อุรุดา โควินท์ / ทางรอดอยู่ในครัว : กลับมาคบปลากระป๋อง

โควิดทำให้ตระหนักว่าเรารักชีวิตเหลือเกิน ไม่ว่ายุ่งยากเพียงใด เราพร้อมสู้เพื่อจะรอดจากเชื้อไวรัสชนิดนี้

ฉันเลิกซื้อทุกอย่าง เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เลิกซื้อมาพักหนึ่งแล้ว เพราะเริ่มรู้สึกว่าใส่อะไรก็สวยพอๆ กัน ที่มีอยู่ในตู้น่ะ หยิบๆ มาใส่เถอะ ถ้าเราคิดว่าตัวเองสวยคือจบ

โควิดทำให้ฉันประหยัดลงอีก เพราะฉันจ่ายไปกับหน้ากาก เจลล้างมือ สเปรย์ฆ่าเชื้อ ทิชชูเปียก ทิชชูฆ่าเชื้อ ยอมรับว่าฉันออกจะเยอะสักหน่อย ซึ่งมันจำเป็นสำหรับฉัน

เพราะถ้าฉันทำทุกอย่างเท่าที่คิดได้ ฉันย่อมสบายใจ ปล่อยวางความกังวลลง และอยู่กับสถานการณ์อย่างสงบ

ใช้ชีวิตที่ไม่ปกติราวกับว่ามันปกติ

ซื้อทั้งหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัย เพราะเราไม่สามารถซื้อหน้ากากอนามัยใช้ทุกวัน-แพงอะไรปานนั้น

เรามีหน้ากากผ้าคนละห้าชิ้น ใส่แล้วถอดอย่างระวัง ถอดปุ๊บเราแช่น้ำผงซักฟอกทันที แช่ไว้สักพักค่อยเอามาซัก ตากแดดหนึ่งแดดเต็ม แล้วรีดก่อนใช้

หน้ากากผ้ามีดีตรงสวย เราเลือกช่างเย็บประณีต ใช้ผ้าดี ลายผ้าดูดี มีความหนาหลายชั้น แต่หน้ากากผ้าป้องกันน้ำไม่ได้ ใส่นานๆ อาจชื้น พาเชื้อโรคเข้าไปได้ ไม่เป็นไร เราแก้ปัญหาด้วยการเลือกใช้หน้ากากผ้าในพื้นที่เสี่ยงน้อย ในวันที่เราใส่ไม่นาน ส่วนหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียวทิ้งนั้น เราเก็บไว้ใส่ในที่ที่มีคนเยอะ อย่างห้างสรรพสินค้า สนามบิน หรือพื้นที่ใดก็ตามที่คาดว่าเชื้อโรคจะชอบ

เรากินข้าวนอกบ้านน้อยที่สุด ถ้าจำเป็นต้องกิน เราเลือกกินก๋วยเตี๋ยว โดยพกช้อน พกตะเกียบไปเอง และดื่มน้ำจากขวดของเราเอง

ใช่-เราระวังอย่างวังเว่อร์ เพื่อความสบายใจ

 

เจลแอลกอฮอล์เรามีติดรถติดกระเป๋า ก่อนจับใบหน้า ก่อนถอดหรือใส่หน้ากาก เราล้างมือ หลังจับเงิน เราล้างมือ และบอกตัวเองว่า อย่ายุ่งกับใบหน้านัก

โควิดทำให้ฉันยิ่งเห็นว่าอาหารที่ทำเองนั้นดีแค่ไหน อร่อยกว่า สะอาดกว่า ประหยัดกว่า และหลากหลายกว่า

หนึ่งสัปดาห์เราจ่ายสองหน ซื้อผักที่เหี่ยวยากมาเก็บไว้ ซื้อหมู ซื้อไก่ ซื้อไข่ พริก มะนาว หามาให้พร้อมปรุง

มีคาร์โบไฮเดรตหลากหลายในครัว พาสต้า ข้าวหอมมะลิใหม่ ข้าวหอมมะลิกลางปี ข้าวเหนียว ข้าวกล่อง หมี่ซั่ว

