เปิดใจ “แนทเธอรีน” ในวันไร้นามสกุล “BNK48” และวิบากกรรม “โควิด” กับถ้วยแชมป์ของ “หงส์แดง”

นับตั้งแต่วงไอดอลกรุ๊ปชื่อดัง “BNK48” ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากเพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” ซึ่งเป็นเพลงหลักในซิงเกิลที่ 2

มาถึงวันนี้ กลุ่มศิลปินไอดอลหญิงของไทยกำลังจะมีผลงานเพลงใหม่ในซิงเกิลที่ 9 หลังเพิ่งได้เซ็นเตอร์คนใหม่ ที่มาจากพลังโหวตของแฟนๆ รวมมูลค่าสูงกว่า 20 ล้านบาท นั่นก็คือ “เจน-กุลจิราณัฐ อินทรศิลป์”

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เกิดความเปลี่ยนแปลงกับวง BNK48 อย่างมากมาย ทั้งในเรื่องของ 2 พี่น้องผู้บริหารตระกูลบวรวัฒนะ อย่าง “ต้อม จิรัฐ” และ “จ๊อบซัง ณัฐพล” ที่ประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่ เนื่องจากความผิดพลาดในการบริหารจัดการ

แต่ยังคงสถานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด (ไอแอม) เอาไว้เหมือนเดิม

รวมถึงการขาดหายไปของสมาชิก ที่หลายคนตัดสินใจเดินออกจากโรงเรียนไอดอลแห่งนี้ ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่แตกต่างกันไป

ไม่ว่าจะเป็น “เค้ก-นวพร จันทร์สุข” “อุ้ม-ณัชชา กฤษฎาสิมะ” “นิ้ง-มนัญญา เกาะจู” และ “แนทเธอรีน-ดุสิตา กิติสาระกุลชัย”

ทีมข่าวมติชนทีวีมีโอกาสสัมภาษณ์ “แนทเธอรีน” อดีตสมาชิก BNK48 รุ่นที่ 2 เพื่อชักชวนให้เธอถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตช่วงที่อยู่ในวง BNK48 และก้าวต่อไปของตนเองหลังจากไม่มีนามสกุล BNK48 ต่อท้ายแล้ว

“ไฮไลต์ของการเป็นสมาชิก BNK48 หนูคิดว่ามันคือประสบการณ์ค่ะ เราได้เรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่เคยเรียนรู้ ได้เห็นในสิ่งที่เราไม่เคยเห็น ได้ทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำค่ะ

“สิ่งที่หนูประทับใจที่สุดตอนอยู่ในวงคือแฟนคลับ พวกเขาเปรียบเสมือนครอบครัวค่ะ หนูไม่เคยคิดเลยว่า เขาคือคนที่จ่ายเงินให้เรา เพื่อให้เรามีเงินใช้

“แฟนคลับเป็นแรงผลักดันที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตหนู ไม่ว่าหนูจะทำอะไรก็ตาม พวกเขาทุกคนทำให้หนูสามารถดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าได้อย่างมีความสุขค่ะ” แนทเธอรีนกล่าว

แม้แนทเธอรีนจะประกาศ “จบการศึกษา” จากวง BNK48 ตั้งแต่วันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา แต่ทางต้นสังกัดยังไม่ได้ทำพิธีปลดรูปและไม่ได้จัดการแสดงสเตจอำลาในโรงละครให้ตามธรรมเนียมของไอดอล 48 กรุ๊ป

เนื่องจากตกลงเรื่องรายละเอียดในสัญญากันไม่ลงตัว โดยมีปัจจัยหลักมาจากเหตุผลทางธุรกิจ

“วันแรกที่เราเข้ามา เราไม่ได้คิดว่ามันจะมีเรื่องของธุรกิจมาเกี่ยวข้องมากขนาดนั้น ด้วยความที่เรายังเป็นเด็กอยู่ เหมือนพอเข้ามาแล้ว เราได้เห็นภาพของธุรกิจ มันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าอาจจะไม่เหมาะกับระบบนี้ อาจจะไม่เหมาะกับธุรกิจนี้ หนูก็เลยตัดสินใจเดินออกมาค่ะ เพราะว่าเราไม่มีความสุข” เด็กสาววัย 20 ปี กล่าว

แนทเธอรีนบอกว่า หลังตัดสินใจลาออกจากวง BNK48 เธอก็หันมารับงานในวงการบันเทิงอย่างอิสระ โดยมีคุณพ่อดุสิต กิติสาระกุลชัย เป็นเสมือนผู้จัดการส่วนตัว คอยติดต่อประสานงานกับผู้ว่าจ้างให้ด้วยตัวเอง

