แมลงวันในไร่ส้ม

ประชาชน vs ผู้นำ

ใครโง่กันแน่!

วิวาทะ ‘โควิด-19’

การบริหารงานเพื่อแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 ระบาดของรัฐบาล เรียกแขกให้มาถล่มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างต่อเนื่อง

ในโลกออนไลน์ คำพูดของ “วรรณิษา เรซ” หรือ “หนูดี” ที่เผยแพร่สมัยน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ว่า “ผู้นำโง่เราจะตายกันหมด” กลับมาฮิตอีกครั้งอย่างย้อนแย้ง เพราะเอามาใช้กับนายกฯ ที่โค่นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยรัฐประหารเมื่อปี 2557

คำว่า “ผู้นำโง่เราจะตายกันหมด” เผยแพร่ทางออนไลน์ โดยมีการสร้างสรรค์ใหม่ เป็นคำย่อว่า “ผนงรจตกม” มีความหมายในเชิงลบต่อการบริหารงานของรัฐบาลปัจจุบัน

และกลายเป็นเรื่องราวขึ้นมา เมื่อเฟซบุ๊กพลังประชารัฐ นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความว่า “ประชาชนโง่ เราจะตายกันหมด”

พร้อมกับอธิบายว่า ปัญหาประเทศที่ขยายใหญ่โตมาจากองคาพยพของการเมืองในประเทศ ส่วนเรื่องโควิด-19 ยังไม่เห็นว่าเป็นเพราะความโง่ของรัฐบาลที่ทำให้เกิดขึ้น แต่เป็นเพราะความโง่ของประชาชน ดังนี้

1. มีประชาชนร้องให้ปิดประเทศ เข้าใจถึงผลกระทบต่อการปิดประเทศหรือไม่ มีเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่ปิดประเทศป้องกันโรคคือ เกาหลีเหนือ ที่จีนกับอิตาลีเขาปิดเมือง เพราะต้องการกักโรคในเมืองของเขาไม่ให้ระบาดไปที่อื่น
2. รัฐบาลปกปิดตัวเลขผู้ป่วยที่แท้จริง คนที่พูดแบบนี้ได้คือคนโง่ระดับ 75% ใช้ล้างมือแทนแอลกอฮอล์ได้เลย ประเทศนี้จะสามารถปกปิดอะไรได้
3. การติดเชื้อไข้หวัดเพิ่มขึ้นจนเอาไม่อยู่แล้ว เพราะผู้นำโง่ แต่ความจริงคือ เอ็งนั่นแหละโง่ มีประเทศไหนบ้างที่ผู้ติดเชื้อไม่เพิ่ม เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐ แบบนี้ผู้นำพวกนั้นก็คงโง่มาก เพราะประเทศเหล่านี้มียอดเพิ่มขึ้นแบบยกกำลัง

ขอยกตัวอย่างความโง่ของประชาชน ที่ทำให้การติดเชื้อเพิ่มขึ้น ได้แก่

– ลุงป้า 2 คนที่ไปเที่ยวประเทศเสี่ยง ไม่ยอมกักตัวเอง แถมโกหกหมอ

– ประชาชนบางคนเสียดายค่าตั๋วมากกว่าชีวิต เดินทางไปยังประเทศเสี่ยง อัดยาพาราเซตามอลลดไข้ 2-3 เม็ด ทั้งขาไปและขากลับเพื่อให้รอดจาก ตม.

– คนโง่อีก 10 กว่าคนที่จัดปาร์ตี้ฉลองเที่ยวกลับมา กินเหล้าแก้วเดียวกัน ดูดบุหรี่ ดูดไอซ์มวนเดียวแล้วติดโรคกันยกเซ็ต ไม่ต้องถามว่า โง่หรือไม่โง่

แล้วขอถามอีกว่า พวกเอ็งไม่รู้เลยเหรอ เกิดมาในประเทศนี้โชคดีมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกแล้ว ทำไมถึงด่าคนอื่นให้เป็นเรื่องเป็นราว

สรุปได้ว่า ตอนนี้มีศัตรูมารุกรานอยู่หน้าบ้าน คนไทยยังแยกแยะไม่ได้ ตอนนี้ศัตรูเราคือเชื้อโรค ไม่ใช่ผู้นำ ถ้ามันจะไปไม่รอด อย่าไปโทษใคร โทษประชาชนนั่นแหละที่พาฉิบหาย

