เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคจากกรณีที่มีการเรียกร้องให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แสดงความรับผิดชอบจากกรณีปัญหาหน้ากากอนามัย ว่า คนในครอบครัวก็คุยกันว่ามีเหตุผลอะไร เมื่อคืนได้มีโอกาสทานข้าวในกลุ่มฝ่ายบู๊ที่ทำงานช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่มีการส่งสัญญาณอะไรเป็นพิเศษ เป็นเพียงนัดกันล่วงหน้ากันเฉยๆ และวันนี้จะใช้สิทธิความเป็นประชาชน และส.ส.ที่ประชาชนบอกให้มาพูดเรื่องนี้ โดยยังคิดว่า ร.อ.ธรรมนัส ต้องใช้ดุลพินิจของท่าน เราไม่มีสิทธิไปบังคับหรือปลดท่านออก อยู่ที่การตัดสินใจของท่านเอง ส่วนส.ส.ในพรรคก็ลงพื้นที่กันหมด ในไลน์กลุ่มไม่มีใครพูดถึง

เมื่อถามว่า ถ้ากรณีเกิดขึ้นกับตัวเองจะลาออกหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า “เป็นผมเหรอครับ การลาออกเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ผมออก ถ้าสมมติว่าพิสูจน์แล้วขาวสะอาดทางผู้ใหญ่อาจจะพิจารณา ให้กลับมาเหมือนเดิม ถ้าเป็นผม ผมลาออกนะครับ ส่วนสิทธิของใครใครจะคิดอย่างไรเป็นสิทธิส่วนบุคคล” เมื่อถามถึงบทบาทการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ต่อเรื่องนี้ นายสิระ กล่าวว่า อยากถามว่าหน้ากากอยู่ไหน ถ้ามีการจำหน่ายจะจำหน่ายไปที่ไหน มีการเสียภาษีหรือไม่ ต้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน และตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในฐานะผู้ติดตามรัฐมนตรีมีพฤติกรรมอย่างไรก็ต้องตรวจสอบ เมื่อถามว่า เคยเห็นพฤติกรรมของผู้ติดตามของ ร.อ.ธรรมนัสบ้างหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า “อย่าให้เล่าเลย มันพูดไม่ได้ในที่สาธารณะ พูดไม่ได้ครับ ผมโดนไป 3 คดี”

นายสิระ กล่าวอีกว่า คนที่ให้ข้อมูลตนเกี่ยวกับการกักตุนหน้ากากมีข้อมูลจริง แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับคนสนิทของ ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่ ขอเอาไว้ก่อน เพราะคนให้ข้อมูลตนก็กลัวจะเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม ยอมรับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯได้โทรศัพท์มาหาบอกให้ทานข้าวมากๆ นอกจากนี้พวกที่คนท้าตนให้ลาออกจากการไปแจกหน้ากากไม่มีคุณภาพ อยากบอกว่าเงินก็เป็นเงินของตน มีใจบริสุทธิ์ใช้เงินภาษีประชาชนไปดูแลประชาชน

“ขอถามกลับไปยังนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พปชร. ว่าวิกฤตของประชาชน คุณเป็นผู้แทนราษฎรเหมือนผม คุณก็รับเงินเดือนเหมือนผม คุณทำอะไรให้กับประชาชนบ้างหรือยังจากกรณีไวรัสโควิด-19 ผมยังคิดอยากจะทำทุกอย่าง คุณไม่ต้องควักเงินก็ได้ คุณไปตรวจสิว่าหน้ากากขาดแคลนเพราะอะไร แค่นี้คุณก็ทำให้ประเทศแล้ว คุณเป็นผู้แทนราษฎรเหมือนผม ไม่มีอะไรครับเคลียร์กันแล้ว ต่างคนต่างลงพื้นที่ ส่วนประเด็นเรื่องการแต่งตั้งผู้ติดตามนั้นต้องถามว่าต้องรับผิดชอบหรือไม่ ถ้าบอกว่าไม่รู้จักกันแล้วมาแต่งตั้งยิ่งเจ็บ เพราะตัวเองเป็นคนเซ็นออกบัตรให้เอง คนในบ้านเรา จะเปรียบเทียบก็ว่าเกินไปนะ ที่ไปกัดชาวบ้านเขา เจ้าของต้องรับผิดชอบ คนอยู่ในบ้านไปกัดคนอื่นก็ต้องรับผิดชอบ อะไรที่อยู่ในบ้านและสังกัดเราก็ต้องรับผิดชอบ จะมาบอกว่าไม่รู้จัก มันหนักกว่าอีก โอเคนะ อย่าให้ดุไปกว่านี้เดี๋ยวจะไม่สุภาพ” นายสิระ กล่าว