นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารขสมก. มีมติเห็นชอบมาตการเยียวขสมก. จากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ตามที่ขสมก. เสนอแล้ว โดยขณะนี้ขสมก. ได้นำเสนอมาตรการเยียวยาต่อไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อขอรับจัดสรรงบเยียวยาในส่วนต่างๆ แล้ว

สำหรับงบเยียวยาที่ขสมก. เสนอขอรับการชดเชยจากกระทรวงคมนาคม มีวงเงินรวมทั้งสิ้น 500 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนเม.ย.-ก.ย. 2563 ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1. งบประมาณด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 อาทิ ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ เจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย การจัดทำประกันภัยโควิด-19 ให้แก่พนักงานอื่นๆ วงเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท 2. งบประมาณที่จะนำมาชดเชยเยียวยาผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก. ผู้เช่า และร้านค้าที่เช่าพื้นที่ ขสมก. ที่ได้รับผลกระทบจากโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้รายได้จากการประกอบการขนส่ง หรือการจำหน่ายสินค้าลดลง วงเงินรวมทั้งสิ้นกว่า 80 ล้านบาท

และ 3. งบประมาณที่จะนำมาเยียวยา ขสมก. จากการดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างที่นั่ง ซึ่งทำให้อัตราการบรรทุกผู้โดยสารต่อคันลดลง 50% ส่งผลให้รายได้ต่อคันลดลง โดยขสมก. ขอรับการชดเชยรวมทั้งสิ้น 400 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน คือ เม.ย.-ก.ย. 2563

อย่างไรก็ตาม ขสมก. ไม่ใช่หน่วยงานเดียวที่จะเสนอขอเยียวยาผลกระทบที่เกิดจากโรคไวรัสโควิด-19 หน่วยงานบริการอื่นๆ ภายในกระทรวงคมนาคมก็อยู่ระหว่างการจัดทำมาตรการเยียวยาเพื่อเสนอมายังกระทรวงคมนาคม โดยกระทรวงจะรวบรวมมาตรการเยียวยาของทุกหน่วยงานเสนอขอการพิจารณาอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

นายสุระชัย กล่าวต่อถึงความคืบหน้าโครงการการติดตั้งแผ่นอะคริลิคใสกั้นระหว่างพื้นที่พนักงานขับรถและพื้นที่การโดยสารบนรถโดยสารประจำทางปรับอากาศของขสมก. เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ให้กับพนักงานขับรถ ว่า หลังจาก ขสมก. ได้ทดลองติดตั้งแผ่นอะคริลิคใสในรถเมล์แอร์ จำนวน 4 คัน และได้เปิดรับฟังความเห็นจากผู้ใช้บริการปรากฎว่าผู้ใช้บริการบางส่วนมองว่าการติดตั้งแผ่นใสดังกล่าวสร้างความปลอดภัยเฉพาะคนขับรถเมล์เท่านั้น ไม่ครอบคลุมถึงพนักงานเก็บค่าโดยสารที่ยังคงมีความเสี่ยงจากการเดินไปเดินมาบนรถอาจจะไม่คุ้มค่าการดำเนินงาน ประกอบกับอาจจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เพราะปัจจุบัน ขสมก. มีรถอยู่หลายพันคัน รวมทั้งขสมก. ยังมีข้อจำกัดเรื่องของงบประมาณจึงเห็นควรว่าควรยกเลิกการดำเนินโครงการติดตั้งแผ่นอะคริลิคใสบนรถเมล์ไปก่อน