พิศณุ นิลกลัด | ฟุตบอลบุนเดสลีกากลับมาแล้ว

พิศณุ นิลกลัด

ฟุตบอลบุนเดสลีก้าของเยอรมนีเพิ่งกลับมาแข่งขันในฤดูกาลที่เหลือต่อในวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา

เป็นฟุตบอลลีกใหญ่ของโลกลีกแรกที่กลับมาแข่งขัน บรรยากาศการแข่งขันแบบไม่อนุญาตให้แฟนๆ เข้าไปชมในสนามเป็นไปอย่างกร่อยๆ ไม่มีเสียงเชียร์จากผู้ชมนอกจากเสียงของนักฟุตบอลที่แข่งขัน กับเสียงตะโกนสอนเป็นระยะๆ จากโค้ช

เวลายิงเข้าประตู นักฟุตบอลก็ดีใจกันพอประมาณ ไม่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเหมือนแต่ก่อน

ทำได้เต็มที่ก็แค่เอาท่อนแขนชนกันแสดงความดีใจ

ถามว่าอีกนานเท่าไหร่กว่าที่แฟนๆ กีฬาทั่วโลกจะได้เข้าไปชมการแข่งขันในสนามจริง และถ้าสามารถเข้าชมการแข่งขันสดที่สนามได้ แฟนๆ กีฬาจะกล้าเข้ามั้ย

งานสำรวจของมหาวิทยาลัยซีตัน ฮอลล์ (Seton Hall University) ในสหรัฐอเมริกา สอบถามแฟนกีฬาอเมริกันจำนวน 762 คน ระหว่างวันที่ 6-8 เมษายน

พบว่า จำนวน 72% บอกว่าพวกเขาไม่กล้ากลับเข้าสนามกีฬาไปเชียร์ทีมรัก ตราบใดที่ยังไม่มีการค้นพบวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19

กรณีที่ลีกกีฬากลับมาแข่งขันก่อนการค้นพบวัคซีนป้องกันไวรัส มี 12% บอกว่า พวกเขาจะกลับเข้าไปเชียร์หากทางสนามมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เช่น มีการตรวจอุณหภูมิแฟนกีฬาก่อนเข้าสนาม ให้แฟนกีฬาสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือทั่วถึงรอบสนาม

รวมถึงจำกัดจำนวนแฟนกีฬาในสนามเพื่อสามารถเว้นเก้าอี้ให้นั่งเชียร์

มีงานสำรวจอีกชิ้น จัดทำโดยแฮร์ริส โพล (Harris Poll) ถามแฟนกีฬาอเมริกันจำนวน 2,029 คน ระหว่างวันที่ 18-20 เมษายน เกี่ยวกับการไปเข้าชมกีฬาในสนามหลังผ่านช่วงวิกฤตโควิด-19

พบว่า แฟนกีฬาชาวอเมริกัน 21% บอกว่า พวกเขาไม่กล้าเข้าไปชมการแข่งขันกีฬาในสนามที่คับคั่งไปด้วยแฟนกีฬาอีกต่อไป ไม่ว่าทางสนามจะมีมาตรการด้านสุขภาพเข้มงวดขนาดไหนก็ตาม

คนจำนวน 31% บอกว่า พวกเขาอาจรู้สึกปลอดภัยที่จะเข้าสนามไปเชียร์กีฬา ถ้าทางสนามมีมาตรการบังคับให้แฟนกีฬาทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

ในมุมมองของแฟนกีฬาอเมริกันจำนวน 57% บอกว่า เมื่อใดก็ตามที่ลีกกีฬากลับมาแข่งขันกันตามปกติอีกครั้ง พวกเขาอาจจะรอเวลาอีกอย่างน้อย 4 เดือน หรือนานกว่านั้น จึงจะคิดเรื่องการกลับเข้าสนามไปเชียร์ทีมรัก

มีเพียงแค่ 6% บอกว่า พวกเขาจะกลับไปเชียร์ทีมรักถึงขอบสนามทันทีที่สามารถทำได้

แอนดรูว์ ปีเตอร์สัน (Andrew Peterson) อาจารย์ด้านเวชศาสตร์การกีฬา จากมหาวิทยาลัยไอโอวา (University of Iowa) และนายแพทย์ใหญ่ประจำทีมอเมริกันฟุตบอล Iowa Hawkeyes ทีมใน NCAA ดิวิชั่น 1 บอกว่า สนามกีฬานั้นเหมือนจานเพาะเชื้อ ยิ่งสนามแน่นขนัดไปด้วยผู้ชมก็ยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมเชื้อไวรัส