คลังแสงของเราพรั่งพร้อม ไม่ออกจากบ้านอีก 3 วันก็ยังได้

“มื้อกลางวันกินอะไรดี” ฉันถามเขา

“อยากกินยำปลากระป๋อง” เขาว่า

ฉันหัวเราะ “จริงเหรอ”

“ไม่ได้กินมาเป็นปีแล้วนะ”

จริงของเขา ถ้าไม่มีโควิด ฉันไม่หยิบปลากระป๋องจากชั้นวางแน่ๆ ยี่ห้อโปรดของเขาด้วยสิ

“ขอดูแป๊บนะ ถ้าสะระแหน่ยังงามอยู่ ก็น่าทำ” ฉันบอกเขา แล้วเดินเข้าครัว

สะระแหน่สำคัญมาก ทำให้ยำปลากระป๋องสดชื่นอย่างซาบซ่าน สำหรับฉัน ยำปลากระป๋องที่ขาดสะระแหน่ถือว่าไม่ควรทำ

เขาโชคดี สะระแหน่ยังสด เรามีตะไคร้ มีพริกขี้หนู มีหัวหอม เป็นหอมเมืองเสียด้วย ยำปลากระป๋องต้องเด็ดแน่

ซอยทุกอย่างให้ละเอียด ยกเว้นสะระแหน่ที่เด็ดเป็นใบ

เลือกชามใหญ่สักหน่อย เพราะเครื่องเคราต้องเต็มที่ จำเป็นต้องใส่ให้มาก เพราะปลากระป๋องหนึ่งกระป๋องเล็กนั้น เมื่อเอามาคลุกยำ ได้ปริมาณเยอะมาก ถ้าเราใส่เครื่องน้อย มันจะเหมือนเรากินปลากระป๋องเปล่าๆ

เทปลากระป๋องลงไปก่อน แบบชิ้นใหญ่ๆ นั่นเลย ค่อยไปคลุก ไปยีตอนกิน

โรยตะไคร้ซอย หัวหอมซอย พริกขี้หนูซอย ใบสะระแหน่

มากแค่ไหนน่ะเหรอ

ชนิดไม่เห็นปลากระป๋องนั่นละ จึงจะอร่อย

เยาะน้ำปลานิดหน่อย แล้วบีบมะนาวสักเสี้ยว

ข้าวสุกพอดี เจียวไข่สามฟอง แล้วเรียกเขาออกมา

ผายมือไปที่โต๊ะ “ยำปลากระป๋องตามสั่งค่ะ แถมไข่เจียวให้ด้วย”

“ฮืม น่ากิน”

ลองบอกไม่น่ากินสิ ฉันคิด

 

คราวนี้เราก็ยีปลากระป๋อง คลุกทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วเอายำปลากระป๋องไปคลุกข้าวอีกที กินกับไข่เจียว

ทำไมอร่อยอย่างนี้

คงเพราะไม่ได้กินเป็นปี นานๆ กินทียังไงก็อร่อย

ฉันจะไม่ขอบคุณโควิดหรอกนะ ที่ทำให้ฉันกลับมาคบกับปลากระป๋อง

ขอบคุณตัวเองดีกว่า ที่ค้นหาความบันเทิงในความยุ่งยากเก่งนัก ที่ขยันทำอาหาร ที่ไม่เบื่อล้างจาน ที่ไม่เหนื่อยกับการดูแลตัวเองและคนรัก

ต้องขอบคุณครัวของฉันด้วย ที่ยังไม่พัง ไม่มีอะไรเสียหาย ขอบคุณแม่และยายที่ขยันงานครัว

ฉันเป็นเด็กที่แยกกะเพราออกจากโหระพาได้ รู้ว่าจะเด็ดมันอย่างไร แถมยังรู้ว่าใส่ในอาหารชนิดใดบ้าง

แม่กับยายไม่เคยสอน ฉันเรียนรู้จากการลงมือทำ