นิพิฏฐ์ข้องใจ ดุลพินิจ จนท.แต่ละด่านทำ ปชช.-พ่อค้า-แม่ค้า ขนส่งผลิตผลสุดวุ่น

เมื่อวันที่ 7 เมษายน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความแสดงความเห็นเรื่อง สินค้าเกษตรข้ามเขตจังหวัด ระบุว่า

ขณะนี้ แต่ละจังหวัดได้มีคำสั่งห้ามเข้าเขตจังหวัดกันหลายจังหวัด ปัญหาที่เริ่มเกิดขึ้นคือ ดุลพินิจของด่านแต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน หรือแม้กระทั่งในจังหวัดเดียวกันก็ใช้ดุลพินิจไม่เหมือนกัน ที่มีปัญหามาก คือ ประชาชนที่เป็นพ่อค้า-แม่ค้า ส่งสินค้าเกษตร เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา หรืออาหาร บางด่านนี่ไม่ให้เข้าเลย แต่บางด่านก็ให้เข้า

ลองคิดตามผมมาอย่างนี้ครับ ถ้าเราไม่ให้พ่อค้า-แม่ค้า ชาวบ้านขนกุ้ง หอย ปู ปลา ไปขายหรือไปส่งตามตลาดนัด แต่เรายอมให้รถส่งสินค้าของโลตัส, แม็คโคร, บิ๊กซี, ฯลฯ ผ่านไปได้สะดวกโยธิน ใครจะได้ประโยชน์ใครจะเสียประโยชน์ ใครจะรวยขึ้น ใครจะจนลง เห็นคำตอบอยู่แล้ว ถ้ายิ่งปิดจังหวัดกันนานๆ ชาวบ้านจะเดือดร้อน

ผมเป็นฝ่ายสนับสนุนให้ปิดจังหวัดเพื่อลดการระบาดของโรคมาตั้งแต่แรก แต่เมื่อเรายังไม่ปิด 24 ชม. เรายังปิดแบบมีข้อยกเว้น การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่จึงมีความสำคัญ

ผมมีความเห็น 3 ประการ

1.หากเป็นคำสั่งที่เหมือนกันดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ต้องเหมือนกัน ยิ่งจังหวัดเดียวกันยิ่งต้องเหมือนกัน
2.กระทรวงมหาดไทยควรซักซ้อมความเข้าใจเรื่องนี้กับ ผวจ.ทุกจังหวัดให้เข้าใจตรงกัน
3.ควรมีสายด่วนให้ประชาชนสอบถามได้ทุกจังหวัดตลอดเวลา 24 ชม. และควรมีคู่สายเยอะๆ เพราะติดต่อสอบถามยากมาก

มาตรการตาม พ.ร.ก.ก็ดี ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อก็ดี เป็นเรื่องของความมั่นคงของรัฐ เป็นข้อยกเว้นของกฎหมาย ตามหลักที่ว่า “ความมั่นคงของรัฐอยู่เหนือกฎหมาย” แต่เมื่อพลเมือง เป็นองค์ประกอบสำคัญของความเป็นรัฐ การรักษาดูแลให้พลเมืองอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อนเกินสมควรจึงเป็นเรื่องที่รัฐพึงกระทำด้วย รัฐจึงพึงรักษาสมดุลนี้ไว้ให้ดี