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ได้รับเชื้อในร่างกายนั้นใช่ว่าจะแสดงอาการออกมาอย่างชัดเจนเหมือนกันทุกคน การจะทำให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมทันทีนั้นเป็นเรื่องยาก อย่างน้อยการเริ่มจากแข่งขันในสนามปิดและดูถ่ายทอดสดทางทีวีก็เป็นแนวทางที่ดูสมเหตุสมผล

ในความคิดของแฟนกีฬาหลายคน ถึงแม้จะไม่สามารถเข้าไปเชียร์การแข่งขันในสนามได้ แต่ถ้าได้ไปอยู่รอบนอกสนามและดูการถ่ายทอดสดบนจอยักษ์ร่วมกับแฟนๆ อีกจำนวนมากก็น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกว่านั่งดูถ่ายทอดสดเหงาๆ คนเดียวที่บ้าน

ทีมเอฟซี มิดทิลแลนด์ (FC Midtjylland) จ่าฝูงลีกฟุตบอลสูงสุดของประเทศเดนมาร์กในขณะนี้ ได้เกิดไอเดียหลักแหลมด้วยการจะทำ Drive-in ที่สนามเหย้า MCH Arena ให้แฟนๆ ได้ขับรถส่วนตัวเข้ามาจอดบริเวณลานจอดรถฝั่งด้านหน้าและด้านหลังสนาม โดยจะมีทีวีจอยักษ์ 2 จอถ่ายทอดบรรยากาศการแข่งขันฟุตบอลที่กำลังเกิดขึ้นสดๆ ในสนาม ให้ความรู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดกับการแข่งขันมากที่สุดแต่ยังอยู่ในระยะที่ปลอดภัย

พื้นที่ดังกล่าวสามารถรองรับรถยนต์ได้ 2,000 คัน แบ่งเป็นฝั่งแฟนบอลทีมเหย้าและทีมเยือน ส่วนเสียงนั้นจะใช้การถ่ายทอดผ่านสัญญาณวิทยุซึ่งแฟนๆ สามารถเปิดฟังได้จากในรถ

ในขณะเดียวกันภาพบรรยากาศที่ลานจอดรถก็จะฉายขึ้นจอในสนามเพื่อให้นักฟุตบอลได้เห็นว่ามีแฟนบอลจำนวนมากคอยเชียร์อยู่ในรถรอบนอกสนาม

เพรเบน รอคเคียร์ (Preben Rokkj?r) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของสโมสรเอฟซี มิดทิลแลนด์ บอกว่า ทางทีมต้องการตอบแทนแฟนฟุตบอลด้วยการสร้างประสบการณ์ชมฟุตบอลที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน

ซึ่งถ้าหากไอเดียดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทางสนามก็มีแผนเตรียมที่จะขยายพื้นที่ Drive-in ออกไปยังลานจอดรถส่วนอื่นๆ รอบนอกสนามซึ่งจะรองรับรถของแฟนบอลได้อีก 10,000 คัน ให้แฟนๆ ได้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์เชียร์ฟุตบอลแบบใหม่กันมากขึ้น

ในกรณีฉุกเฉินอย่างแฟนบอลต้องการจะใช้ห้องสุขา รอคเคียร์บอกว่า แฟนบอลสามารถกะพริบไฟรถให้เจ้าหน้าที่เห็น จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะมารับ-ส่งไปยังห้องสุขาพร้อมกับตรวจความสะอาดหลังใช้งาน

นอกจากนี้ ทางสนามจะมีการมอบรางวัลให้แก่ฝั่งแฟนบอลทีมเหย้าที่ตกแต่งรถมานั่งเชียร์ได้สวยโดนใจกรรมการมากที่สุดในแต่ละนัด

ไอเดียนี้จะนำมาลองใช้ทันทีที่ Danish Superliga เริ่มกลับมาแข่งนัดตกค้างของฤดูกาล 2019-2020 อีกครั้งแบบสนามปิด ในวันที่ 29 พฤษภาคม และคาดว่าจะจบฤดูกาลได้ภายในปลายเดือนกรกฎาคม

บรรยากาศการดูฟุตบอลช่วงโควิด-19 เหมือนการนั่งในรถดูหนังกลางแปลง เริ่มขึ้นที่อมริกาเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน และฮิตสุดๆ เมื่อราวปี 1940-1960 ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมของคนทุกเพศทุกวัย

ครอบครัวที่มีลูกเล็กก็สามารถขับรถมานั่งดูหนังกลางแปลงในรถส่วนตัว ให้นมเลี้ยงลูก เปลี่ยนผ้าอ้อมไปด้วย ดูหนังไปด้วย ไม่มีใครรำคาญหากลูกร้องเสียงดัง

ส่วนวัยรุ่นที่จีบกันใหม่ๆ จะทำอะไรในรถ ก็ไม่มีใครเห็น!!!