เช่าโน้ตบุ๊กทำงานที่บ้าน | บจ.แห่ตั้งโต๊ะซื้อหุ้นคืน | ชูแพ็กเกจลงทุนหน้ากาก

แฟ้มข่าว

เช่าโน้ตบุ๊กทำงานที่บ้าน

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีและสมาร์ตโฟนรายใหญ่ของประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและประชาชนในประเทศ ที่ต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด ดังนั้น เพื่อสอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน บริษัทได้ออกแคมเปญให้เช่าโน้ตบุ๊ก หรือไอแพด รองรับการทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home โดยให้เช่าอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย และมีการลงโปรแกรมซอฟต์แวร์พร้อมสำหรับใช้งาน ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มองค์กรที่ไม่มีอุปกรณ์เพียงพอ

บุหรี่ผิด กม.ระบาดในไทย

นายพงศธร อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า เดือนตุลาคมนี้ภาษีสรรพสามิตบุหรี่ใหม่มีผลบังคับใช้ จะทำให้ตัวเลขการลักลอบค้าบุหรี่ไม่เสียภาษีจะเพิ่มขึ้น เพราะราคาขายบุหรี่ที่เสียภาษีถูกต้องจะแพงกว่ามากถึง 30-40 บาทต่อซอง ทั้งนี้ จากการสำรวจซองเปล่าบุหรี่ ซึ่งทำการสำรวจโดยนีลเส็น ระหว่างวันที่ 1-23 ตุลาคม 2562 โดยการเก็บตัวอย่างซองเปล่าบุหรี่ที่ถูกทิ้งตามท้องถนนและสถานที่ทิ้งขยะสาธารณะจำนวน 10,000 ซอง พบว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนบุหรี่ไม่เสียภาษีกลับมาเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก หลังจากที่มีสัดส่วนลดลงแล้วในปีก่อนหน้า โดยตัวเลขขยับขึ้นมาเป็น 6.6% ในปี 2562 เพิ่มขึ้นจาก 5.2% ในปี 2561

ชูแพ็กเกจลงทุนหน้ากาก

น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 9 เมษายนนี้ จะเสนอมาตรการส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ (แพ็กเกจพิเศษ) ที่เพิ่มสิทธิพิเศษจูงใจให้เกิดการลงทุนมากขึ้น รองรับความต้องการในช่วงเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 แต่จะมีเงื่อนไขกำหนดระยะเวลาลงทุนเพื่อเร่งให้เกิดการลงทุนที่เร็วขึ้น จากปัจจุบันไทยมีผู้ผลิตหน้ากากอนามัย 11 แห่ง มี 5 แห่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอและผลิตแล้ว จำนวนนี้มี 4 รายอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรและก่อสร้างโรงงานเพิ่มมีกำลังผลิตรวมที่ระบุไว้ในบัตรส่งเสริมการลงทุนประมาณ 3 แสนชิ้นต่อวัน และมีผู้มายื่นขอบีโอไอลงทุนอีก 4 ราย

บจ.แห่ตั้งโต๊ะซื้อหุ้นคืน

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยผันผวนหนัก โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีหุ้นของหลายบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปรับลดลงมากกว่าพื้นฐานของธุรกิจ จากที่นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยง จึงเห็นภาพของการออกมาประกาศซื้อหุ้นคืนของ บจ.จำนวนมาก โดยหากเปรียบเทียบกับอดีตที่ผ่านมา ไม่มีครั้งใดที่ บจ.ออกมาตั้งโต๊ะซื้อหุ้นคืนมากเท่าครั้งนี้ ยอมรับว่าขณะนี้ราคาหุ้นส่วนใหญ่ ปรับลดลงต่ำกว่ามูลค่าความจริงเยอะมาก

เข้มทัวร์บุฟเฟ่ต์ผลไม้

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การดำเนินการเพื่อช่วยเหลือและติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับโควิด-19 ในภาคการเกษตรนั้น ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ทั่วประเทศเข้มงวดเกี่ยวกับสุขอนามัยในส่วนของเกษตรกรที่จัดกิจกรรมท่องเที่ยวแบบบุฟเฟ่ต์ผลไม้และแรงงานในสถานประกอบการคัดบรรจุและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยมอบหมายให้คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) เฝ้าระวังและป้องกันโรคต่างๆ อย่างเข้มงวด แล้วรายงานสถานการณ์ต่อคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (ฟรุต บอร์ด) ซึ่งมีปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานทุกระยะอีกด้วย

บอร์ด กคช.ไม่รับงบฯ ดูงาน

ณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ประธานกรรมการ (บอร์ด) การเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 บอร์ด กคช.ได้มีการประชุมร่วมกับฝ่ายบริหารระดับสูงของ กคช. เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ในระยะยาว และจะมีมาตรการอื่นๆ เสริมในกรณีจำเป็นฉุกเฉินโดยยึดประชาชนเป็นหลัก บอร์ด กคช.จึงมีนโยบายไม่ขอรับงบประมาณการศึกษาดูงานที่ กคช.จัดเตรียมไว้ให้คณะกรรมการ ตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่ง โดยขอให้นำงบประมาณในส่วนนี้ไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง สามารถพิสูจน์ได้ หากมีการทุจริตเกิดขึ้นต้องโดนดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด และได้รับการลงโทษสูงสุดทางวินัยคือให้ออกจากงาน

ดันไทยฐานผลิตอีวี

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ความคืบหน้าการผลักดันไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) อีก 5 ปีข้างหน้า ตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างทำงานร่วมกับกระทรวงพลังงานและกระทรวงคมนาคม ผลักดันไทยเป็นฐานผลิตอีวี ทั้งในส่วนของรถยนต์ จักรยานยนต์ และรถบัสสาธารณะ เพื่อเชื่อมโยงระบบคมนาคม สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และลดปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5

ล่าสุดได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบริษัท โชคนำชัยแมชชีนนิ่ง จำกัด จ.สุพรรณบุรี ผู้ผลิตและประกอบยานพาหนะต่างๆ อาทิ รถยนต์ รถบัส และเรือ สัญชาติไทยรายใหญ่ของประเทศ ถือเป็นสถานประกอบการที่มีศักยภาพความพร้อม ต่อยอดผลิตชิ้นส่วนและการประกอบยานยนต์ไฟฟ้าได้