสงค์พีพีวี “ฟอร์จูนเนอร์” เจเนอเรชั่นที่ 2 จากโครงการ “IMV” (Innovative International Multi-purpose Vehicle) ที่ผลิตในเมืองไทยส่งออกไปทั่วโลก

โดยเจนฯ แรกที่เปิดตัวเมื่อปี 2547 ในชื่อไฮลักซ์ วีโก้ และฟอร์จูนเนอร์ รวมถึง “อินโนวา” รถเอ็มพีวี ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันทั้งหมด ส่งให้โตโยต้าผงาดเป็นเจ้าพ่อรถเซ็กเมนต์นี้อย่างต่อเนื่อง

กระทั่งในเจนฯ ที่ 2 เปลี่ยนชื่อปิกอัพเป็น “รีโว่” ส่วนรถพีพีวี ยังคงชื่อฟอร์จูนเนอร์เหมือนเดิม ขณะที่อินโนวาเริ่มแผ่วๆ ไป

รถในเจนฯ ที่ 2 ถือว่าประสบความสำเร็จพอตัว ขณะที่โตโยต้าเองพยายามดันรถรุ่นพิเศษเข้ามาเสริมทัพ เช่น รุ่นแต่งพิเศษ TRD Sportivo ปรับรุ่นย่อยใหม่ๆ รวมถึงส่งปิกอัพตัวเข้มอย่าง “ร็อคโค” (Rocco) เข้ามาด้วย

แต่ 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งรีโว่และฟอร์จูนเนอร์ ไม่เคยปรับโฉมมาก่อน

กระทั่งวันนี้โตโยต้าจัดการแปลงโฉมแบบ “ไมเนอร์เชนจ์” ให้รถทั้ง 2 รุ่น

เพิ่มทั้งความสปอร์ต และเทคโนโลยีการขับขี่-ความสะดวกสบาย เข้ามามากพอสมควร

รวมถึงส่งรุ่นพิเศษเข้ามาเป็นตัวเลือกทันที ไม่ให้เสียเวลารอคอยของลูกค้า

 

มาภายใต้แนวคิด “TOUGHNESS FOR EVERYONE” ตอบโจทย์ผู้ใช้ทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ

การออกแบบมีความแข็งแกร่ง ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น รูปลักษณ์ภายนอกใหม่ที่ให้ความแข็งแกร่งในทุกมิติ

ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Beam ไฟ LED Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding เพิ่มความโดดเด่น ในยามค่ำคืน

สำหรับรุ่นพิเศษ Rocco นอกจากจะมีชุดตกแต่งพิเศษ อาทิ สปอร์ตบาร์ และล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ พร้อมยางแบบ White Letters ที่เพิ่มความแข็งแกร่ง ดุดัน และความพรีเมียมแล้ว

ยังเพิ่มความสุด Exclusive ให้มากยิ่งขึ้นด้วย ออกแบบกระจังหน้าและกันชนหน้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น Rocco ที่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน

ห้องโดยสารเพิ่มความล้ำสมัยด้วยหน้าจอสัมผัส และมาตรวัดดีไซน์ใหม่ ตกแต่งให้สอดรับกับการออกแบบภายนอก

วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบพิเศษและไฟส่องสว่างภายใน

หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้อย่างอิสระ พร้อม T-Connect ระบบเชื่อมต่อรถ และผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียว

หน้าจอ TFT แสดงข้อมูลตำแหน่งองศาของล้อ และติดตั้งสัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และมุมกันชนหน้า-หลัง เพื่อช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบข้างในขณะขับขี่

ระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่

 

เครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร

ช่วงล่างปรับปรุงและพัฒนาขึ้นใหม่แบบ “Super Flex Suspension” โดยเฉพาะในส่วนของการดูดซับแรงกระแทกของโช้กอัพ และเปลี่ยนวัสดุของแหนบ เพื่อยกระดับความนุ่มสบายให้มากยิ่งขึ้น เสมือนนั่งรถ SUV ระดับหรู

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบ Off-Road เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบต่อนาที เป็น 680 รอบต่อนาที) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง ราบรื่น

ครั้งแรกกับการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) มาไว้ในรถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุด

อาทิ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)

ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)

ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert) ฯลฯ

 

ส่วน “ฟอร์จูนเนอร์” นอกจากดีไซน์ใหม่แล้ว ยังมีรุ่นพิเศษที่มีความแตกต่างจากรุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน

การออกแบบรุ่นมาตรฐาน รูปลักษณ์ภายนอกปรับดีไซน์กระจังหน้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมแถบกันชนล่างสีเงิน เพิ่มความรู้สึกแข็งแกร่งให้กับตัวรถ ดูหรูหรา บึกบึนมากยิ่งขึ้น

ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-me-home

ปรับชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่เป็นแบบ LED พร้อม Light Guiding เพิ่มความโดดเด่นในยามค่ำคืน

นอกจากนี้ ยังปรับล้ออัลลอย 18 นิ้วดีไซน์ใหม่ให้รับกับตัวรถ

ห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง มาตรวัดเรืองแสง Optitron ใหม่ พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 4.2 นิ้ว

หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay พร้อมระบบ T-Connect สามารถแสดงสถานะตัวรถและเช็กตำแหน่งผ่านสมาร์ตโฟนได้

กระจกมองข้างปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ และแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

 

ขณะที่รุ่นพิเศษ “Legender” ออกแบบแตกต่างจากรุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน เรียกว่ามองผาดๆ ก็ดูออกว่าแตกต่างกัน คำนึงถึงความสวยงามของเส้นสายที่ดูเฉียบคมมากยิ่งขึ้น ตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพิ่มความโฉบเฉี่ยว ด้วยสัดส่วนกระจังหน้าที่แตกต่างไป

ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential ไฟสูงและไฟต่ำแบบ LED ปรับระดับไฟสูงต่ำอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-me-home

ดีไซน์กันชนหลังใหม่ให้สอดรับกับดีไซน์ด้านหน้า

ล้ออัลลอย 20 นิ้วเป็นดีไซน์ใหม่ พร้อมกับหลังคาทูโทน ให้ความโดดเด่น ดีไซน์หรูหรา แบบ Sport Premium PPV

ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า และ Kick Sensor เปิดประตูโดยไม่ต้องใช้มือสัมผัส

ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, มาตรวัดเรืองแสง Optitron ใหม่ พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 4.2 นิ้ว, หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay พร้อมระบบ T-Connect สามารถแสดงสถานะตัวรถและเช็กตำแหน่งผ่านสมาร์ตโฟนได้, กระจกมองข้างปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ และแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ Soft Touch เดินด้ายสีแดงพร้อมลายไม้แบบ Galaxy Black และแถบสีเงิน

ฐานเกียร์ตกแต่งลายไม้แบบ Galaxy Black พร้อมแถบสีเงิน

ติดตั้งไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่แผงคอนโซลหน้า, แผงข้างประตู และที่วางเท้าแถวที่ 1

 

ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร

และเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะทุกรุ่นย่อย

เทคโนโลยีความปลอดภัย มีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาทิ

กล้องมองภาพรอบคันพร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ เพิ่มทัศนวิสัย และความปลอดภัย

ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบเบรก ABS/EBD/BA, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC, เซ็นเซอร์กะระยะรอบคัน และดิสก์เบรก 4 ล้อ ฯลฯ

สนนราคา ไฮลักซ์ รีโว่ เริ่มต้น 544,000-1,159,000 บาท

ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค ราคา 949,000-1,239,000 บาท

และฟอร์จูนเนอร์ มี 3 รุ่นย่อย ราคา 1,564,000-1,839,000 บาท

 

---

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่