“งานที่ทำอยู่ตอนนี้ หลักๆ จะมี 3 งานค่ะ คือ 1.ถ่ายยูทูบ โดยมีโปรดักชั่นของพี่ๆ เสือร้องไห้ทำให้ค่ะ 2.แคสต์เกมร่วมกับ Hashtag E-Sports และ 3.รายการฟุตบอลกับพี่เบลล์ ขอบสนาม ค่ะ นอกจากนี้ ก็ยังรับงานอื่นๆ ด้วย เช่น งานถ่ายโฆษณา ถ่ายแบบ หรืองานสัมภาษณ์ต่างๆ ทั้งนิตยสาร และสื่อต่างๆ รับหมดเลยค่ะ

“จากนี้หนูจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดต่อไปค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะออกจากวง BNK48 มาแล้ว แต่ก็จะยังคงทำงานด้วยจิตวิญญาณ ใส่พลังทั้งหมดลงไปในงาน อยากให้ทุกคนติดตามผลงานด้วยค่ะ” แนทเธอรีนเผย

ขณะเดียวกัน ไอดอลสาวก็ไม่ได้ทิ้งเรื่องการเรียน ปัจจุบันเธอกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยเลือกเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ ภาคอินเตอร์

สําหรับใครที่รู้จักแนทเธอรีน คงทราบดีว่าเธอชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างมากและมักจะโพสต์เชียร์ทีมฟุตบอลต่างๆ ลงในโซเชียลมีเดียทุกๆ สัปดาห์ แต่ทีมที่เธอเชียร์ส่วนใหญ่กลับพ่ายแพ้เกือบตลอด จึงทำให้เธอได้รับฉายาจากแฟนบอลในไทยว่า “ธิดาชาวสวน”

ที่สำคัญ แนทเธอรีนยังเป็นสาวกเดอะค็อป “หงส์แดง-ลิเวอร์พูล” ตัวยง

“หนูเชียร์ลิเวอร์พูลตามคุณพ่อค่ะ แต่ว่าตอนแรกก็ไม่ได้อินมากนะคะ แรกๆ ก็ยังแซวคุณพ่ออยู่เลย พ่อเชียร์ทำไม เป็ดกากจะตาย ทำไมถึงไม่เชียร์ทีมเก่งๆ อย่างแมนฯ ยูไนเต็ด คือช่วงก่อนหน้านี้แมนฯ ยูฯ เคยรุ่งเรืองใช่ไหมคะ เด็กรุ่นใหม่ก็น่าจะชอบแมนฯ ยูฯ กัน

“แต่คุณพ่อบอกว่า จริงๆ มันสนุกนะเวลาที่เราเชียร์ทีมที่เป็นรอง แล้วตอนที่ผงาดขึ้นมาได้ มันเป็นอะไรที่มีความสุขที่สุดเลย”

แนทเธอรีนเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเชียร์ลิเวอร์พูล โดยมี “สตีเว่น เจอร์ราร์ด” กับ “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” เป็น 2 นักเตะที่ชื่นชอบ

เมื่อถามถึงความรู้สึกในฐานะของแฟนบอลลิเวอร์พูลที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปี แนทเธอรีนบอกว่า นี่คือฝันดีที่สุดของเดอะค็อปทุกคน ซึ่งในที่สุดมันก็จะมาถึงเร็วๆ นี้แล้ว

แต่โชคไม่ดี ที่ลิเวอร์พูลต้องมาเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค “โควิด-19” ที่ส่งผลกระทบทำให้โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกช่วงโค้งสุดท้ายต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้อาจจะมีการยกเลิกการแข่งขันหรือประกาศให้ผลการแข่งขันที่ผ่านมาเป็นโมฆะ แต่ล่าสุดก็มีการยืนยันจาก 20 สโมสรในลีก ที่เห็นพ้องตรงกันว่าจะกลับมาฟาดแข้งต่อให้จบแน่นอน

“จริงๆ หนูคิดว่าสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดหนักในยุโรป ก็ไม่น่าถึงขนาดว่าจะยกเลิกฤดูกาลนี้ แล้วไม่ให้อะไรกับลิเวอร์พูลเลย หนูคิดว่าไม่น่าใช่นะคะ

“บางทีอาจจะเป็นการยุติโดยที่ยึดคะแนนปัจจุบัน หรืออาจจะเลื่อนโปรแกรมออกไปก่อน รอให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แล้วค่อยกลับมาแข่งต่อก็ได้

“หนูไม่เชื่อหรอกว่าโควิด-19 มันจะทำให้ลิเวอร์พูลไม่ได้แชมป์ เป็นไปไม่ได้แน่นอนค่ะ เชื่อมั่นกันต่อไปนะคะ ถ้าเกิดได้แชมป์ขึ้นมา มาร้อง Allez Allez Allez ให้ลั่นเมืองกันเลยค่ะ”

เดอะค็อปสาวกล่าวทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้ม