ปรากฏว่า โพสต์ดังกล่าวของ ส.ส.ศาสตรา โดนถล่มอย่างหนัก จนเจ้าตัวต้องออกมาแถลงขอโทษ โดยอ้างว่าข้อความ “ประชาชนโง่ เราจะตายกันหมด” ตนเองนำของคนอื่นมาแชร์

 

ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มมากขึ้น จนมีผู้สงสัยว่า สถานการณ์เลวร้ายเข้าสู่ “ระยะ 3” ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของโรคระบาดที่มีการติดเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ในพื้นที่กว้างขวางแล้วหรือไม่

รัฐบาลได้จัดประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 16 มีนาคม และเผยว่า เตรียมจะสั่งปิดสถานบันเทิง กิจกรรม สถานศึกษา หรืออื่นใดที่มีประชาชนมารวมตัวกันมาก

มีข่าวว่านายกฯ จะแถลงข่าวเอง สุดท้ายเลื่อนไปแถลงในเวลา 19.00 น.

คำแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ระบุตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยสามารถชะลอการแพร่กระจายของโรคได้ดี ด้วยระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง และความร่วมมือของทุกฝ่าย แต่การระบาดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุสำคัญเกิดขึ้นจากการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก และเป็นช่วงที่มีจำนวนผู้ป่วยเกิดขึ้นมากทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย

ทำให้ประชาชนกังวล กลัวการติดเชื้อ เริ่มมีการกักตุนหน้ากากอนามัยและสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งไม่มีความจำเป็น

ขอย้ำว่ารัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจ จนถึงวันนี้ รัฐบาลและทุกภาคส่วน บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ทำงานเต็มที่

เพื่อลดการสูญเสียให้น้อยที่สุด รัฐบาลขอให้งดกิจกรรมในสถานที่ที่มีการชุมนุมจำนวนมาก ปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง ยกระดับการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มข้น

และขอความร่วมมือของประชาชน อาทิ งดไปต่างประเทศ รักษาสุขอนามัยส่วนตัว หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด สวมหน้ากากอนามัย ยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร

อย่ากักตุนของ อย่าวิตกกังวลจนเกินไป มีความเชื่อมั่นในรัฐบาล ขอความร่วมมือผู้ที่ยังไม่มีอาการ ไม่มีประวัติเสี่ยงติดเชื้อ และแพทย์วินิจฉัยแล้วว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องตรวจ ก็ขอให้สังเกตอาการต่อไป เพื่อไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย

ขอความร่วมมือหยุดการกระจายข่าวที่ไม่เป็นความจริง และทิ้งท้ายว่า

“การระบาดของโรคนี้ยังคงดำเนินไปอีกระยะหนึ่ง ผมรู้ว่าพวกเราทุกคนต้องลำบาก ต้องเจ็บปวด แต่เราต้องอดทนร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน ผมขอขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายและประชาชนทุกคน ประเทศไทยต้องชนะ” นายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อย้ำถึงความเอาจริงเอาจัง

 

พล.อ.ประยุทธ์ออกมาแถลงด้วยรูปร่างที่ซูบผอม และเนื้อหาที่ซ้ำกับข่าวที่มาจากศูนย์ก่อนหน้านี้แล้ว

ทำให้แฮชแท็ก #ประยุทธ์ออกไป ขึ้นอันดับ 1 ในเทรนด์ประเทศไทย

และพบว่า มีการแสดงความไม่พอใจต่อแถลงการณ์ของนายกฯ เนื่องจากมีการประกาศล่วงหน้าหลายชั่วโมง มีการเลื่อนเวลา แต่เนื้อหาจริงไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ

สถานการณ์ของประชาชนที่ต้องดิ้นรนในห้วงเวลาไวรัสระบาด และสภาพเศรษฐกิจที่ฝืดหนัก ถือว่าหนักสุดๆ แล้ว

ขณะที่รัฐบาลก็หนักไม่แพ้กัน

วิกฤตนี้จะคลี่คลายหรือหนักหน่วงขึ้นอีก กำลังเป็นที่สงสัยของทุกฝ่าย