“อนุสรณ์” ชี้รัฐใช้ “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-เคอร์ฟิว” ฟุ่มเฟือย จี้สร้างสมดุลสุขภาพ-เสรีภาพ-เศรษฐกิจ

“อนุสรณ์” ชี้รัฐใช้ “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-เคอร์ฟิว” ฟุ่มเฟือย จี้สร้างสมดุลสุขภาพ-เสรีภาพ-เศรษฐกิจ

เคอร์ฟิว- เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ของรัฐบาล ว่า รัฐบาลกำลังหลงทาง หลายเรื่องไม่ควรทำ กลับทำ แต่ละทิ้งในสิ่งที่ควรทำ

“ถกเถียงกันเพียงว่าจะปรับเวลาเคอร์ฟิวเป็นเวลาใด จะขยับเข้าหรือขยับออก มากกว่า 50 จังหวัด เป็นพื้นที่ปลอดเชื้อ เอาผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละคนสองคน บางวันเป็น 0 มาขังคนไทย 67 ล้านคน หลบหลังโควิด-19 ปกปิดการบริหารงานที่ล้มเหลว เพียงเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กระชับอำนาจ เป็นรัฐบาลพรรคร่วมมากที่สุด แต่กลับไร้เสถียรภาพมากที่สุด โรงเรียนเปิดไม่ได้ แต่ห้างเปิดได้ สแกนแอพพ์ฯไทยชนะ ประชาชนก็กังวลว่าจะถูกแฮกข้อมูล เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูล การยืด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการคงประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก” นายอนุสรณ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบหนักทางเศรษฐกิจ ยิ่งกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งกว่า 10 เท่า รัฐต้องเผชิญมรสุมอย่างน้อย 3 ลูก คือ โควิด-19 ฟื้นฟูเยียวยาเศรษฐกิจ และวิกฤตการเมืองทั้งในพรรคและนอกพรรค รัฐต้องสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพ เสรีภาพ และเศรษฐกิจ ให้เกิดขึ้นให้ได้ ไม่ใช่เอาทุกปัญหาไปกลบไว้ใต้โควิด

“โควิด-19 ไม่ได้ควบคุมได้จาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเคอร์ฟิว แต่ควบคุมจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ถ้ารัฐบาลยังคงกระชับและใช้อำนาจอย่างฟุ่มเฟือยไม่มีที่สิ้นสุด อาจเกิดปฏิกิริยาสะท้อนกลับที่รัฐบาลไม่อาจรับมือได้” นายอนุสรณ์ กล่าว