เผยแพร่ |
---|
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังมาตรการชุดที่ 3 ในการดูแลเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ซึ่งมาตรการออกมานี้จะมีขนาดใหญ่กว่า 2 ชุดมาตรการแรกรวมกัน เพราะผลกระทบดังกล่าวเกิดขึ้นแรงมากและยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด ดังนั้น ชุดมาตรการจะต้องออกมารองรับให้เพียงพอ
นายอุตตม กล่าวว่า รายละเอียดของมาตรการนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งจะมีทั้งการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง และ ถือโอกาสสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่นระดับฐานราก นอกจากนี้ จะเข้าไปดูแลเรื่องระบบการเงิน ระบบตลาดทุน ฉะนั้น ชุดมาตรการที่จะออกมานี้ จะเป็นชุดมาตรการที่ครอบคลุมทุกกลุ่มและผู้ที่ได้รับผลกระทบ
นายอุตตมกล่าวต่อว่า มาตรการที่จะออกมาจะมีทั้งการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบและดูแลภาพรวมเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน เมื่อคิดรูปแบบมาตรการเสร็จแล้ว จึงจะรู้จำนวนเงินที่จะต้องใช้ ซึ่งสำหรับแหล่งเงินนั้น ทางสำนักงบประมาณและหน่วยงานเกี่ยวข้องจะเป็นผู้ดูแล ซึ่งยืนยัน รัฐบาลจะสามารถหาแหล่งเงินได้
“รัฐบาลมีแหล่งเงินเพียงพอที่จะทำมาตรการ ไม่มีปัญหาถังแตกแน่นอน ยังไม่จำเป็นต้องไปกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ไม่มีอย่าแน่นอน ซึ่งพ.ร.ก.กู้เงินเป็นทางเลือกหนึ่ง นอกเหนือจากงบประมาณที่สำนักงบประมาณกำลังพิจารณางบมาใช้ดูแลโควิด-19 โดยยืนยันว่าการใช้เงินในการดูแลเศรษฐกิจนั้น จะไม่กระทบต่อวินัยการเงินการคลังอย่างแน่นอน โดยจะยังคงกรอบเพดานหนี้สารธารณะต่อจีดีพีไม่เกิน 60%”นายอุตตม กล่าว
นายอุตตม กล่าวว่า ส่วนกรณีกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟท์โลน)นั้น ธนาคารออมสินกันไว้เพื่อธุรกิจท่องเที่ยวโดยตรง ส่วนธุรกิจการบินขอรับความช่วยเหลือจากคลังนั้นก่อนหน้านี้มีการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันไปช่วยเหลือ และหากต้องการเงินสามารถมาขอใช้ซอฟท์โลนที่มีอยู่รวม 1.5 แสนล้านบาทได้
“ผลกระทบจากโควิด-19 จะมีต่อจีดีพีปีนี้ให้ขยายตัวติดลบเท่าไหร่ยังบอกไม่ได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อถึงเมื่อใด ส่วนที่แบงก์ชาติประเมินจะติดลบ 5.3% สะท้อนถึงผลกระทบกำลังเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ ส่วนตัวเลขจริงจะไปจบที่ไหน บอกไม่ได้”นายอุตตมกล่าว