การศึกษา / ‘แฟลชม็อบ’ นักเรียนนักศึกษา พลังเงียบ ‘นิวโหวตเตอร์’ ที่จุดติด

การศึกษา

 

‘แฟลชม็อบ’ นักเรียนนักศึกษา

พลังเงียบ ‘นิวโหวตเตอร์’ ที่จุดติด

 

ทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค 16 คน จำนวน 10 ปี ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 วันเดียวกันนั้นก็เกิดการชุมนุมก่อหวอดที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และมีการจุดเทียนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

และนับแต่นั้นก็ได้มีสถาบันการศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยและโรงเรียนมัธยมศึกษา ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในรูปแบบแฟลชม็อบ แต่งชุดดำ และติดแฮชแท็กข้อความโจมตีรัฐบาล รวมแล้วเกือบ 50 แห่ง

อาทิ #เสาหลักจะไม่หักอีกต่อไป ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, #ที่ยุบอนาคตใหม่พี่มหาลัยกูทั้งนั้น ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, #KUไม่ใช่ขนมหวานราดกะทิ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, #ช้างเผือกจะไม่ทน #มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, #KKUขอโทษที่ช้าโดนสลิ่มลบโพสต์ ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น, #ฝุ่น6ล้านหรือจะสู้ท่าน9เสียง ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, #ลูกพ่อขุนไม่รับใช้เผด็จการ ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง, #ศิลปากรขอมีซีน ของมหาวิทยาลัยศิลปากร, #ศาลายางดกินของหวานหลายสี ของมหาวิทยาลัยมหิดล

#มศวขอมีจุดยืน #รากฐานจะหารด้วย ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, #ถึงจะอยู่ไกลขอส่งใจที่ลานแปดเหลี่ยม ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม, #มอนออยากออกจากกะลา ของมหาวิทยาลัยนเรศวร, #สามพระจอมจะยอมได้ไง ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

#พระจอมเกล้าชอบกินเหล้าไม่ชอบกินสลิ่ม ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, #ถึงมออยู่ใกล้หลายค่ายก็ไม่ได้ชอบเผด็จการ ของมหาวิทยาลัยสุรนารี, #ทีมลูกระนาดอยากจะฟาดบ้างแม่ ของมหาวิทยาลัยบูรพา, #BUกูไม่ใช่สลิ่ม ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ, #บลูบานเย็นไม่ได้เป็นขนมหวาน ของมหาวิทยาลัยรังสิต, #ฟ้ามุ่ยไม่คุยเผด็จการ ของมหาวิทยาลัยพะเยา, #ราชมงคลจะไม่ทนอีกต่อไป ของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชมงคล

และ #ราชภัฏอยากงัดกับสลิ่ม ของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ

 

ปรากฏการณ์นักเรียน นักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง เราไม่เห็นนานแล้ว ครั้งสุดท้ายที่เห็นคือ เคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ และคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ

แต่การเคลื่อนไหวดังกล่าว ก็ไม่ได้พรึบทั้งประเทศเหมือนกับครั้งนี้!!

ครั้งนี้ความน่าสนใจอยู่ที่การเคลื่อนไหวของพลังเงียบ ขยายไปถึงกลุ่มนักเรียนซึ่งเป็นกลุ่มนิวโหวตเตอร์เมื่อเดือนมีนาคม 2562 โดยกิจกรรมแฟลชม็อบของนักเรียนมัธยม เริ่มจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนศึกษานารีวิทยา โรงเรียนสตรีวิทยา โรงเรียนสตรีนนทบุรี และล่าสุดโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี

นอกจากนี้ โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ยังติดแฮชแท็ก #ลูกบดินทรไม่อินเผด็จการ และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ติดแฮชแท็ก #สกไม่ง้อลุง

 

จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) กล่าวระหว่างกิจกรรมแฟลชม็อบ ที่ลานปรีดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ว่า นักศึกษาเยาวชนโดนกดขี่โดยใครไม่รู้ในประเทศนี้ เราเชื่อว่าเหตุการณ์ที่ผ่านไป จะไม่ใช่เหตุการณ์สุดท้าย ถ้าเราไม่ลุกขึ้นมา เหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นอีก ถึงเวลาแล้วที่เราจะลุกขึ้นมาร่วมกันต่อสู้ ขอให้ทุกคนร่วมส่งเสียงอีกครั้ง เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 ได้มีการซักซ้อมการชุมนุมใหญ่ที่บริเวณหน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ซึ่ง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว อดีตนักศึกษา ผู้เคยเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล คสช. และเรียกร้องการเลือกตั้งช่วงปี 2557-2561 ระบุว่า ที่ผ่านมาเป็นการแสดงออกของนักศึกษาแต่ละสถาบัน แต่การชุมนุมวันที่ 29 กุมภาพันธ์ เป็นการเปิดกว้างให้นักศึกษาทุกสถาบัน ตลอดจนประชาชนได้มีโอกาสมาร่วมชุมนุมกันเพื่อแสดงออกทางการเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ระบุว่า เข้าใจถึงความต้องการของเขาและเด็กๆ แต่ก็ขอให้ระมัดระวัง นายกฯ คงไปโกรธเกลียดใครไม่ได้อยู่แล้ว เห็นใจ แต่ก็ต้องรับฟังช่องทางหลายๆ ช่องทางดูบ้าง จะได้รู้ว่าประเทศชาติควรจะเดินต่อไปอย่างไร ก็ขอให้กำลังใจเพราะเป็นคนรุ่นใหม่ เราไม่ได้ว่าอะไรเลย แต่ก็ต้องรับฟังอะไรบางอย่างด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องกฎหมาย มันจะอันตรายในวันข้างหน้า

“อะไรหลายๆ อย่างมีปัญหามาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นคดีเสื้อสีอะไรก็ตาม เห็นหรือเปล่าว่ากลายมาเป็นคดีต้องขึ้นศาลกันระนาวอยู่ตอนนี้ แล้ววันหน้าจะทำอย่างไร เด็กเหล่านี้คืออนาคตของประเทศ จะผิดจะถูกอย่างไรก็ตาม ก็ต้องติดตามรับฟังความคิดเห็นอื่นๆ ด้วย ฟังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งข้างเดียวมันจะเป็นอยู่อย่างนี้ ประเทศไทยก็ไปไม่ได้ เห็นใจเขา สงสารเขา”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

 

ด้านนายสุขุม นวลสกุล นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ กล่าวว่า การรวมตัวของนักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศเป็นผลมาจากความรู้สึกว่ามีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น วันนี้ก็คงมีแค่นี้ไปก่อน แต่ในอนาคตจะมีการชุมนุมมากขึ้นหรือน้อยลงก็ต้องขึ้นอยู่กับบทบาทของสังคมต่อไป

ถ้าสังคมแสดงให้เห็นว่ามีความอยุติธรรมเพิ่มขึ้นอีก ความรู้สึกจากการมีส่วนร่วมในการแสดงออกก็จะเพิ่มขึ้น และต้องดูว่ามีผู้มีอำนาจรัฐจะสนใจลดปรอทหรือจะเร่งอุณหภูมิ

สำหรับนายกรัฐมนตรีก็ไม่ควรมองเฉพาะเรื่องการชุมนุมว่าจะทำผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งผิดประเด็น เพราะการชุมนุมเป็นการแสดงออก ถ้าเกิดปรากฏการณ์อะไรที่นักศึกษา นักเรียนเห็นว่าไม่ยุติธรรมเพิ่มขึ้นอีก หรือการแสดงออกที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ผู้ปกครองที่มีอำนาจรัฐรู้สึกอะไร ก็เหมือนเป็นการเร่งไฟหรือเติมเชื้อ ถ้าสร้างปัญหาแบบเดิมอีกการชุมนุมคงไม่จบ ขณะนี้ยังไม่ถือว่าเป็นการชุมนุมประท้วง แต่เป็นการแสดงออกจากอาการหมดความอดทน ดังนั้น ผู้มีอำนาจรัฐควรไปให้ถูกทาง

         ต้องรอดูว่า ปรากฏการณ์แฟลชม็อบในกลุ่มนักเรียนและนิสิตนักศึกษาที่กระแสจุดติดคราวนี้ จะพลิกโฉมหน้าการเมืองไทยอย่างไรหรือไม่